21 ส.ค. เวลา 14:34 • ข่าวรอบโลก

สงสัยอินซีรีส์ Game of Thrones สื่อตะวันตกเผย

อดีตสายลับซาอุฯ ลี้ภัยอ้างเจ้าชาย MBS ปลอมลายเซ็นกษัตริย์ซาอุฯ ทำ “สงครามกับเยเมน”
สื่อที่เริ่มจุดประกายเกี่ยวกับเรื่องนี้คือเอพีรายงานเมื่อ 19 สิงหาคม 2024 (อ้างอิง: [1]) ว่า “ซาอัด อัล-จาบรี” อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ข่าวกรองซาอุฯ ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดในวังของอดีตมกุฎราชกุมารซาอุฯ พระองค์ก่อน (ฝ่ายตรงข้ามกับมกุฎราชกุมารซาอุฯ ปัจจุบัน) ให้สัมภาษณ์บีบีซีเมื่อวันจันทร์ (19 สิงหาคม) ในสารคดีชื่อว่า The Kingdom: The World's Most Powerful Prince (อ้างอิง: [2])
2
มกุฎราชกุมารซาอุฯ องค์ปัจจุบัน “โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน” (MBS) เคยทรงแอบปลอมลายเซ็นของกษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด (พระบิดาของพระองค์) ในพระบรมราชโองการการประกาศ “สงครามเยเมน” ปฏิบัติการภาคพื้นดินของกองกำลังซาอุฯ ในช่วงเริ่มต้นของสงครามกลางเมืองในเยเมน
3
เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน กำลังทรงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมซาอุดิอาระเบีย (ช่วงต้นปี 2015) และพระองค์ก็มีทีท่าเพิกเฉยต่อคำห้ามปรามของอเมริกา
1
เครดิตภาพ: BBC Two
อัล-จาบรี (ตอนนั้นยังเป็นเจ้าหน้าที่ข่าวกรองซาอุฯ) กล่าวว่าเขาได้หารือเกี่ยวกับสงครามในเยเมนซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนกันยายน 2014 กับซูซาน ไรซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ตอนนั้นไรซ์กล่าวว่าวอชิงตันจะสนับสนุนเฉพาะการโจมตีทางอากาศเท่านั้น
“พวกเราต่างประหลาดใจที่กษัตริย์ฯ ทรงมีพระบรมราชโองการอนุญาตให้สามารถทำการแทรกแซงทางภาคพื้นดินได้” อัล-จาบรีเปิดเผยต่อสื่ออังกฤษ และเสริมต่อโดยอ้างถึงแหล่งข่าวภายในกระทรวงมหาดไทยซาอุฯ ที่ตนขึ้นสังกัดอยู่ด้วยว่า “MBS ทรงปลอมแปลงลายเซ็นพระบิดาของพระองค์เพื่อพระบรมราชโองการนั้น หรือเป็นเพราะว่าความสามารถในการตัดสินใจของกษัตริย์ซาอุฯ เริ่มเสื่อมถอยลง”
อัล-จาบรียังบอกอีกด้วยว่า หัวหน้าของสำนักงานซีไอเอสาขาในริยาดรู้สึกโกรธกับการตัดสินใจของเจ้าชาย MBS ครั้งนี้มาก
การเปิดเผยล่าสุดเกิดขึ้นในช่วงที่เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ทรงอยู่ในฐานะผู้ปกครองซาอุดิอาระเบียโดยพฤตินัย และทรงพบปะผู้นำต่างชาติแทนพระราชบิดาที่ทรงพระชรามากแล้วในวัย 88 พรรษา
ภาพถ่ายเมื่อปี 2018 เครดิตภาพ: AFP/Bandar al-Jaloud
เอพีรายงานว่า ซาอัด อัล-จาบรี อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองซาอุฯ รายนี้กำลังลี้ภัย (หนีออกจากซาอุฯ ตั้งแต่ปี 2017) อยู่ในแคนาดานั้นมีความขัดแย้งมายาวนานกับสถาบันกษัตริย์ซาอุฯ ยุคปัจจุบัน โดยลูก 2 คนของเขาถูกจำคุกในคดีที่เขาอธิบายว่า “เป็นแผนล่อให้เขากลับเข้ามาในซาอุฯ อีกครั้ง”
ในขณะเดียวกันรัฐบาลซาอุฯ ได้กล่าวถึง ซาอัด อัล-จาบรี ว่า เป็นอดีตเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งไม่มีความน่าเชื่อถือ โกหกพกลมทั้งเพ โดยเอพีรายงานว่า อัล-จาบรีเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ใกล้ชิดรับใช้อดีตมกุฎราชกุมารซาอุฯ เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ รัฐมนตรีมหาดไทยของซาอุฯ ในขณะนั้น และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ ในการทำสงครามต่อต้านเครือข่ายอัลกออิดะห์ในดินแดนซาอุฯ หลังเหตุการณ์ช็อกโลก 9/11
