21 ส.ค. เวลา 04:39 • ธุรกิจ

รู้จัก The Standard เชนโรงแรมที่แสนสิริ ขายหุ้นให้ Hyatt ในราคา 10,000 ล้าน

เช้านี้มีข่าวใหญ่ในวงการธุรกิจ โดยบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการขายหุ้น Standard International Holdings ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 71%
1
ให้กับกลุ่ม Hyatt เชนโรงแรมยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ
ด้วยมูลค่าดีลรวมไม่เกิน 355 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 12,100 ล้านบาท
1
ซึ่งแบ่งเป็น
-ค่าตอบแทนเริ่มแรก (Upfront) 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะชำระเมื่อธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์
2
-ค่าตอบแทนตามผลการดำเนินงาน (Earnout) ไม่เกิน 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับโรงแรมและโครงการที่พักอาศัยแห่งใหม่ ภายใต้แบรนด์ของ SIM และ Bunkhouse ซึ่งจะชำระเมื่อโครงการใหม่ ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดดำเนินการภายในเวลาที่กำหนด
1
-ค่าตอบแทนพิเศษตามผลการดำเนินงาน (Earnout Bonus) ไม่เกิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
1
-ค่าตอบแทนการใช้แบรนด์ของ SIM และ Bunkhouse
และคาดว่า ดีลนี้จะเสร็จสมบูรณ์ ในเดือนกันยายน 2567
โดยหลังจากประกาศขายธุรกิจ The Standard ออกไป และรับทรัพย์กว่าหมื่นล้านบาท
วันนี้ ราคาหุ้นของ SIRI ก็ปรับตัวขึ้นทันที 4.3%
ทีนี้ บางคนน่าจะสงสัยว่า โรงแรม The Standard คือใคร
เมื่อเห็นชื่อ The Standard หลายคนอาจจะคิดว่า เครือโรงแรมแห่งนี้ มีความเกี่ยวข้องกับสำนักข่าวออนไลน์ในไทยที่ชื่อเดียวกัน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่
เพราะแบรนด์โลโกกลับหัว The Standard ที่จะเล่าถึงในวันนี้ เป็นเครือโรงแรมสไตล์บูทีกจากสหรัฐอเมริกา ที่เคยมีคุณลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ เป็นผู้ร่วมลงทุน
และมีผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย อย่าง แสนสิริ
1
โรงแรม The Standard มีความเป็นมาอย่างไร
แล้วทำไมโลโกของโรงแรมแห่งนี้ถึงกลับหัว ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
3
จุดเริ่มต้นของโรงแรม The Standard นั้น แรกเริ่มเดิมที เป็นโรงแรมที่ชื่อว่า “Thunderbird” ที่ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ในปี 1962 หรือราว 62 ปีก่อน
1
โดยโรงแรมแห่งนี้ มีความโดดเด่นด้านการออกแบบรูปทรงอาคารที่ทันสมัย รวมถึงการออกแบบผนังอาคารให้โค้ง ลักษณะเป็นคลื่นที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
2
และในช่วงกลางทศวรรษ 1970 ก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น Golden Crest แถมยังถูกปรับเปลี่ยนการให้บริการ กลายไปเป็นบ้านพักสำหรับคนวัยเกษียณ
3
กระทั่งปี 1999 คุณ Andre Balazs นักธุรกิจชาวอเมริกัน ได้ตัดสินใจเข้าซื้อโรงแรมนี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการเข้าซื้อด้วยเงินส่วนตัวแล้ว เขาก็ยังมีผู้ร่วมลงทุนเป็นดาราฮอลลีวูดชื่อดังอย่าง คุณลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ และคุณคาเมรอน ดิแอซ รวมถึงศิลปินในวงการอีกหลายคนอีกด้วย
จนในที่สุด ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “The Standard” อย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน
พร้อมกับโลโกกลับหัว ซึ่งเป็นที่สงสัยของใครหลายคน
3
ทีนี้ เรามาดูกันว่าโลโกกลับหัว มีที่มาจากอะไร ?
