21 ส.ค. เวลา 23:29 • ธุรกิจ

9 คำถามที่จะช่วยค้นหาสาเหตุของความเหนื่อยล้าในงาน

ในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องที่เป็นความลับที่ต้องปิดบังกันอีกต่อไป ที่ทั้งผู้จัดการและพนักงาน ต่างก็ประสบกับความเหนื่อยล้าหมดไฟในงาน ซึ่งสาเหตุของการเหนื่อยล้านี้มาจากหลายปัจจัย รวมถึงปัจจัยส่วนบุคคล องค์กร อุตสาหกรรม และสังคม โดยทั่วไปแล้ว มักจะเป็นการรวมกันของหลายๆ ปัจจัยที่ไม่ได้รับการแก้ไขหรือจัดการเป็นเวลานาน ทำให้เกิดความเหนื่อยล้าหมดไฟในที่สุด (อ้างอิงจากบทความเรื่อง 9 Questions to Help You Figure Out Why You’re Burned Out โดย Rebecca Zucker ใน Harvard Business Review)
องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าความเหนื่อยล้ามีสามมิติสำคัญ ได้แก่
• รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างต่อเนื่อง
• รู้สึกไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• มีความรู้สึกถอดใจในงานของตนเองมากขึ้นเรื่อย ๆ
ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเหนื่อยล้าในแต่ละมิติจะต่างกันไปในแต่ละบุคคล ดังนั้นคำถามที่สะท้อนถึงตนเองด้านล่างนี้จะช่วยให้คุณระบุสาเหตุหลักของความเหนื่อยล้าในแต่ละด้านได้ แม้ว่าคำตอบอาจไม่ชัดเจนในทันทีหรือหลังจากการสะท้อนความคิด แต่การระบุปัญหาเหล่านี้เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ
คำถามเกี่ยวกับ ความรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างต่อเนื่อง
อาการเหนื่อยล้าในตอนสิ้นวัน หรือสิ้นสัปดาห์ เป็นครั้งคราว จะไม่จัดอยู่ในภาวะหมดไฟในการทำงาน แต่จะต้องเป็น ความรู้สึกหมดเรี่ยวแรง และอ่อนล้าจากการทำงานหนักเกินไป เป็นระยะเวลานาน ๆ ต่อเนื่องกัน โดยไม่มีช่วงเวลาพักฟื้นเพียงพอ ถ้าคุณรู้สึกเหนื่อยล้าอยู่ตลอดเวลา ให้ถามตัวเองดูว่า
1. อะไรคือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้าหรือเครียดมากที่สุดสำหรับฉัน?
2. งานอะไรที่หยุดฉันจากการพักผ่อนเพียงพอหรือการหยุดพักเป็นระยะ?
3. อะไรที่ทำให้ฉันรู้สึกมีพลังที่ขาดหายไปจากงานหรือชีวิตของฉัน?
“อะไร” ในคำถาม ส่วนใหญ่ จะต้องเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับงานมากกว่า เรื่องส่วนตัว เพราะนี่เป็นเรื่องของ Burnout
การสูญเสียพลังงานที่มาพร้อมกับความเหนื่อยล้าอาจเป็นผลมาจากหลายปัจจัย เช่น การทำงานแทนพนักงานที่มีผลงานไม่ดีในทีมที่ปัญหานั้นยังไม่ได้รับการแก้ไข หรือความคาดหวังจากผู้จัดการหรือแม้กระทั่งลูกค้าที่ไม่สมเหตุสมผลและต้องการการปรับเปลี่ยน บางทีอาจเป็นความสมบูรณ์แบบที่ทำให้ไม่กล้าขอความช่วยเหลือหรือไม่สามารถปฏิเสธคำขอที่ไม่สมเหตุสมผลได้
คำถามเกี่ยวกับ ความรู้สึกว่าตนเองขาดประสิทธิภาพในการทำงาน หรือไม่เก่งพอ
เคยรู้สึกเหมือนตัวละครในตำนานกรีก Sisyphus หรือไม่ ที่ต้องผลักหินก้อนใหญ่ขึ้นเขาทุกวันโดยที่ พอมันไปถึงยอดเขาแล้ว มันก็จะกลิ้งกลับลงมาอีกทุกครั้ง
นั่นไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความรู้สึกหงุดหงิดอย่างมากในการทำงาน แต่ยังลดความรู้สึกของการประสบความสำเร็จ และลดความหมายของงานที่เราอาจได้จากงานของเรา มันคือการทำงานแบบเดิม ๆ โดยที่เราไม่ได้รู้สึกว่ามันมีคุณค่าอะไรเลย ไม่มีประโยชน์อะไร หรืออาจจะเกิดจากความรู้สึกว่า ตนเองไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำให้งานที่ได้รับมอบหมายมานั้น สำเร็จได้เลย
เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกไม่มีประสิทธิภาพหรือสร้างแรงเสียดทานที่ไม่จำเป็น ให้ถามตัวเองว่า:
1. งานอะไร ตรงไหน ที่ทำให้ฉันรู้สึกไม่มีประสิทธิภาพที่สุด?
2. อะไรในงานที่สร้างความหงุดหงิดให้ฉันมากที่สุด หรือขัดขวางการทำงานของฉัน?
3. งานอะไรที่ทำให้ฉันต้องใช้พลังงานมากเกินไปกว่าที่ควร?
คำถามเกี่ยวกับ อาการถอดใจจากงานที่ทำ
มิติสุดท้ายของความเหนื่อยล้าคือการถอดใจจากงาน ซึ่งมีลักษณะเป็นความรู้สึกเชิงลบ หรือเริ่มรู้สึกว่างานมันไร้ค่า และดูถูกงานของตนเองมากขึ้น จนอาจแสดงออกเป็นความรังเกียจหรือเกลียดชังงานที่ตนเองทำ ทั้ง ๆ ที่งานนั้น เราก็เคยชอบ เคยรัก และเคยมี passion กับมันมาก่อน
ถ้าคุณพบว่าตัวเองมีความรู้สึกเชิงลบหรือเยาะเย้ยงานของตน ให้ถามตัวเองว่า:
1. งานอะไร ตรงไหน ที่ทำให้ฉันรู้สึกอยากถอดใจจากการทำงานที่เคยรู้สึกรักมันมาก่อน
2. ฉันเคยสนุกกับงานอะไรที่ตอนนี้ฉันไม่สนุกแล้ว?
3. เมื่อไหร่ที่การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นและอะไรเป็นเหตุผล?
การถามตัวเองทั้งเก้าคำถามข้างต้นนี้ จะช่วยให้เราค้นพบสาเหตุของปัญหาของภาวะหมดไฟของตัวเองได้ เพื่อจะได้หาจุดเริ่มต้นในการแก้ไขปัญหาความเหนื่อยล้าของเราเอง ซึ่งถ้าเราสามารถหยุด และเริ่มแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้ มันก็จะช่วยป้องกันไม่ให้กลายเป็นปัญหาใหญ่โตภายหลัง ซึ่งอาจจะส่งผลต่อทั้งสุขภาพการและใจ และส่งผลต่อการทำงานของตนเอง และอนาคตของตนเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โฆษณา