Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ไฟใจchanal
•
ติดตาม
19 ส.ค. เวลา 04:11 • หนังสือ
นักเลงดาบข้ามมิติ ตอนที่ 6 เมืองไกยเกศี ประดาบกับดาบเมฆาพยัคฆ์ทมิฬ
อ้ายทิม หุงหาอาหารกินหัวเผือกหัวมันที่ขุดได้ตามป่ามีผลไม้ป่าอีกเล็กน้อยพอได้อิ่มแล้วเสริมพลังงานให้กับร่างกาย แล้วก็เอนตัวนอนใต้ร่มไม้ใหญ่ เวลาใกล้เย็นอ้ายทิมตื่นจากการหลับไหล ห่อผ้าขนาดย่อมๆ ที่คนๆทหนึ่งสามารถแบกไปได้
อ้ายทิมถือวิสาสะเปิดออกเป็นกับข้าวกับปลา และผ้าผ่อนอีกเล็กน้อย แ้ายทิมคิดในใจคงเป็นแม่หญิงพัทราวตีแน่ๆ แหวนนำพา เรืองแสงอีกคราเกิดแสงสว่างวาบ
อ้ายทิมหลุดมายังท้ายตลาดที่เมืองไกยเกศี ในตลาดมีผู้คนมากมาย
อ้ายทิม คนแบกดาบสองเล่มเดินฝ่าท่ามกลางหมู่ชนเข้าไปหาร้านนั่งจิบชากาแฟสักหน่อย อ้ายทิมแวะเข้าโรงเตี๊ยมนารา เถ้าแก่นำน้ำชามาเสิร์ฟให้ แล้วพูดขึ้นว่า " ท่านคือจอมยุทธ์ที่มาร่วมประลองคัดเลือกหาแม่ทัพใช่ไหมล่ะ "
"คัดเลือกแม่ทัพอันใดหรือเถ้าแก่ " อ้ายทิมถาม
" ก็เมื่อเดือนที่แล้วมีใบแจ้งข่าวศึกจากวังหลวง ว่ามีเมืองมาวผี ส่งสาส์นมาขอพระธิดา แต่พระราชาของเราไม่ยอม เมืองมาวผี ใช้เหตุนี้ประกาศสงคราม
เมืองเราห่างศึกมาหลายปี ขุนนางทางกลาโหมก็กามีฝีมือไม่ พระราชาจึงเปล่าประกาศหาแม่ทัพ " เถ้าแก่กล่าวจบ
" ข้าเข้าใจละ " อ้ายทิมตอบพร้อมพยักหน้า
อ้ายทิมคิดในใจ คงเป็นเหตุนี้สินะให้ข้ามาที่นี่
ทางด้านค่ายหน้าด่านของเมืองไกยเกศีกำลังป้องกันทัพจากเมืองมาวผีได้ย่างกล้าหาญ
ณ พลับพลาเมืองมาวผี เจ้าเมืองมาวผี นามว่าฟ้าเสือข่าม ออกคำสั่งให้ ทมิฬตรา ข่านฟ้า เพทาย สามทหารเสือเจ้าจงนำกองกำลังถล่มค่ายหน้าด่านซะบัดนี้ แต่ค่ายหน้าด่านก็ป้องกันสุดฝีมือ
ทางเมืองหลวงต่างจัดเตรียมค่ายคู่ประตูหอรบกันอย่างขมักเขม้น แลอีกฝ่ายกำลังคนที่จะเลือกหาแม่ทัพนายกองหน้าใหม่ ก็เปล่าประกาศในทุกวัน
เหล่าชายฉกรรจ์ แลบรรดาข้าทหาร ผู้มีฝีมือต่างลงสมัครกันมากหน้าหลายตา ครั้งถึงวันประลองอ้ายทิมได้ไปดูการประลอง ดูแล้วเอาจริงเอาจังกันน่าดูทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี จึงได้เหล่าแม่ทัพนายกองคนรุ่นใหม่ ได้มา 10 คนอวยยศให้เป็นถึงระดับแม่ทัพกันหมด
อ้ายทิมกลับมาที่ตลาด เดินเข้าไปที่ร้านตีเหล็ก อ้ายทิมเอ่ยขึ้นว่า ลุงจ๊ะข้าเอาดาบมาให้ตีจร๊ะ ลุงกันเจ้าของร้านตีเหล็ก ชักดาบทั้งสองเล่มออกจากฝัก แล้วพรรณนาขึ้นว่า " ข้าไม่เคยเห็นดาบที่สวยงามเช่นนี้มาก่อนเป็นบุญตาข้ายิ่งนัก ดาบในตำนาน ดาบวิหกอัคคี กับดาบเมฆาพยัคฆ์ นับเป็นวาสนาของข้าเหลือพ่อหนุ่ม "
" ว่าแต่พ่อหนุ่มได้ไปคัดเลือกแม่ทัพกับเขาบ้างไหม " ลุงกันเจ้าของร้านตีเหล็กกล่าว
" ข้าไม่ได้คัดจ๊ะ แต่จะช่วยป้องกันชาวบ้านให้รอดปลอดภัยข้าให้สัญญา ข้าไม่ได้หวังทรัพย์ศฤงคารอันใด จึงไม่ได้ไปคัดเลือก " อ้ายทิมตอบลุงตีเหล็กแบบนั้น " ประเสริฐแท้พ่อหนุ่ม อย่างนั้นถือว่าเป็นสินน้ำใจเถิดหนาข้าจะขัดคมให้ดาบสองเล่มนี้เอง ไม่ต้องจ่ายอัฐสักแดงเดียว " ลุงตีเหล็กบอกกับอ้ายทิม
อ้ายทิมไหว้รับอย่างนอบน้อม
" ว่าแต่ลุงจ๊ะ หากข้าศึกมาชิดติดกำแพงเมือง ชาวบ้านร้านตลาดจะทำอย่างไรกัน " อ้ายทิมถาม
" บ้างก็หนีเข้าหลบหลังกำแพงเมือง บ้างก็หนีเข้าป่า บ้างก็หนีไปอยู่อีกเมืองใกล้เคียง " ลุงตีเหล็กตอบ
อ้ายทิมพยักหน้ารับ
ไม่นานนักค่ายหน้าด่านของเมืองไกยเกศีถูกตีแตก ทัพของเมืองมาวผีก็เคลื่อนพลปลูกค่ายชิดกำแพงเมือง ชาวบ้านราษฎรต่างหนีเข้ากำแพงเมือง เกือบทั้งหมด บ้างบ้านก็หนีเข้าป่าและหนีไปต่างเมือง อ้ายทิมและลุงกันตีเหล็กต่างป้องกันชาวบ้าน แล้วให้ขวัญกำลังใจชาวบ้านอย่าได้ตกใจ
ครั้งการรบอย่างเป็นทางการทัพที่1 ของเมืองไกยเกศี นำทัพโดยหลวงแสนศึกเป็นแม่ทัพ พุ่งรบกับกับทัพหน้าของเมืองมาวผี ที่ทมิฬตรานำทัพ สลับกับรบไปมาสุดท้าย ทัพของหลวงแสนศึกพลาดท่าถูกตีแตกกลับเข้าเมือง
ทางเมืองไกยเกศีส่งไปอีก2-3ครั้งก็ถูกตีกลับเข้าเมืองเช่นเคย เจ้าไกรสีหราช เจ้าเมืองไกยเกศี รับสาร์นอีกครั้ง เห็นควรจัดทัพพระราชามาชนช้างให้เป็นเกียรติประวัติเถิด เจ้าเมืองไทยเกศีส่งสาร์นกลับไปขอเวลาจัดแต่งทัพอีก7 วัน
ใน7วันนี้ทัพ ฟ้าเสือข่ามเจ้าเมืองมาวผี หาได้ประมาทมันส่งกองโจรมากวาดต้อนผู้คนแลตัดเสบียง เจ้าเมืองมาวผีส่ง หนึ่งทหารเอกออกปล้น มันส่งข่านฟ้ามาเป็นกองโจร
ได้มาเจอกับอ้ายทิมที่คอยป้องกันชาวบ้าน " นี่หน่ะว่ะที่เขาเรียกว่านักรบ รังแกแต่คนไม่มีทางสู้ " อ้ายทิมตะโกนให้ ข่านฟ้าได้ยิน มันได้ยินก็เกิดหัวร้อน โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ " มึงเป็นใครใยมาดูถูกเกียรติกันอย่างนี้" ข่านฟ้ากล่าว
