18 ส.ค. เวลา 23:00

ศึกชะตากรรมการล้างแค้น

นานมาแล้วในดินแดนที่ปกคลุมไปด้วยป่าเขียวขจีและหมอกหนา ที่นั่นมีหมู่บ้านเล็กๆ ซ่อนตัวอยู่ ท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ หมู่บ้านนี้มีตำนานที่เล่าขานกันมายาวนานเกี่ยวกับ “นิมิตา” เทพยากรณ์ที่เห็นแก่ตัว กับ “คุณยายเนียร่า” หญิงชราใจดี
นิมิตาเป็นเทพยากรณ์ที่มีพลังมหาศาล เขามีความสามารถในการมองเห็นอนาคตและสามารถควบคุมโชคชะตาของผู้คนได้ตามที่ตนต้องการ แต่แทนที่จะใช้พลังนี้ในการช่วยเหลือผู้อื่น นิมิตากลับใช้พลังของตนในการสร้างความร่ำรวยและอำนาจให้กับตัวเอง เขาชื่นชอบการเล่นเกมชะตากรรมกับผู้คนที่มาขอความช่วยเหลือจากเขา เขามักจะให้คำทำนายที่นำพาผู้คนไปสู่ความหายนะ เพียงเพื่อความสนุกและความบันเทิงของตนเอง
คุณยายเนียร่าเป็นหญิงชราใจดีที่อาศัยอยู่ในกระท่อมเล็กๆ ริมป่า เธอมีชื่อเสียงในหมู่บ้านว่าเป็นผู้รักษาผู้คนด้วยสมุนไพรและความรู้โบราณของเธอ คุณยายเนียร่าเป็นคนที่ทุกคนรักใคร่และเคารพ เพราะเธอใช้ชีวิตอย่างถ่อมตัวและมักจะช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนอยู่เสมอ
วันหนึ่ง หญิงสาวชื่อ “เอเลน่า” ได้เดินทางมายังหมู่บ้านนี้เพื่อขอความช่วยเหลือจากนิมิตา เธอเป็นลูกสาวของนายทหารผู้ทรงอำนาจที่เคยถูกนิมิตาทำนายให้ต้องตกอยู่ในสภาวะยากลำบาก ครอบครัวของเธอต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างเพราะคำทำนายของนิมิตา เอเลน่าจึงตั้งใจที่จะล้างแค้น เธอวางแผนที่จะหลอกล่อให้เขาทำนายคำทำนายที่ผิดพลาดแล้วใช้มันทำลายเขา
เอเลน่าเข้าพบกับนิมิตา และเสแสร้งเป็นหญิงสาวที่อ่อนแอและสิ้นหวัง เธอขอคำทำนายเกี่ยวกับอนาคตของเธอ นิมิตามองเธอด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์ ก่อนที่จะบอกว่าเธอจะพบกับความรุ่งโรจน์และอำนาจที่เหนือกว่าทุกคนในดินแดนนี้ หากเธอยอมทำตามคำสั่งของเขา เอเลน่ารับฟังและตอบตกลง นิมิตาจึงมอบคำทำนายแก่เธอว่า เธอต้องเดินทางไปยังภูเขาสูงและเก็บดอกไม้ที่หายากซึ่งเติบโตเพียงครั้งเดียวในรอบพันปี จากนั้นต้องนำดอกไม้นั้นไปยังน้ำพุศักดิ์สิทธิ์และท่องคาถาเรียกดวงวิญญาณของบรรพบุรุษเธอ
เอเลน่ารับคำสั่งของนิมิตาและออกเดินทาง เธอรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติในคำทำนายนี้ เธอจึงตัดสินใจไปหาคุณยายเนียร่าเพื่อขอคำปรึกษา คุณยายเนียร่าใช้พลังสมุนไพรและความรู้โบราณตรวจสอบคำทำนายของนิมิตา และพบว่ามันคือกับดักที่จะนำเธอไปสู่ความตาย
“ลูกเอ๋ย นิมิตาคือเทพยากรณ์ที่เห็นแก่ตัว เขาไม่ได้ต้องการช่วยเหลือผู้ใดเลย” คุณยายเนียร่ากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “แต่เราสามารถใช้คำทำนายนี้เพื่อย้อนกลับไปทำลายเขาได้”
คุณยายเนียร่าช่วยเอเลน่าปรับเปลี่ยนพิธีกรรมและเตรียมตัวเธอให้พร้อมสำหรับการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึง เอเลน่าจึงออกเดินทางไปยังภูเขาสูงตามที่นิมิตาสั่ง แต่แทนที่จะเก็บดอกไม้ เธอเก็บสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องลึก นั่นคือ “ดาบแห่งความยุติธรรม” อาวุธที่สามารถทำลายพลังของนิมิตาได้
เมื่อเธอกลับมายังหมู่บ้าน เอเลน่าเดินทางไปยังน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ และทำพิธีเรียกดวงวิญญาณของบรรพบุรุษตามที่นิมิตาสั่ง แต่แทนที่จะท่องคาถาของนิมิตา เธอท่องคาถาที่คุณยายเนียร่าให้มา พลังของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ถูกเปลี่ยนทิศทางและพุ่งเข้าสู่ดาบแห่งความยุติธรรม
นิมิตารับรู้ได้ถึงพลังของเอเลน่าและรีบมายังน้ำพุเพื่อหยุดเธอ แต่สายไปแล้ว เอเลน่าหันหลังกลับและยืนหยัดเผชิญหน้ากับนิมิตา ดาบในมือเธอเปล่งแสงเจิดจ้า นิมิตาโกรธแค้นและปลดปล่อยพลังอันมหาศาลเพื่อพยายามทำลายเธอ
การต่อสู้ระหว่างนิมิตาและเอเลน่าดำเนินไปอย่างดุเดือด เอเลน่าใช้ความสามารถและความรู้ที่ได้รับจากคุณยายเนียร่าในการหลบหลีกและโจมตี จนกระทั่งเธอสามารถเสียบดาบแห่งความยุติธรรมเข้าสู่หัวใจของนิมิตาได้สำเร็จ
นิมิตากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะสลายหายไปเป็นธุลี เอเลน่ายืนมองซากที่เหลืออยู่ของเทพยากรณ์ด้วยความรู้สึกสาแก่ใจ ในที่สุดเธอก็สามารถล้างแค้นให้กับครอบครัวของเธอได้สำเร็จ
เอเลน่ากลับไปหาคุณยายเนียร่าเพื่อขอบคุณ คุณยายเนียร่ายิ้มอย่างอบอุ่นและกล่าวว่า “ลูกทำได้ดีแล้ว แต่ขอให้จำไว้ว่าพลังและอำนาจนั้นไม่ใช่สิ่งที่ควรค่าแก่การถือครอง แต่การใช้พลังนั้นในการทำความดีและช่วยเหลือผู้อื่นเท่านั้นที่ทำให้ชีวิตมีคุณค่า”
เอเลน่ารับคำสอนของคุณยายเนียร่า และใช้ชีวิตของเธอในการช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก เธอกลายเป็นผู้พิทักษ์แห่งหมู่บ้าน และเรื่องราวของเธอถูกเล่าขานไปทั่วดินแดน ในฐานะหญิงสาวผู้กล้าหาญที่สามารถล้มเทพยากรณ์ผู้ชั่วร้ายและนำความยุติธรรมกลับคืนสู่โลก
โฆษณา