22 ส.ค. เวลา 00:57 • การเมือง
หากเรารู้จักเรื่องราวของอารมณ์ ที่นำพา ความโลภพาไป .ยึดถือหลงไหล โลภที่อยากได้อยากมี อำนาจวาสนา โลภอยากให้เป็นอย่างนั้นนี้ โลภที่จะมีพรรคสนับสนุน โลภอยากมียศฐานบรรดาศักดิ์ ..โลภทะเยอทะยานไม่หยุดหย่อน บุคคลที่มีแต่ความโลภจะเป็นอย่างไร จิตของเค้าย่อมหาความสงบสุขไม่ได้เลย ..เรารู้จักว่าจิตเราต้องการอะไร เราไม่ต้องการ เป็นขุนพลอยพยัก ที่จะไปยึดถืออารมณ์ที่ไม่เที่ยงของเค้า อารมณ์ที่ไม่เที่ยง
เหมือนว่า พูดอย่างทำอย่าง อารมณ์เจ้าเล่ห์เพทุบาย ..อะไรต่างๆ มันไหลออกมา มันเหมือนของเหม็น ..บางทีก็ทำให้เราเกิดทิฐิ อยากไปด่าไปว่าติเตียนเค้ามันเกิดที่ตัวเรา ..โอ้ย ..นี่เราจะมีอารมณ์กรรมเกิดขึ้น จมอยู่กับโคลนตมกับเค้า ใ..เราก็หลบหลีกหนีโคลนตม
..เราเกิดมา ..ไม่ได้ต้องการไปยึดถือสิ่งที่ไม่เที่ยงเป็นมายา พยายามสลัดเรื่องราวเหล่านี้ มองไปเมืองเรื่องสัตว์โลก ที่มีกรรม บ้างก็แก่งแย่งกันเป็นจ่าฝูง ทั้งที่เคยอยู่ร่วมกันมา พออยากเป็นใหญ่ มันก็กัดกัน เราไม่อยากเป็นเหมือนสัตว์พวกนั้น เราก็ทำจิตหนีดีกว่า อยู่นิ่งๆเฉย ทีเค้าเรียกว่า ไปนั่งบนภู ดูเสือสิงกระทิงแรดมันกัดกัน มันกัดกันเพราะอะไร เราก็ดู..ความเป็นคนเป็นสัตว์มีนต่างกันตรงไหนบ้าง บ้างก็เป็นรูปคน แต่จิตข้างในเป็นเปรตอสุรกาย หิวโหยตลอดเวลา
บ้างก็ทำตนเหมือนปีศาจเที่ยวหลอกคนนั้นคนนี้ เราก็ดูสัตว์โลกที่เค้ากำลังสร้างกรรมกัน ที่ว่ามีกิริยาท่าทางกายวาจาใจดีชั่วที่แสเงออกมา มันเป็นอย่างไร ส่วนเราก็พยายามทำจิตเฉย .ระมัดระวังตาตาหูตัวเอง ที่จะไปสัมผัสไปยึดถืออารมณ์ของเค้าเข้ามาในกายที่เป็นเหมือนบ้านให้จิตเราอาศัยอยู่ มันจะยิ่งสกปรกเลอะเทอะมากขึ้นไปอีก
แค่กินอาหารเข้าไปมันก็บูดเน่าขับถ่าย จิตก็อยู่กับของบูดเน่าพอแล้ว .ไม่อยากเอาของบูดเน่าของเหม็นเข้ามาเพิ่มอีก มันขับถ่ายออกไปยาก..ไม่เหมือนข้าวปลาอาหารที่กินเข้าไป ..เราก็รักษาจิตของเรา อย่ายุ่งกับอารมณ์ของหมูสัตว์การเมือง มันเป็นของมันอย่างนั้นเอง
ที่เค้าว่า เราไปแก้ไขนิสัยสันดานใครไม่ได้ ..เพราะมันเกิดที่ตัวตนของเค้า เราก็ดูละครของสัตว์การเมืองไป ..ดูเหมือนที่ว่า โลกนี้คือละคร ..ดูโขนลิเก เวลาแต่งองค์ทรงเครื่องสวมหัวโขนมันเป็นอย่างไร ยิ่งสวมหัวโขน นี่มองไม่ค่อยออกว่า ข้างในที่กำลังแสดงนั้นมันเป็นอย่างไรกัน
โฆษณา