1
แม้ว่าโรงแรมแห่งนี้จะมีชื่อว่า The Standard ที่แปลว่ามาตรฐาน
แต่โลโกที่ถูกออกแบบโดยคุณ Tibor Kalman นี้ กลับเป็นไปตามแนวคิดที่ว่า “Anything but Standard”
ซึ่งหมายความว่า “อะไรก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่มาตรฐาน”
นั่นก็เพราะคุณ Balazs ที่เป็นเจ้าของ มองว่าโดยปกติแล้ว ธุรกิจโรงแรมจะดำเนินธุรกิจโดยใช้มาตรฐานเป็นที่ตั้ง แต่สำหรับ The Standard นั้น อยากจะทำสิ่งที่แตกต่างออกไปสักหน่อย
1
โดยความแตกต่างที่ว่านั้น ก็เช่น
ครั้งหนึ่งเขาเคยมีความคิดที่จะให้ล็อบบี้ ไปอยู่บนชั้นดาดฟ้า เหมือนห้องเพนต์เฮาส์ หรือแม้แต่การนำล็อบบี้เช็กอินไปไว้ในลิฟต์ แต่ท้ายที่สุดความคิดสุดแปลกนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
5
ด้วยความที่ The Standard เริ่มต้นจากความคิดที่ว่าจะให้ความสำคัญอย่างมากกับงานดิไซน์
คุณ Balazs จึงคิดต่อไปอีกว่า แล้วทำไมถึงไม่นำร้านอาหาร รวมถึงไนต์คลับเจ๋ง ๆ มาไว้ในโรงแรมด้วยเลย
แนวคิดเหล่านี้ จึงได้ถูกสะท้อนออกมาเป็นเชนโรงแรมสไตล์บูทีก ที่จะมาพร้อมกับสระว่ายน้ำสีฟ้าอ่อน ห่วงยางสีชมพู มีเก้าอี้ และเตียงสระน้ำสีขาว ตัดกับพื้นหญ้าเทียมสีน้ำเงินสดรอบสระว่ายน้ำ อันเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมแห่งนี้
2
ซึ่ง The Standard ก็ยังได้คุณ Shawn Hausman นักออกแบบฉากภาพยนตร์ มาช่วยตกแต่งพื้นที่ภายในของโรงแรมอีกด้วย
นอกจากนั้น ยังมีร้านอาหารที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง มีไนต์คลับ และวงดนตรีตลอดทุกวัน
จนทำให้ The Standard กลายมาเป็นหนึ่งในแหล่งพบปะของเหล่าคนดัง และคนที่รักในกิจกรรมยามค่ำคืนทันที
1
หลังจากนั้น The Standard ก็ได้เปิดตัวในที่อื่น ๆ ตามมา โดยรูปแบบธุรกิจจะเป็นการเข้าไปซื้ออสังหาริมทรัพย์เก่า และนำมารีโนเวตด้วยดิไซน์เฉพาะตัว
4
- The Standard แห่งแรกใน Hollywood เป็นบ้านพักสำหรับคนวัยเกษียณมาก่อน
- The Standard, Downtown LA เป็นอาคารสำนักงานเก่าของบริษัทน้ำมันชื่อ Superior Oil
และได้เปลี่ยนอาคาร 12 ชั้นที่ประดับด้วยหินอ่อน ให้มีสระว่ายน้ำอยู่บนชั้นดาดฟ้า พร้อมลานเบียร์และบูทดีเจสำหรับปาร์ตี
- The Standard Miami ก็เป็นชุมชนอะพาร์ตเมนต์ สำหรับคนวัยเกษียณอีกเช่นกัน แถมยังอยู่ในทำเลที่ไม่มีใครคิดจะสร้างโรงแรมด้วยซ้ำ
- The Standard East Village ก็เกิดจากการควบรวมกับโรงแรม Cooper Square ในแมนแฮตตัน นครนิวยอร์ก
โดย The Standard ทุกแห่งจะมีการดิไซน์และตกแต่งด้วยสีสันสดใส ประกอบไปด้วยไนต์คลับ ร้านอาหาร และบาร์เครื่องดื่ม จึงเป็นโรงแรมบูทีกที่ให้ความรู้สึกสนุกสนาน รวมถึงเป็นที่จัดปาร์ตีริมสระว่ายน้ำสำหรับบางแห่งอีกด้วย
 
สำหรับแห่งที่ห้าในชื่อ The Standard High Line ก็ตั้งอยู่ในแมนแฮตตันเช่นกัน
ซึ่งที่นี่เป็น The Standard แห่งแรกที่สร้างขึ้นใหม่ ไม่เหมือนกับที่อื่น ๆ ที่ซื้อมารีโนเวต
