19 ส.ค. เวลา 09:40 • การศึกษา

การจัดการอารมณ์ชิงลบและความเศร้า

อารมณ์ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มานาน และมันอยู่กับเราทุกลมหายใจ ในแต่ละวันเราจะมีความรู้สึก สุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ เกิดขึ้นสลับกันตลอดเวลา ความรู้สึก สุขและความรู้สึกเฉยๆ เรามักจะไม่มีปัญหากับมันเพราะมันจะพาเราไปในทางที่ดี แต่ความรู้สึกที่เป็นปัญหาคือความรู้สึกทุกข์นั่นเอง ซึ่งหากเราไม่รู้วิธีจัดการเราจะตกเป็นทาสของอารมณ์นั้นๆแบบที่ไม่รู้ตัวจนนำไปสู่ชีวิตที่พัง
หากเราสังเกตดีๆเราจะพบว่าอารมณ์เหล่านี้มีพลังอำนาจมากกว่าเหตุผลมาก ยกตัวอย่างเช่น
1. หญิงสาวคนหนึ่งถูกแฟนนอกใจ ทั้งๆที่รู้ว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผิด การฝืนคบกับแฟนที่นอกใจมีข้อเสียมากมาย แต่เธอกลับเลือกที่จะคบกับผู้ชายคนนี้ต่อเพราะอารมณ์ล้วนๆ
2. ชายคนหนึ่งเป็นคนขี้โมโหมาก ทั้งที่เขาก็รู้ว่าความโกรธเป็นสิ่งที่ไม่ดี และมีผลเสียต่อสุขภาพมาก แต่เมื่อความโกรธเกิดขึ้นเขากลับเลือกที่จะด่า แทนการเรียนรู้อารมณ์ที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง
3. ชายคนหนึ่งมีเงินเดือน 10,000 บาท เขาตั้งใจจะเก็บเงิน 2,000 ทุกเดือนเพื่อเอาไปต่อยอด แต่เพราะอารมณ์มันพาไป เขากลับเอาเงินนั้นไปผ่อน iphone เดือนละ 5,000 บาท ด้วยอำนาจของอารมณ์ล้วนๆ
4. หญิงสาวคนหนึ่งผิดหวังเรื่องความรัก เธอตั้งใจจะละทิ้งความเศร้าและออกไปทำงานเพื่อหาเลี้ยงน้องที่ยังเรียนไม่จบ แต่ความต้องการกับร่างกายมันสวนทางกัน เธอคนนี้รู้อยู่เต็มอกว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาเศร้า เธอพยายามผลักใสความเศร้านี้ออกไป แต่ยิ่งเธอผลักมันก็ยิ่งมากขึ้น จนเธอไม่สามารถลุกไปทำงานได้
จากตัวอย่างเมื่อครู่เราจะเห็นว่าอารมณ์เป็นสิ่งที่มีอำนาจมาก และยังไม่สามารถบังคับให้มันเป็นไปอย่างใจได้
อารมณ์ยังมีพฤติกรรมอีกอย่างที่บางคนอาจจะไม่รู้จัก มันจะมีการแสดงออกคล้ายๆกับปราฟพาราโบลาคว่ำ คือช่วงแรกจะมาน้อยๆ และจะค่อยๆเพิ่มความแรงขึ้นจนถึงจุดสูงสุด จากนั้นมันจะค่อยๆเบาลงจนหายไปเอง
อารมณ์ยังมีพฤติกรรมอีกอย่าง หากเราอยากจะให้มันหายไปมันยิ่งอยู่นาน ดังนั้นวิธีปฏิบัติต่ออารมณ์ที่ถูกต้องคือการทักอารมณ์ตรงๆเพื่อเรียนรู้มัน โดยการท่องว่า
นี่คือความเศร้า (ใครอยู่ในอารมณ์ไหนก็พูดอารมณ์นั้น) ความเศร้ากำลังเกิดขึ้นกับจิต จิตกำลังมีความเศร้าเกิดขึ้น ความเศร้ากำลังปรุงแต่งจิต จิตกำลังถูกความเศร้าปรุงแต่งอยู่
ให้ท่องแบบนี้ไปเรื่อยๆ ท่องให้ได้มากที่สุดจนกว่าอารมณ์นั้นจะคลายไป จากนั้นระหว่างวันให้ฝึกท่องบทต่อไปนี้
สำหรับศาสนาพุทธ
พุทโธ เม นาโถ (พระพุทธเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า)
ธัมโม เม นาโถ (พระธรรมเป็นที่พึ่งออันประเสริฐของข้าพเจ้า)
สังโฆ เม นาโถ (พระสงฆ์เป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า)
สานาอื่นๆ หรือคนไม่นับถือศาสนา
ขอพลังแห่งความรู้แจ้งจงบังเกิดขึ้นกับข้าพเจ้า
ขอพลังแห่งความจริงจงบังเกิดขึ้นกับข้าพเจ้า
ขอพลังแห่งความดีจงบังเกิดขึ้นกับข้าพเจ้า
หากสามารถทำได้แบบนี้ติดต่อเนื่องกัน เราจะพบว่าระยะเวลาแห่งความทุกข์จะสั้นลงเรื่อยๆ และใจเราจะแข็งแรงมากยิ่งขึ้น สำหรับคนเป็นโรคเครียด โรคซึมเศร้า วิธีนี้จะสามารถช่าวยได้ อย่างต่ำให้ลองทำ 7 วัน จะเห็นผลได้อย่างชัดเจน
โฆษณา