ซาอัด อัล-จาบรี อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองซาอุฯ ลี้ภัยมาอยู่แคนาดา (ในวงกลม) เครดิตภาพ: Bandar al-Galoud / BBC
กษัตริย์ซาอุฯ องค์ปัจจุบันทรงปลดมกุฎราชกุมารองค์ก่อนหน้า และได้แต่งตั้งพระราชโอรสของพระองค์ “เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (MBS)” ขึ้นแทนในปี 2017 และเชื่อกันว่าอดีตมกุฎราชกุมารทรงถูกสั่งกักบริเวณให้อยู่แต่ภายในที่ประทับ
2
อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองริยาดคนนี้เลยยื่นฟ้องเจ้าชาย MBS ที่ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ กล่าวหาพระองค์ว่าต้องการลอบสังหารตัวเขาหลังจากที่สามารถหลบหนีลี้ภัยออกนอกประเทศได้สำเร็จ “พระองค์ทรงวางแผนสำหรับการลอบสังหารตัวผม”
อัล-จาบรียืนยันกับบีบีซี และกล่าวต่อว่า “พระองค์ทรงบรรทมไม่หลับจนกว่าจะเห็นผมตาย ผมไม่เคยสงสัยเลยในสิ่งนี้” เขายังได้กล่าวถึงความรู้สึกหวาดกลัวต่อการที่ต้องถูกโดนตามลอบสังหารระหว่างอยู่ในต่างแดนในขณะที่ลูกของเขาถูกขังในริยาด
ซาอัด อัล-จาบรี (ขวา) เครดิตภาพ: Hindustan Times
ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2021 อัล-จาบรีเคยให้สัมภาษณ์กับรายการ 60 Minutes ของช่อง CBS สหรัฐฯ โดยได้ออกมาเปิดเผยและกล่าวหาว่า “เจ้าชาย MBS เคยมีแผนการลอบสังหารอดีตเจ้าผู้ครองซาอุฯ (กษัตริย์อับดุลลาห์ – กษัตริย์พระองค์ก่อนหน้าองค์ปัจจุบัน มีศักดิ์เป็นลุงของเจ้าชาย MBS) ในปี 2014 ด้วยแหวนอาบยาพิษที่สั่งจากรัสเซีย เพื่อเคลียร์ทางให้พระบิดาของเจ้าชายได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อ” - อ้างอิง: [3]
  • สงคราม “ซาอุดิอาระเบีย-เยเมน (กลุ่มฮูตี)”
กองกำลังผสม (กลุ่มพันธมิตร) ที่นำโดยซาอุดิอาระเบียซึ่งรวมถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เข้าแทรกแซงในนามของรัฐบาลเยเมนเมื่อมีนาคม 2015 เพื่อผลักดันกลุ่มฮูตีให้ถอยกลับ หลังจากกลุ่มดังกล่าวเข้ายึดครองซานา (เมืองหลวงของเยเมน)
รายงานของสหประชาชาติระบุว่าการโจมตีทางอากาศของกลุ่มพันธมิตรได้สังหารพลเรือนหลายพันคน ในขณะที่กลุ่มฮูตีได้ยิงขีปนาวุธและโดรนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนในซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
กลุ่มพันธมิตรไม่สามารถขับไล่กลุ่มฮูตีออกจากเมืองหลวงของเยเมนได้ ต่อมากลุ่มฮูตีได้กลายมาเป็นผู้นำโดยพฤตินัยในภาคเหนือของประเทศเยเมนที่กำลังอยู่ในภาวะสงครามกลางเมือง พื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การควบคุมของสภาการเปลี่ยนผ่านซึ่งเป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางภาคใต้อีกกลุ่มหนึ่ง
1
เครดิตภาพ: Al Jazeera
สุดท้ายแล้วคนที่รู้ดีที่สุดคือ กษัตริย์ซาอุฯ หรือ มกุฎราชกุมาร MBS เท่านั้น ว่ามีการปลอมลายเซ็นเกิดขึ้นจริงหรือไม่
เรียบเรียงโดย Right Style
21st Aug 2024
  • แหล่งข่าวและข้อมูลอ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: Lynsey Addario / The Atlantic>
โฆษณา