" ข้า อ้ายทิม ชาวบ้านธรรมดาที่จะสู้จนตัวตายไม่ยอมเป็นเชลยเอ็งหรอก " อ้ายทิมกล่าว
อ้ายทิมรู้ดีว่า ข่านฟ้า คนนี้เป็นคนใจร้อนหุนหันพันแล่น นักดาบเมื่อไม่มีสมาธิจะควบคุมดาบได้ฉันใด
ข่านฟ้าชักขวานอันใหญ่โตเป็นขวานสัตตะโลหะ ออกมา อ้ายทิมชักดาบวิหกอัคคีออกจากฝัก ทั้งสองวิ่งพุ่งสู้กัน ข่านฟ้าบ้าบิ่นมีแรงมหาศาลได้รุกก่อนส่วนอ้ายทำได้แค่ปัดป้อง ข่านฟ้าใช้ท่า " รามสูรตรึงจักร "วาดขวานออกจากด้านหลังเต็มแรง ขวานปักลงสู่พื้นดิน อ้ายทิมหลบได้ แล้วใช้ท่า " สยายปีกมหาวิหก " ตัดไปที่แขนด้านที่ถือขวานสัตตะโลหะขาดกระเด็น
อ้ายทิมเหยียบอกอกข่านฟ้าไว้แล้วกล่าวว่า
" ครานี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าให้เจ้าได้ไปบอกเจ้านายเจ้าก็ได้ ข้าจะรออยู่ทางประตูเมืองตะวันออกนี่ แล้วก็สั่งให้กองโจรเอ็งคืนทรัพย์สิน แล้วเชลยคืนมาเถิด "
ข่านฟ้าเห็นดั่งนั่นจึงสั่งให้ทหารทำตามที่อ้ายทิมบอกทันที ข่านฟ้าเลิกกองโจรกลับไป แจ้งข่าวให้นายมันได้รับทราบ
เมื่อข่านฟ้าถึงพลับพลา ของฟ้าเสือข่าม ทุกคนต่างตกใจที่ข่านฟ้า แขนขาด มาแจ้งข่าวว่า มีอ้ายชาวบ้านคนหนึ่งเห็นว่าคงเป็นทหารของฝั่งทางนู้นมาลาดตระเวนช่วยชาวบ้าน แต่มันไม่ได้ใส่ชุดทหารขอรับ
ฟ้าเสือข่าม เห็นดั่งนั้นก็ส่งมีดเล็กให้ข่านฟ้า บอกเป็นนัยว่า เมื่อทำภารกิจพลาดก็ไม่ควรมีชีวิตต่อไป ข่านฟ้ารู้ใจผู้เป็นนาย มันกรีดคอตัวเองตายอย่างชาตินักรบ
ฟ้าเสือข่ามสั่งให้ทหารนำร่างข่านฟ้าไปฝัง แล้วออกคำสั่งเพทาย อีก2 วันให้ไปเยือนอ้ายทิม แล้วสั่งให้ทมิฬตราเตรียมรี้พล ทำศึกกับเมืองไกยเกศี
เวลาผ่านลุมาสองวัน ตามที่ตกลงกันในสาร์น ฟ้าเสือข่าม กับทมิฬตราเตรียมทัพช้างม้า ไพร่พลเต็มกระบวนทัพ เพทายนำกองโจรไปเยือนอ้ายทิม
เสียงกองศึกเมืองไกยเศีลั่นดังขึ้น ทหาร ชาวเมืองต่างไชโยโห่ร้องว่าเจ้าเหนือหัวของมันต้องมีชัยชนะกลับมาแน่ๆ
ทางด้านอ้ายทิม ตั้งใจจะไปช่วยทัพหลวง แต่ถูกเพทายขวางทางไว้กับทหารกองหนึ่งราว50คนที่เป็นทัพม้า อ้ายทิมยืนประจัญหน้ากับเพทาย
อ้ายทิมตั้งสติ ร่ายคาถาคงกระพันชาตรี โอมผงเผาเถ้าธุลีคงกระพันชาตรี พุทธังคงเนื้อ ธัมมังคงหนัง สังฆังคงกระดูก คงเพชรคงคาตรีคงสะวาหะ เพี้ยง!
