18 ส.ค. 2024 เวลา 19:56 • ดนตรี เพลง

(Long Review) ความรู้สึกของผมที่มีต่อ Deftones

ช่วงมกราคม 2021 เป็นช่วงที่ผมกำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ ๆ มีอยู่คืนหนึ่งผมนั่งเล่นอินเทอร์เน็ตหาเพลงฟังไปทั่ว แล้วจู ๆ ก็สะดุดมาเจอกับ Playlist หนึ่งที่มีชื่อว่า...
DEFTONES Mix - Outer Space
Defgi บัญชีผู้ลง Playlist ใน YouTube (เช็คตอนสิงหาคม 2024)
ผมก็ลองเผลอกดเข้าไปฟังดู เริ่มต้นด้วยเพลง Rosemary จากอัลบั้ม Koi No Yokan ก็เออ เพลงลอย ๆ ดีแหะ แต่ตอนนั้นยังไม่ติดหูเท่าไหร่ ก็เพลงเล่นไปเรื่อย ๆ ไปเรื่อย ๆ อย่างเพลง...
  • Beauty School
  • Heart/Wires
  • Sextape
  • Entombed
  • Phantom Bride
  • ...และก็เรื่อย ๆ ไปจนผมฟังจบที่ What happened to you?
เท่าที่ฟังมา ผมถูกใจ Rosemary กับ Phantom Bride เป็นเพลงที่เริ่มเปิดตัวให้ผมทยอยเข้าสู่สาวก Deftones แต่ยังเข้าไม่ลึกมาก
จริง ๆ ก่อนหน้านั้นผมรู้จักวงนี้มาตั้งแต่ตอนอายุประมาณ 13 - 14 ปี ตอนนั้นน่าจะ ม.1 ม.2 (2013 - 2014) ตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมเปิดโลกวงการเมทัลมาก เป็นเสียงที่นึกถึงในหัวตลอดว่าเมทัลจริง ๆ มันเป็นยังไง มันมีริทึมจังหวะที่ตะลึงตึงและหนักแน่น เสียงร้องที่ไม่ต้องว้ากมาก แต่คลีนไพเราะฟังรู้เรื่อง ผมชอบแบบนี้จริง ๆ
วงโปรดที่ผมฟังบ่อยสุดจะเป็น Korn ณ ตอน ม.ต้น และก็ Love and Death ของ Brian Head Welch ที่แยกวงออกมาอีกทีหนึ่ง
ผมเริ่มรู้จัก Deftones ตั้งแต่ตอนนั้นก็เพราะว่า ฟังรีวิวผ่านเว็บอีกทีหนึ่ง ตอนนั้นยังไม่มี TikTok หรือ ChatGPT หรืออัลกอริทึมแนะนำคอนเทนต์ที่หาให้เราอัตโนมัติ
ตอนนั้นเรายังค้นหาข้อมูลกันแบบ Organic กันอยู่ เป็นแบบค้นหาโดยที่เราค้นหาเองเลย โดยไม่ผ่านการกลั่นกรองของระบบ
สุดท้าย ผมก็เลยมาเจอ Deftones เพลงแรกที่ฟัง คือ Change
ตอนนั้นฟังแล้วรู้สึกแบบ ก็ฟังง่ายดีนะ ดูอ่อนโยนแต่หนักแน่น ดูมีความเย้ายวนของเสียง เรียกร้องให้เข้ามาหาบทเพลง พร้อมโหยหวนให้นึกถึงความรุนแรงของการผันแปรของชีวิตคนใดคนหนึ่งในความหมายของบทเพลง
แต่ตอนนั้น ม.ต้น ยังไม่ติด Deftones ยังติด Korn อยู่ 5555
พอมาช่วงปี 2021 ผมได้กลับมาฟัง Deftones อีกครั้งผ่าน Playlist ที่กล่าวไว้ในตอนต้น ผมก็ฟังวนลูปอยู่อย่างนั้นเรื่องมาจนถึงปี 2022
ต่อมาปี 2022 เป็นช่วงที่ผมได้มีโอกาสสมัครทุนไปแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น แล้วได้รู้จักเพื่อนคนไทยผู้หญิงคนหนึ่ง แชร์คลิปติ๊กต๊อกเป็นเพลง Deftones - Cherry Waves ที่มีหนังมาใส่ในคลิปด้วย ชื่อเรื่องว่า...
Requiem for a Dream
Darren Aronofsky (2000)
Cherry Waves in Requiem for a Dream
ผมถามเพื่อนให้แชร์มาให้ผม เธอก็ให้ผมมาในไอจี ผมก็ดู แล้วรู้สึกว่า...
เชี้ยยยยย นี่มันคืออารมณ์ความรู้สึกของชีวิตกูชัด ๆ เลย
มันรู้สึกแบบใช่จริง ๆ ความดิ่งลง ความหนักแน่นกระแทกพื้นดิน
ความสิ้นหวังและการรื้อฟื้นกลับคืนสู่สถานะปกติ
ว. ก. ใจปัญญา (2022)
คือ เพลง Cherry Waves เป็นเพลงที่ Literally me ต่อมามากสุด ๆ เหมือนเป็น Theme ชีวิตของตัวเอง ผมเป็นคนที่เคยเผชิญปัญหาทางจิตใจมาอยู่ แต่ก็ผ่านมาได้
ด้วยดี เปรียบเสมือนเป็นการดิ่งชีวิตลงแต่ก็ถูกฉุดขึ้นให้กลับมาปกติเหมือนเดิม
If like you should sink down beneath,
I'd swim down with you.
Chino Moreno (Vocalist)
ถ้าเธอดิ่ง ฉันจะดิ่งไปกับเธอด้วย (แต่ผมคิดว่า เราดิ่งได้ แต่พาเรากลับมาเหมือนเดิมให้ได้ด้วยนะ
You make me feel like a person.
Marion Silver (2000)
เธอทำให้ฉันรู้สึกมีตัวตนนะ...
มันเหมือนแบบ เฮ้ย สุด ๆ อ่ะ ตั้งแต่ที่เพื่อนแชร์คลิปนั้นมา ทำให้ผมเป็นสาวก Deftones อย่างเต็มตัว ผมเลยฟังตั้งแต่อัลบั้มแรกยันอัลบั้มล่าสุด และไปพวงตาม Crosses กับ Team Sleep ไปอีกกกกกกก
ทุกวันนี้ผมก็ยังคงฟังอยู่เรื่อย ๆ ชอบมาก ๆ เลยครับ
Deftones เป็นวงที่ทำให้ผมกลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง เปรียบเสมือนกับดนตรีที่ปลุกความหวัง ความฝัน ความดีงามในชีวิต ดนตรีนี่เป็นสิ่งมหัศจรรย์มาก ๆ เลย
หากไม่มีดนตรี ชีวิตก็มีแต่ความผิดพลาด
Friedrich Nietzsche (1888)
โฆษณา