สรุป talk show นิ้วกลม นั่งเล่า #ประภาคารกลางมหาสมุทร Roundfinger
เพราะคนในปัจจุบันได้รับข้อมูลข่าวสารที่มากมาย
AI ที่เข้ามา ทุกอย่างมันเข้ามาเต็มไปหมด
ชีวิตถูกบีบให้เราเร่งจนถึงขีดสุด
มันจะมีสิ่งไหนที่เป็นหมุดหมายในชีวิตเราได้บ้าง
อะไรที่เป็นแสงส่องทางให้เราได้บ้าง
คำตอบอยู่ใน Talk Show นี้ครับ
พี่เอ๋ นิ้วกลมก็มีแซวว่าคนไม่อ่านหนังสือ มาอ่านสรุป แล้วบางทีอ่านสรุปของสรุปหนังสืออีกทีด้วย
ผมจึงเริ่มต้นด้วยสรุปของสรุป ก่อนเลยนะครับ555
หมุดหมายที่เราสามารถใช้ได้
ประกอบด้วย 3 ประภาคารนี้ครับ
#1 ทำบางสิ่ง
#2 รักบางคน
#3 ทนบางอย่าง
ครบรสทั้งสนุก ซึ้ง เศร้า มีเล่าเรื่องผีด้วยนะครับ555
แถมสาระก็อัดแน่นดีมากครับ
มาต่อกันที่รายละเอียดกันดีกว่าครับ 😃
#1 ประภาคารแรก ทำบางสิ่ง
เพราะปัจจุบันเราไม่สามารถทำได้ทุกอย่างได้
และเราอยากทำทุกอย่างแต่สุดท้ายเราไม่ได้จริงจังกับอะไรสักอย่าง
เพราะการตัดสินใจมันเลือกยากมาก อย่างการเลือกหนังที่จะดู ใน Netflix ยังใช้เวลานานเลย
แล้วเราจะเลือกให้ดีอย่างไรล่ะ?
จากหนังสือ designing your life ได้บอกไว้ว่า
‘ไม่มีการตัดสินใจที่ถูก มีแต่กระบวนการตัดสินใจที่ดี’
เราควรมีความสุขกับสิ่งที่เลือก และปล่อยวางสิ่งที่ไม่ได้เลือก
พี่เอ๋ ก็เล่าเรื่องราวของการเลือกพี่ชิงชิง ภรรยาของพี่เอ๋ ว่าเป็นคนที่จองเครื่องบินผิดบ่อย ทั้งสนามบิน วัน หรือแม้กระทั่งวันที่บินไปไหนก็ตาม แต่ในความผิดพลาดนี้ พี่เอ๋ก็ได้บอกว่าหากไม่มีพี่ชิงชิง พี่เอ๋ก็ไม่มีทางได้บินไปไหนด้วยซ้ำ เพราะคนวางแผน คนจองตั๋วเครื่องบินก็คือ พี่ชิงชิงนั่นเอง
กลับมาที่การตัดสินใจ คนในปัจจุบันขาดสิ่งที่เรียกว่า ความเด็ดเดี่ยว อยู่มาก
เราลังเล เรากลัวผิด เราไม่กล้าเลือก
ตัวอย่างที่เห็นถึงความพยายามได้ดีที่สุดคนหนึ่งคือ คุณลุงจิโทร ที่ปั้นชูชิขายจนดังระดับโลก
เขาเริ่มจากการเลือกทำชูชิ เพราะต้นทุนน้อยสุดในการทำร้านอาหารตอนนั้น
แต่ความพิเศษของเขาคือ ความพิถีพิถัน ความทุ่มเทให้กับการทำชูชิ ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ ยันอุณหภูมิมือที่ปั้นข้าวได้ดีที่สุด 32.22 องศา [เว่อร์มาก]
แต่นั่นก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างของการทุมเทในสิ่งที่เราเลือก คิดหาเสมอว่าเราจะทำอย่างไรให้มันดีขึ้นอีก ไม่ได้ทำเพื่อเรา แต่ทำเพื่อคนรอยยิ้มของคนที่รับในสิ่งที่เราทำ
ประภาคารที่ 2 รักบางคน
เริ่มต้นจากนิทานที่พี่เอ๋เล่าเกี่ยวกับความโดดเดี่ยว ความเหงา
มันอันตรายมากนะครับ เพราะมันมีฤทธิ์ร้ายแรงเทียบเท่าสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวันเลย
เรื่องราวที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ หนังสือ a good life ได้บอกไว้ว่า อวัยวะ 3 อย่างที่หากแข็งแรงแล้ว อายุถึง 100 ปีได้แน่ๆ 2 อย่างแรกคือ หัวใจและปอด
ซึ่งไม่แปลกใจนัก แต่อย่างที่ 3 คือ ต้นขา
สงสัยใช่ไหมล่ะครับว่าทำไม เพราะว่าต้นขาแข็งแรงก็สามารถเดินไปหา ไปคุย ทักทายเพื่อนได้ ทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้นั่นเอง นี่ก็เป็นอีกอย่างที่ทำให้รู้ว่าความเหงามันอันตรายมากนะครับ
และในประภาคารนี้ อ.ตุล คมกฤช แขกรับเชิญของ Talk show นี้ ก็ได้มาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการค้นหารากเหง้าของตัวเองผ่านบรรรพบุรุษของเรา