" ท่านักรบผู้ยิ่งใหญ่ท่านจะเอาเปรียบข้าอย่างนั้นหรือ ข้ามีเพียงคนเดียวเดี่ยวโดด ท่านเอาพวกรุมกระนั้นรึ "อ้ายทิมพูดพรางท้าทาย
เพทาย นักรบผู้นิ่งเฉยได้ก้าวลงมาจากหลังม้าพร้อมกับง้าวสั้นสัตตะโลหะ
แล้ววิ่งพุ่งเข้าหาอ้ายทิมทันที อ้ายทิมชักดาบเมฆาพยัคฆ์ออกจากฝัก เพทายมันใช้พลังกำลังมากมายมหาศาล ฟาดฟันเข้าใส่อ้ายทิม อ้ายทิมได้แต่ตั้งรับ เพื่อรอให้เพทายใช้ท่าทางพิเศษหรือท่าไม้ตาย
เวลาผ่านไปเพทายก็ไม่ได้ใช้ท่าทางพิเศษอะไร อ้ายทิมใช้ท่า " พยัคฆ์ย่างย่ำ " แต่ทว่า เพทายรับได้เสียอย่างนั้น อ้ายทิมประหลาดใจ อ้ายทิมใช้ท่าอีกครั้ง " ขว้างพยัคฆ์" แต่ครานี้เพทายกระตุกง้าวนิดเดียวอ้ายทิมถึงกับลอยหงายหลัง ตกลงสู่พื้น เพทายพูดขึ้น " ช้างประสานงา "
อ้ายทิมคิดได้ตอนนั้นเดี๋ยวนั้น จึงสปริงตัวขึ้น แล้วม้วนหนีออกทางซ้าย เพทายหวืดไม่ได้แทงอ้ายทิมดั่งตั้งใจ อ้ายทิมใช้สติคิดหากลอุบาย มันจะรอให้เราบ้มแล้วใช้ท่าไม้ตาย งั้นเอาอย่างนี้ อ้ายทิมทำเป็นใช้ท่าแต่ไม่เต็มที่ แล้วแกล้งล้ม เพทายหลงกลจึงใช้ท่า " เอราวัณยาตรา "
เป็นจังหวะให้อ้ายทิมม้วนหน้า เฉือดเอ็นร้อยหวายใส่เพทาย เพทายล้มลงคุกเข่ากับพื้น มันใช้ง้าวเฉือดคอตัวเองตายไว้ลายเยี่ยงนักรบ ทหารทั้งหมดเข้ามาล้อมอ้ายทิมไว้
อ้ายทิมกระโดด " ระบำพยัคฆ์ " ทหารทั้งหมดตกม้า ต่างหนีตายกันจ้าละหวั่น อ้ายทิมได้โอกาศ ควบม้าช่วยทัพหลวงของเจ้าไกรสีหราช
แต่สิ่งที่ต้องทำให้อ้ายทิมตะลึงอีกครั้ง ดาบเมฆาพยัคฆ์ไอสีดำ ที่ทมิฬตราถือครองอยู่ อ้ายทิมควบม้าตรงไปยังทมิฬตรามีเสียงกระซิบจากดายเมฆาพยัคฆ์นี่คือคู่แฝดในด้านมืดของข้า หากเจ้าคือทางสว่าง ทมิฬตราคงเป็นด้านมืด
แม่ทัพใหม่ทั้งเจ็ดถูกส่งไปเป็นทัพหน้าปะทะกับทัพหน้าทมิฬตรานำทัพ แต่ดูจากรูปกาล แม่ทัพทั้งเจ็ดคงพลาดพลั้งเสียทีเป็นแน่
อ้ายทิมขับม้าเข้าขว้างทมิฬตราอย่างกล้าหาญ ทมิฬตราเห็นดั่งนั้นจึงยิ้มมุมปาก " นี่หน่ะหรือดาบเมฆาพยัคฆ์สวรรค์ อย่างงั้นมาเจอ ดาบเมฆาพยัคฆ์ทมิฬหน่อยเป็นไร " การยุทธหลังม้าบังเกิดขึ้นดาบเมฆาพยัคฆ์กระทบกัน
ทำให้ฟ้าลั่นสนั่นส่งเสียงกัมปนาท