แต่ก็ยังคงความโดดเด่นในด้านการออกแบบเช่นเคย
2
ด้วยเอกลักษณ์ของโรงแรมและการมีหุ้นส่วนจากวงการฮอลลีวูด ทำให้ The Standard ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในฉากรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่อง เช่น Sex and the City, Ocean’s Twelve, Gossip Girl และอีกหลาย ๆ เรื่อง
ต่อมาในปี 2013 คุณ Balazs ขายหุ้น 80% ของบริษัท ให้กับ Standard International นำไปบริหารต่อและได้ขยายสาขาเพิ่มเติม
ก่อนที่ในปี 2017 บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยอย่าง แสนสิริ จะเข้าซื้อบริษัทแห่งนี้ด้วยมูลค่า 2,000 ล้านบาท แลกกับหุ้น 35%
หมายความว่า ตอนนั้น แสนสิริ ประเมินมูลค่าธุรกิจ The Standard ไว้ราว 5,700 ล้านบาท
ซึ่งหลังจากนั้น แสนสิริ ก็ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็น 71%
และมาวันนี้ แสนสิริ ได้ขายหุ้นทั้งหมดที่ถือ ออกไปให้กับกลุ่ม Hyatt จากสหรัฐฯ
โดยบริษัทแจ้งเหตุผลที่ขายว่า ดีลนี้สร้างประโยชน์ให้กับบริษัท เพราะจะช่วยเสริมสร้างสถานะทางการเงิน ด้วยมูลค่าดีลที่น่าพอใจ และบริษัทสามารถนำเงินทุนไปใช้เพื่อการพัฒนาโครงการใหม่ที่น่าสนใจอื่น ๆ ตามเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของบริษัทได้
1
ทั้งนี้ โรงแรม 2 แห่งแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นของความเป็น The Standard นั้น จำเป็นต้องปิดตัวลงไป
โดยแห่งแรกคือ The Standard Hollywood ปิดตัวไปในปี 2021 เนื่องจากไม่สามารถตกลงเรื่องค่าเช่าที่ ที่ปรับตัวสูงขึ้นได้
1
ส่วนแห่งที่สองคือ The Standard, Downtown LA ปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 และปิดถาวรไปเมื่อต้นปี 2022 ที่ผ่านมา
ทำให้จนถึงปัจจุบัน The Standard มีอยู่ทั้งหมด 8 แห่ง ในนิวยอร์ก, ไมแอมี, ลอนดอน, มัลดีฟส์ รวมถึงที่อิบิซา เกาะของประเทศสเปน ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่เป็นสวรรค์ของนักปาร์ตี และอีก 2 แห่งในประเทศไทย
สำหรับ The Standard ในประเทศไทย เปิดตัวแห่งแรกที่หัวหิน เมื่อปลายปี 2021 ที่ผ่านมา และแห่งที่สองคือที่ตึก คิง เพาเวอร์ มหานคร ในปี 2022
ซึ่ง Standard International นอกจากจะมีเครือโรงแรม “The Standard” แล้ว
ก็ยังมีเครือโรงแรมประเภท Motel และร้านกาแฟในชื่อว่า “Bunkhouse”
รวมถึงมีแอปพลิเคชันสำหรับจองโรงแรม ในชื่อว่า “One Night”
2
แม้ว่าในตอนเริ่มต้นของ The Standard จะมีดาราฮอลลีวูดและศิลปินในวงการบันเทิง เป็นหุ้นส่วนร่วมลงทุน ทำให้โรงแรมแห่งนี้ กลายมาเป็นที่รู้จักได้โดยง่าย
แต่ด้วยเอกลักษณ์ ตัวตน และการฉีกกฎเกณฑ์ของมาตรฐานโรงแรมแบบเดิม ๆ
ก็ได้ทำให้ The Standard เป็นโรงแรมบูทีกของคนรักสีสัน จนขยายสาขาไปทั่วโลก
ดังเช่นแนวคิดที่ว่า Anything but Standard หรือ อะไรก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่มาตรฐาน นั่นเอง..
โฆษณา