การค้นหาว่าญาติของเราสมัยก่อนเป็นใครทำอาชีพอะไร เราจะรู้จักตัวเรามากขึ้น รู้สึกเชื่อมโยงมากขึ้น ทั้งอ.ตุล ทั้งพี่เอ๋ก็เล่าสิ่งที่ตนเองได้เจอกับการค้นหาคำตอบนี้มากมาย จนเจอประวัติเกี่ยวกับตนเองที่น่าสนใจมากครับ
จนเริ่มสงสัยแล้วว่าตัวเรามีรากเหง้าจากไหนกันนะ 🤔
มันทำให้เรารู้สึกเชื่อมโยงกับผู้อื่นได้และรู้สึกเหงาน้อยลงครับ
หากมองลึกไปกว่านั้น ชาวเมารี พวกเขาเป็นกลุ่มที่จำเครือญาติได้เยอะมาก และที่พิเศษ คือ สามารถมองเครือญาติไปจนถึงธรรมชาติและมองพ่อเป็นท้องฟ้า แม่คือพื้นดินได้เลย
อาจจะมองมาเชื่อมเราได้ยากอยู่ แต่หากกลับมามองในแต่ละวันของเรา ทั้งเรื่องงานและอื่นๆ
ว่าเราทำเพื่อคนอื่นอย่างไรได้บ้าง
ผมชอบประโยคนี้ของพี่เอ๋ครับ
ให้ลองเปลี่ยนคำพูดของ Simon Sinek ที่ว่า ‘Start with why’ ทำไมต้องทำสิ่งนั้น
เป็น Start with who ใครจะได้อะไรจากสิ่งที่เราทำ
เราจะเห็นคุณค่าของงาน ของสิ่งที่เราทำมากขึ้นครับ
ประภาคารที่ 3 ทนบางอย่าง
คนเราในปัจจุบันทนกันได้น้อยลง รีบเร่งมากขึ้น สังเกตตอนขอ OTP ได้ครับ
เรามักจะกดปุ่ม ยังไม่ได้หมายเลข ทั้งๆที่ผ่านไปเพียง 2-3 วินาทีเท่านั้น
พี่เอ๋เล่าเรื่องของพี่ชมพู่ พี่เขาเป็นคนยะลา ญาติของพี่เขาถูกยิงเสียชีวิต จนเหลือแค่พี่น้อง 3 คน แต่พี่เขากลับมีรอยยิ้มได้
จากการเข้าใจเด็กที่เกิดมาแบบใกล้เคียงกัน จนเกิดเป็นแรงบันดาลใจอยากสร้างสถานรับเลี้ยงเด็ก บ้านลูกเหรียงขึ้นมา
ที่ผมเล่าละเอียดเพราะชอบแง่มุมที่ว่าพี่เขาไม่เพียงเปลี่ยนความอดทนเป็นโอกาสสำหรับตนเองแต่ยังช่วยสังคมอีกด้วย ช่วยให้เด็กที่เกิดมาไม่อยากกลับไปแก้แค้นคนที่ทำกับครอบครัวของเด็กคนนั้น
อีกเรื่องราวคือ ของปีเตอร์ ฟรังเคิล คุณหมอและคนที่เคยถูกกักขังในค่ายกักกันเอาซ์วิซ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ผ่านขุมนรกอย่างค่ายกักกันด้วยความอดทนมาได้
นี่ก็เป็นตัวอย่างที่ว่าทำไม คนอดทน ทำอะไรที่ คนไม่อดทน ทำไม่ได้ครับ
เรามักจะได้ยินหรือจดจำเรื่องราวของคนที่อดทนได้มากขนาดนี้และสร้างบทเรียนให้เราเสมอ
และจริงๆแล้วความอดทนโดยตัวมันเองนั่นแหละทำให้ชีวิตมีความหมาย
เราอาจรู้สึกว่าอดทนไปทำไม แต่อยากบอกไว้ว่า อดทนจนความอดทนมันบอกอะไรเราเอง
และสุดท้าย ชีวิตมันคือ ช่วงเวลา ไม่ว่าอย่างไรเดี๋ยวมันก็จบลง
แต่เราสร้างช่วงเวลาที่ดีขึ้นมาได้ ผ่านการ
ใส่ใจ ‘ช่วงเวลา’ ตรงหน้า ซึมซับกับมัน ใส่ใจมัน
เห็นคุณค่าของตัวเองและส่งคุณค่านั้นให้กับคนอื่น
เมื่อรวมกันแล้ว ชีวิตจึงกลายเป็นชีวิตที่ดีได้ครับ
หากถามถึงความรู้สึก
ต้องบอกว่าชอบมากๆแน่นอนครับ ทั้งบรรยากาศ เอฟเฟค มุกตลกที่สอดแทรกมาตลอด
เนื้อหา สาระ
หากให้บรรยายเป็นคำพูด คงบอกได้ไม่หมดเท่าไปเองครับ
ผมบอกตามตรงว่าเนื้อหาส่วนใหญ่มีในเล่มชีวิตที่ร่างเอง หนังสือเล่มใหม่ล่าสุดของพี่เอ๋ นิ้วกลม
แต่การมาฟัง Talk show มันได้อะไรมากกว่านั้น มันได้เห็นแง่มุมใหม่ๆมากขึ้น จดจำเนื้อหาได้ดีมากขึ้น เพราะมีเรื่องราวของอารมณ์ การคัดสรรของเนื้อหาที่ตระเตรียมมาอย่างดี
บอกได้เลยว่ามันคุ้มค่ามากจริงๆครับ
สำหรับโพสถัดๆไปจะมีสรุปหนังสือ ชีวิตที่สร้างเอง เปรียบเสมือนภาคต่อของโพสนี้ด้วย
ฝากติดตามกันด้วยนะครับ
#ประภาคารกลางมหาสมุทร #นิ้วกลมนั่งเล่า #อยากสรุป #Talkshow
- 99
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