ทั้งคู่ขับม้าวิ่งเข้าหากันอย่างเร็วรี่ อ้ายทิมกระโดดหวังใช้ท่าพยัคฆ์คำรามท่าไม้ตาย ทมิฬตราก็กระโดดขึ้นแล้วใช้ท่าพยัคฆ์คำรามเช่นกัน ดาบเมฆาพยัคฆ์กระทบกันพลังมหาศาลถูกตีกลับใส่ทั้งคู่กระเด็นไปตามวิถี รัศมีถูกทหารรอบข้างกระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทาง
เจ้าเมืองไกยเกศีถามข้าหลวงว่า " นั่นใช่ทหารเมืองเราหรือเหตุใดฝีมือกล้าแข็งเช่นนั้น " ข้าหลวงคนนี้เป็นเพื่อนของลุงตีเหล็ก ตอบว่า " หาไม่พะยะค่ะ พระบาท อ้ายคนนั้นเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาที่อาสาปกป้องชาวบ้านราษฎร พะย่ะค่ะ มันมีนามว่าอ้ายทิม พะย่ะค่ะ "
" เช่นนั้นหรือหากศึกครานี้เรามีชัย ท่านจงเรียกอ้ายทิมมาเฝ้าข้าด้วยหนา " เจ้าเมืองไหนเกศีกล่าว
" น้อมรับบัญชาพะย่ะค่ะ " ข้าหลวงกล่าว
ทหารที่ติดตามเพทายไปมาแจ้งข่าวแก่ฟ้าเสือข่ามว่า เพทายสังหารตัวเองเสียแล้ว ในที่สู้กันกับอ้ายทิม
ฟ้าเสือข่าม ได้เห็นฝีมือของอ้ายทิมเป็นประจักษ์แล้วเหมือนกัน บัดนี้แขนขาเราถูกเด็ดออกอย่างน่าใจหายข้า จะถอนทัพไปบำรุงรักษาไพร่พลก่อน
ทางอ้ายทิมกับทมิฬตรายังฟาดฟันกันอย่างดุเดือดแต่ก็หามีผู้ใดพลาดท่าเสียทีหรือได้รับบาดเจ็บไม่
ซัดกันครบทุกกระบวนท่าแล้วก็ยังไม่รู้แพ้รู้ชนะกัน
อ้ายทิมและทมิฬตราต่างลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความเคารพในฝีมือของอีกฝ่าย ทมิฬตรายิ้มมุมปากแล้วกล่าวว่า "เจ้าคู่ควรกับดาบเมฆาพยัคฆ์สวรรค์จริงๆ แต่ศึกนี้ยังไม่จบ"
ทันใดนั้น เสียงแตรสังข์ดังขึ้นจากฝั่งเมืองมาวผี ฟ้าเสือข่ามสั่งให้เป่าสัญญาณถอนทัพ ทมิฬตราได้ยินสัญญาณจึงกล่าวกับอ้ายทิม "วันนี้เราเสมอกัน แต่ครั้งหน้าจะไม่เป็นเช่นนี้" แล้วมันก็ควบม้ากลับไปยังกองทัพของตน
เมื่อกองทัพเมืองมาวผีถอนทัพกลับไป เสียงโห่ร้องยินดีก็ดังขึ้นจากฝั่งเมืองไกยเกศี ทหารและชาวเมืองต่างดีใจที่รอดพ้นจากการรุกรานในครั้งนี้
เจ้าไกรสีหราชสั่งให้ข้าหลวงไปตามอ้ายทิมมาเข้าเฝ้า เมื่ออ้ายทิมมาถึง เจ้าไกรสีหราชกล่าวชมเชยด้วยความยินดี "เจ้าช่างเป็นวีรบุรุษผู้กล้าหาญ แม้จะเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา แต่กลับมีฝีมือเหนือกว่าแม่ทัพนายกองของเราเสียอีก ข้าขอแต่งตั้งเจ้าเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งเมืองไกยเกศี"
