Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
g
1% grow up
•
ติดตาม
21 ส.ค. เวลา 09:31 • การศึกษา
หยุดกังวลกับเรื่องเหนือการควบคุม
เรื่องเหนือการควบคุมมีเยอะมาก ยกตัวอย่างเช่น
พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก พระอาทิตย์ตกทางทิศตะวันตก ซึ่งเราไม่สามารถควบคุมให้มันตกทางทิศตะวันออก และสั่งให้มันขึ้นทางทิศตะวันตกได้เลย
แม้แต่ร่างกายตัวเอง เราก็ยังสั่งมันไม่ได้ เช่น เวลาเรากินข้าวเข้าไป เราห้ามไม่ให้มันย่อยได้ไหม เราสั่งห้ามเอนไซม์ไม่ให้ทำงานได้ไหม ก็ไม่ได้
เวลาที่เรามองออกไปข้างนอกเราห้ามสมองไม่ให้ประมวลผลภาพได้ไหม ก็ไม่ได้
เวลาเราถูกตี แน่นอนว่ามันเจ็บและเจ็บนานด้วย แล้วเราสามารถสั่งให้มันหายทันทีเลยได้ไหม ก็ไม่ได้
เวลาที่เรากินข้าวและสารอาหารเข้าไป เราสั่งห้ามไม่ให้ผมงอกได้ไหม ก็ไม่ เราสั่งห้ามไม่ให้แก่ได้ไหม ก็ไม่ เราสั่งห้ามไม่ให้ตายได้ไหม ก็ไม่
เวลาความโกรธเกิดขึ้น เราสั่งให้มันหายไป มันหายไปไหม ก็ไม่
เวลาความเศร้าเกิดขึ้น เราสั่งให้มันหายไป มันหายไปไหม ก็ไม่
เวลาเรามีความสุข เราสั่งให้มันอยู่ตลอกกาล มันอยู่ไหม ก็ไม่
ดังนั้นทุกอย่างมีวาระของมัน
ยิ่งเราสังเกตมากเท่าไหร่เราจะยิ่งรู้ว่าในโลกนี้มีหลายสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เพราะแม้แต่ตัวเองก็ยังควบคุมไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่น เราจะไปหวังให้คนนั้นเป็นแบบนี้ คนนี้เป็นแบบนั้น อยากให้งานออกมาราบรื่น อยากให้ธุรกิจสำเร็จ กังวลใจเรื่องแฟน กังวลใจเรื่องลูก อยากให้ทุกเรื่องออกมาในแบบที่เราต้องการ
คุณว่าความคิดแบบนี้เป็นเรื่องตลกไหม มันเหมือนเรามานั่งเครียดว่าทำไมพระอาทิตย์ถึงไม่ตกทางทิศตะวันออก ซึ่งมันเป็นการกระทำที่ไม่เมคเซนส์ ทำไปแล้วก็ไม่ได้อะไร รังแต่ให้ตัวเองเครียดเพิ่มเปล่าๆ
และเมื่อเราสังเกตไปเรื่อยๆ เราจะพบว่าโลกใบนี้ใช้กฏของเหตุและผล อย่าง ดวงอาทิตย์ตกทางทิศตะวันตกและขึ้นทางทิศตะวันออก ก็เพระว่าโลกมันหมุนรอบตัวเองและหมุนรอบดวงอาทิตย์ ไม่ว่าคุณจะอยากให้มันขึ้นมันตกทางไหนมันก็ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตกของมันอยู่อย่างนั้น
อย่างการกินข้าว ในเมื่อคุณทำเหตุไปแล้วคือการกิน ผลของมันก็คือร่างกายจะย่อยอาหารที่คุณกินเข้าไป ไม่ว่าคุณจะอยากหรือไม่อยากให้มันย่อยก็ตาม
เวลาที่เราเปิดตาและมองออกไปข้างนอกมันก็คือเหตุ ผลก็คือแสงสว่างมันก็จะเข้าตาคุณ และร่างกายมันก็จะรับสัญญาณแสงและแปลงเป็นภาพตามหน้าที่ของมัน ไม่ว่าคุณจะอยากให้มันสร้างหรือไม่สร้างภาพก็ตาม
เวลาถูกตี การถูกตีมันก็คือเหตุ ผลก็คือแรงตีไปกระตุ้นให้รีเซฟเตอร์บนผิวของคุณแปลงแรงตีเป็นสัญญาณประสาทและเปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดให้คุณ ซึ่งระบบประสาทมันก็ทำงานของมัน ต่อให้คุณไม่อยากให้มันทำงานมันก็จะทำอยู่อย่างนั้นตามเหตุที่เกิดขึ้น
เวลาที่คุณกินข้าวเข้าไป ร่างกายก็ต้องเจริญเติบโต ผมก็ต้องงอก ตามเหตุและผล
เวลามีอะไรมากระทบแล้วคุณโกรธ มันก็ต้องโกรธเพราะความโกรธมันก็ทำงานของมันตามเหตุและผล
เวลาเศร้าความเศร้ามันก็ทำงานของมันตามเหตุและผล จะไปสั่งให้มันหายไปมันก็ไม่หาย
ความสุขมันก็คือความสุข เวลาเราพอใจความสุขมันก็ต้องเกิด มันก็เป็นหน้าที่ของมัน
เมื่อเราเข้าใจแล้วว่าโลกนี้มันเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุและผล ดังนั้นเราใช่ชีวิตตามหลักเหตุและผล เช่น
บางคนอยากมีรูปร่างที่ดี อยากมีซิกแพค แต่มีชุดความคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ ตัวเองไม่มีความรู้ ขี้เกียจบ้าง หรือกลัวนั่นกลัวนี่ ซึ่งอารมณ์พวกนี้มันแสดงออกตามหน้าที่ของมันแค่นั้น ต่อให้คุณกลัวมากแค่ไหน ขี้เกียจมากแค่ไหน แต่ถ้าคุณลุกขึ้นมาทำเหตุ คือการออกกำลังกายทุกวัน ต่อให้คุณไม่อยากมีซิกแพ็คมันก็มีเพราะคุณทำเหตุมาอย่างนั้น
บางคนอยากพูดภาษาอังกฤษได้ แต่คิดว่าตัวเองหัวไม่ไดี บางคนกลัว ซึ่งอารมณ์ตรงนี้มันก็ทำงานตามเหตุตามหน้าที่ของมัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้ชีวิตมาแบบไหน แต่หากคุณใช้หลักการของเหตุและผล คุณก็จะเรียนภาษา หัดพูด หัดอ่าน หัดดูหนังภาษาอังกฤษ พอคุณทำเหตุที่ถูกต้องแบบนี้ไปเรื่อยๆสัก 5-10 ปี ต่อให้คุณไม่เชื่อว่าคุณจะทำได้ แต่คุณเชื่อไหมว่าคุณจะทำได้ เพราะคุณทำเหตุมาแบบนั้น
มาถึงตรงนี้ หากคุณต้องการรับมือกับอารมณ์ให้ดีขึ้น แนะนำให้อ่านบทความวิธีจัดการกับอารมณ์ต่อในเพจ 1% grow up
พัฒนาตัวเอง
แนวคิด
ธรรมะ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย