17 ส.ค. เวลา 07:17 • ความคิดเห็น
เรากลับมองว่า ความไม่มีอะไรเลยนั้นน่ากลัวที่สุด หากคุณจน แต่คุณยังพอจะมีความรู้และทักษะบางอย่างติดตัว ได้พบคู่อุปถัมภ์ที่ดี มีคนรอบข้างที่ดี มีญาติสนิทมิตรสหายที่ดี มีเพื่อนบ้านที่ดี พระนักบวชที่เมตตา มีจนท.รัฐ หรือจนท.หน่วยงานรัฐ ที่เอาใจใส่ คุณก็ยังพอจะเอาชีวิตให้รอดได้
1
คนที่ยิ่งมีฐานะร่ำรวย มักจะเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และหวาดระแวง กลัวไม่สวย/หล่อ กลัวไม่เลิศหรู กลัวดูไม่รวยพอ กลัวไม่มีใครรู้ว่ารวย กลัวป่วย กลัวพิการ กลัวตาย กลัวน้อยหน้า กลัวเสียชื่อเสียง กลัวความโดดเดี่ยวไร้ญาติขาดมิตร เวลาทำบุญบริจาค ต้องมีสลักป้ายชื่อให้เด่นชัด ต้องได้ที่นั่ง front row จะโพสต์ว่าตัวเองไปเที่ยวแต่ละที ก็ต้องโพสต์ให้เห็นว่านั่งเครื่องบินชั้นไหน อาหารที่กินก็ต้องเลิศหรูสมฐานะ นั่นแปลว่า พวกเขาจะยิ่งต้องดิ้นรนทุกวิถีทาง อัตตาจะยิ่งสูงลิบลิ่ว จริงหรือเปล่าคะ?
1
คนที่ยากไร้ แบบสิ้นไร้ไม้ตอกจริงๆ พวกเขาไม่มีอัตตาใดหลงเหลืออยู่เลย เหล่าขอทานวณิพก ไม่เคยสนใจว่าตัวเองจะสวย/หล่อหรือไม่ เสื้อผ้าหน้าผมยังไงก็ได้ ค่ำไหนก็นอนได้หมด สะพานลอยสกปรกก็นอนได้ หรือจะให้ก้มกราบเท้าก็ทำได้ทั้งนั้น
1
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เคยทรงกลัวความจน แม้จะเกิดในวรรณกษัตริย์ ก็ทรงละทิ้งไปอยู่ป่า ออกบิณฑบาตโดยไม่ทรงเลือกว่าจะเป็นอาหารจากเศรษฐีหรือยาจก ค่ำไหนก็ทรงนอนนั่น เพียงเป็นที่สงบให้ทรงพอสำรวมกายวาจาใจได้
2
แต่ที่สุดแล้ว
ท่านก็ทรงสอนให้อยู่ใน
ทางสายกลาง หรือหลักมัชฌิมาปฏิปทานะคะ
ตรงนี้ต้องเข้าใจหลักพระธรรมคำสั่งสอนให้ดีค่ะ
ท่านสอนแม้กระทั่งว่าทำอย่างไรถึงจะรวย
ทำอย่างไรถึงจะสวย หรืออย่างไรจะได้คู่ครองดี
1
โฆษณา