21 ส.ค. เวลา 15:37 • หุ้น & เศรษฐกิจ
SO ร่อแร่ หรือ รุ่งเรือง ?
.
1
บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ปีนี้ทำกำไรได้ดีมั้ย ?
… น่าเป็นห่วงครับ ครึ่งปีกำไรหายไปครึ่งนึง เมื่อเทียบกับปีก่อน
… แต่ล่าสุดราคาหุ้นบวกมาแล้วเกือบ 20% นี่มันอะไรกัน !!! มันมาได้ยังไง ?
.
SO ทำธุรกิจอะไร ?
.
เป็นบริษัท Outsource ที่คอยส่งคนงานให้กับบริษัทต่างๆ
เป็นบริษัทขนาดกลาง ทำรายได้ต่อปีประมาณ 2400 ล้านบาท
.
กำไรของบริษัทหายไปไหน ?
.
1. รายได้เกือบจะเท่าเดิม แต่อัตรากำไรขั้นต้นหายไป เนื่องจากค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้น
.
อันนี้ตรงไปตรงมาครับ SO ได้รับเงินจากบริษัทคู่ค้าเท่าเดิม แต่ต้องจ่ายให้ลูกจ้างสูงขึ้น กำไรย่อมหายไปเป็นธรรมดา… หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมบริษัทเทียบเคียงอย่าง PRTR ที่ทำธุรกิจคล้ายกันทำกำไรได้มากขึ้น อันนี้เป็นเพราะโมเดลธุรกิจของ PRTR เป็นแบบ “Cost plus” ครับ แปลง่ายๆ ก็คือ PRTR คิดค่าบริการเป็นเปอร์เซ็นจากค่าใช้จ่ายจริง ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบด้านลบจากค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ SO เก็บเงินจากบริษัทคู่ค้าเป็นเงินเดือนตายตัว ทำให้โดนผลกระทบตรงนี้ไป
.
2. กำไรจากการขายรถที่หายไป กลายเป็นขาดทุน
.
ปีที่แล้ว SO ได้กำไรจากการขายรถ 21 ล้านบาท เยอะนะครับ ! คิดเป็น 20% ของกำไรของบริษัทเลย ส่วนนี้หายไปเลยในปีนี้ เพราะหลายสาเหตุ ทั้งปัญหาส่วนตัวของบริษัทที่มีลูกค้ายกเลิกสัญญาแต่ดันเป็นรถรูปแบบเฉพาะที่เอาไปทำอย่างอื่นไม่ได้ และปัญหาของตลาด ที่ราคารถมือสองตกลงมาอย่างมีนัยสำคัญ
.
1
3. ลงทุนกับการทำระบบบริหารคน (PMS) และ Rebranding
.
บริษัทลงทุนเยอะมากครับกับสองเรื่องนี้ ซึ่งปัจจุบันยังคงไม่เห็นผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในมุมของรายได้และประสิทธิภาพในการบริหารงาน เรื่องนี้นานาจิตตังครับ แล้วแต่จะคิด… สำหรับผม การลงทุนในระบบเป็นสิ่งจำเป็น เพราะบริษัทบริหารคนจุดตายคือประสิทธิภาพ ยังไงก็ต้องลงทุนกับการพัฒนาเทคโนโลยี แต่ Rebranding ผมยังไม่เห็นว่าทำไมบริษัทถึงต้องทำ เพราะยังไง SO ก็เป็นธุรกิจ B2B ขอแค่บริการดี ประสิทธิภาพดี ราคาดี ก็ติดตลาดอยู่แล้ว… คงต้องรอดูกันต่อไปครับ ผมอาจจะผิดก็ได้
.
.
.
ราคาขึ้นมาได้ยังไง ?
.
อันนี้ยากจะเดาครับ แต่จากที่ผมมอง น่าจะมาจาก 3 สาเหตุผสมกัน
.
1. หุ้นเบามาก สกิดก็ขึ้นแล้ว
.
SO ราคาลงมาจนตลาดเลิกสนใจ นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่น่าจะถอดใจจนยอมขายขาดทุนไปหมดแล้ว ยอดซื้อขายหุ้นต่อวันแทบไม่เหลือ ทั้งวันซื้อขายกันแค่ 1-2 แสนบาท นั่นหมายความว่าถ้ามีใครอยากเก็บหุ้น แค่ซื้อนิดเดียว ราคาหุ้นก็วิ่งแล้ว
.
2. ธุรกิจยังดี ขอแค่ไม่ใช้เงินทำ Branding มากจนเกินไป
.
SO ยังทำกำไรจากการดำเนินธุรกิจปกติได้ดีนะครับ เรื่องค่าแรงขั้นต่ำก็เป็นปัญหาชั่วคราว เพราะยังไงบริษัทก็ต้องไปอัพเดทราคากับลูกค้าในที่สุด เรื่องราคารถมือสองที่ตกลงมา วันนึงราคาก็ต้องหยุดลง ไม่น่ากระทบบริษัทไปตลอด แถมบริษัทยังสามารถสร้างเงินสดจากการดำเนินงานได้ดีมากอีกด้วย ได้เงินสดเกือบสองเท่าของกำไรเกือบตลอด
.
1
ขอแค่บริษัทไม่ลงทุนกับ PMS และ Rebranding มากเกินไป บริษัททำกำไรได้แน่นอน แถมยังอยู่ในกระแสของ Outsource ซึ่งกำลังเป็น MegaTrend ที่มีโอกาสเติบโตในอนาคตอีกด้วย
.
3. ราคาหุ้นลงมามากเกินไป
.
กำไรปกติของ SO อยู่ที่ประมาณ 0.4 บาทต่อหุ้น และสร้างเงินสดจากการดำเนินงานได้ 0.8 บาทต่อหุ้นในแต่ละปี ราคาหุ้นที่ 4 บาทซึ่งคิดเป็นแค่ 5 เท่าของเงินสดจากการดำเนินงานถือว่าตลาดกดราคามาแบบไม่เหลือเยื่อใย เราต้องไม่ลืมครับว่า ธุรกิจนี้มีความเป็น Recuring income พอสมควร รายได้ไม่ได้ตกกันง่ายๆ แถมยังอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีอนาคต ถึงแม้ SO จะทำผลงานได้น่าผิดหวังในปีนี้ แต่ผมว่าตลาดลงโทษมันหนักเกินไปหน่อย
.
.
.
สุดท้ายนี้ ขึ้นอยู่ที่คุณแล้วครับ ว่าจะมองราคาตอนนี้เป็นวิกฤตหรือโอกาส บทความนี้เป็นเพียงข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ไม่มีใครรู้คำตอบที่แท้จริง มีแค่เวลาเท่านั้นที่จะบอกคำตอบให้เราได้
.
แล้วคุณแหละครับ คิดว่า SO จะร่อแร่ หรือ รุ่งเรือง ? คอมเม้นมาแชร์กันได้เลยนะครับ #Salarymanติดปีก
▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃
หากคุณเป็นนักลงทุน ที่ทำควบคู่งานประจำ
หรือชอบเนื้อหาของ Salaryman ติดปีก
ฝากกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม
เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเรา
และจะได้ไม่พลาดเนื้อหาใหม่ๆ ของเรา ด้วยนะครับ
▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃
โฆษณา