อ้ายทิมคุกเข่าลงแล้วกล่าวว่า "ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ แต่กระหม่อมมิได้ต้องการยศถาบรรดาศักดิ์ใดๆ กระหม่อมเพียงต้องการปกป้องบ้านเมืองและชาวบ้านเท่านั้น"
เจ้าไกรสีหราชยิ้มอย่างพอใจ "เจ้าช่างเป็นคนที่มีจิตใจงดงาม ถ้าเช่นนั้น เจ้าประสงค์สิ่งใดข้าจะยกให้ "
" ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ แต่กระหม่อมมีภารกิจสำคัญที่ต้องไปทำอีกมาก ตามที่ผู้คนร้องขอความช่วยเหลือ บัดนี้เมืองไกยเกศีปลอดผู้รุกรานถือเป็นอันสิ้นสุดภารกิจของข้าพเจ้าแล้ว พ่ะย่ะค่ะ "
เจ้าไกรสีหราชตื้นตันใจยิ่งนัก " อย่างนั้นข้ามิมีอะนใดให้เจ้า ขอให้เจ้ารับสิ่งนี้แทนใจข้าเถิด นี่คือตราสารรูปนรสิงห์ทองคำ มันคือตรานาครบาล เจ้าสามารถช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนได้ทั่วทุกสารทิศตามใจปรารถนา โปรดรับไว้เป็นบำเหน็จแก่ข้าเถิด
" เป็นพระมหากรุณาธิคุณพ่ะย่ะค่ะ "
" ข้าพเจ้าขอลาก่อนพ่ะย่ะค่ะ "
อ้ายทิมเดินออกพระราชวังมายังตลาดข้างกำแพงเมืองชั้นนอกพบลุงกันตีเหล็กและชาวบ้านเตรียมข้าวปลาอาหารไว้พอประมาณ นำมาให้อ้ายทิม อ้ายทิมซึ้งในน้ำใจของชาวบ้านและเดินทางเดินเข้าป่า
ในใจของอ้ายคิดคิดว่า ในอีกไม่ช้า ดาบเมฆาพยัคฆ์ทั้งสองเล่มยังคงรอวันที่จะได้ปะทะกันอีกครั้ง และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง...
มุดหมายต่อไปไม่รู้ที่ใดเวลาจวนจะค่ำอ้ายทิมหาต้นไม้พักแรมนอนบนต้นไม้เช่นเคย เสบียงอาหารที่ชาวบ้านให้มานั้นเต็มย่ามไปหมด กินคนเดียว วันเดียวก็ไม่หมด แต่อาหารเป็นมื้ออาหารที่ว่ามารถอยู่ได้หลายวันดีอยู่ ก็พอเบาใจได้ประมาณหนึ่ง...
#ทีมพญาเม็งรายแอพดำ
#นิยายอิงประวัติศาสตร์
#ตำนานอิงประวัติศาสตร์
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน วิเคราะห์ แยกแยะ ตัวละครบางท่านอาจะมีอยู่จริง บางท่านอาจสมมุติขึ้นมา ตามจินตนาการของผู้แต่ง มิได้ล่วงเกินผู้ใดแต่อย่างใด เพื่อการดำเนินเรื่องให้เชื่อมโยงเท่านั้นหากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
#คนจรดาบ
#นิยายนิทานพื้นบ้าน
นิยายลึกลับสยองขวัญ
นิยาย
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย