วิธีทดสอบเบื้องต้นว่ามีภูมิธรรมกล้าแข็งพอที่จะปิดอบายภูมิได้แล้วหรือยัง
พระตถาคตท่านเฉลยให้เวไนยสัตว์รู้ว่าผู้ที่บรรลุธรรมขั้นแรกสุดได้แล้ว จะไม่มีความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์-โหราศาสตร์และพิธีกรรม(ของทุกศาสนา ไม่เว้นแม้แต่พิธีกรรมแบบพุทธเถรวาทไทยๆ) จะไม่มีความลังเลสงสัยในคุณของพระรัตนตรัย รู้แล้วว่าตัวตนไม่ใช่เรา ไม่มีตัวเราและไม่เป็นของเรา
#บรรลุธรรม
ซึ่งธรรมขั้นแรกนี่แหละที่จะสามารถปิดอบายภูมิได้เลย ปิดอบายหมายถึง มีความสงบสุขตั้งแต่ตอนยังมีชีวิตอยู่ได้เลย ไม่เป็นโรคทางจิตเวช อารมณ์ค่อนข้างนิ่ง มีสติตัดสินใจอะไรได้ดี และเมื่อสิ้นชีวิตก็จะไปเกิดแต่ในสุคติภพเท่านั้น เช่น โลกมนุษย์ เทวโลก และพรหมโลก เป็นต้น
วิธีทดสอบง่ายๆว่ามีความนิ่งพอหรือไม่ คือ เมื่อเราถูกขอร้องให้ทำอะไรที่น่ารำคาญ เช่น ให้แก้งานซ้ำๆ หรือ ขอให้ช่วยงานซ้ำๆ ซ้ำไปซ้ำมา แก้ไขไปแก้ไขมาแล้วเราหงุดหงิดไหม หงุดหงิดจนอยากระเบิดอารมณ์ไหม หรือหงุดหงิดแต่ดับผัสสะความหงุดหงิดได้ทัน และยับยั้งการต่อว่าด้วยพยาบาทไว้ได้หรือไม่ ถ้าทำได้ แสดงว่ารู้แล้วว่าตัวตนไม่ใช่เรา ไม่มีเราไม่ใช่ของเรา จึงไม่ถือเอาความหงุดหงิดมาเป็นของตน เมื่อไม่ถือ จึงจะหงุดหงิดไม่ได้ และแน่นอน คุณจะไม่มีวันหาเรื่องใคร
อีกตัวอย่างหนึ่ง ถ้ามีคนมาตบหัวคุณ แล้วคุณตบกลับ มีคนมาด่าคุณ แล้วคุณด่ากลับ มีคนมาทำให้คุณเดือดร้อนคุณจึงตอกกลับไปไม่ให้ใครมาละเมิดคุณได้(ไม่ใช่เพราะคุณเห็นตัวเองมีตัวตน แต่เพราะไม่ต้องการให้เรื่องราวเดือดร้อนเกิดขึ้นเพราะคุณจะใช้ชีวิตได้ลำบากนั่นเอง) แต่คุณมีสติ รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่หลงลืมกระทำกัมมันตัง และไม่กระทำกรรมไปมากกว่านั้น ไม่ถึงขั้นอยากอาฆาตสังหารให้สิ้น ระงับยับยั้งกรรมหนักไว้ได้ทัน แสดงว่าคุณเชื่อในพระรัตนตรัยเพราะกลัวบาป กลัวจะผิดศีลข้อปาณาติปาต อาจจะไม่รู้ตัวก็ได้เป็นต้น
และแน่นอน ถ้าคุณเป็นคนเชื่อในคุณของพระศรีรัตนตรัย ถือศีลห้าครบ อาจจะด่างบ้างแค่นิดหน่อยแต่ไม่มีผิดศีลแน่นอน เวลาไปทำบุญก็ไปทำเพื่อการเสียสละเท่านั้น เพื่อการอยากให้คนอื่นได้รับในสิ่งที่ดีกว่าเท่านั้น ไม่ไหว้วอนเทพเทวดาพญานาค ไม่ขอพรพระขอพรเจ้า ไม่ดูฤกษ์ยามสีมงคล ไม่บูชาวัตถุมงคลเพราะรู้แล้วว่าความเป็นสิริมงคลอยู่ที่ใจที่ตั้งมั่นในพระรัตนตรัยอยู่แล้ว คุณจึงมั่นใจในความคิดดีพูดดีกระทำดีของคุณอยู่แล้ว ว่าเหตุนั้นแหละคุณจะได้สิ่งดีมาแน่นอน ให้พยากรณ์ตัวเองได้เลยว่าคุณบรรลุธรรมขั้นแรกแล้วครับ
หากจะใช้สมมติบัญญัติเรียก ก็อาจจะใช้คำว่าโสดาบันหรือสกิทาคามีแล้วแต่สมมติบัญญัติจะตั้งขึ้น แต่ในเมื่อเราไม่ยึดติดแต่เพียงในคำเรียก ก็มาใช้การทดสอบข้างต้นเอา เพื่อพยากรณ์ตัวท่านเองได้คร่าวๆครับว่าท่านบรรลุธรรมเป็นอริยบุคคลขั้นต้นแล้วหรือยัง ที่สำคัญคนที่รู้ว่าตัวเองบรรลุแล้ว เขาจะไม่พูด ไม่บอกใครเพราะมีความละอายขัดเขิน เนื่องจากเขาจะรู้สึกว่าการโอ้อวดบอกไป คือการยึดในความมีตัวตนอย่างหนึ่งนั่นเอง
แอดมินสกิทาเทพ แห่งเพจเฟ๊ซบุ๊คธรรมะแฟนตาซี
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
