Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Right Style by Bom+
•
ติดตาม
22 ส.ค. 2024 เวลา 10:00 • ความคิดเห็น
มาถึงตอนนี้ การเจรจาสันติภาพอันไหนเกิดง่ายกว่า
“รัสเซีย-ยูเครน” หรือ “อิสราเอล-ฮามาส”
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาหัวข้อการเจรจาสันติภาพ (สำหรับลดความขัดแย้งในสองภูมิภาค) ได้กลายเป็นหัวข้อในกระแสข่าวมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เกี่ยวข้องกับสงครามในยูเครนและสงครามในฉนวนกาซา ในอิสราเอลจะพบเห็นการประท้วงบนท้องถนนเพื่อเรียกร้องให้หยุดยิงรีบเจรจาปล่อยตัวประกัน แต่กลับไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในยูเครน
ชาวอิสราเอลจำนวนมากดูแล้วอยากสนับสนุนแผนของไบเดนในการยุติความขัดแย้งกับกลุ่มฮามาส ในขณะเดียวกันชาวยูเครนยังแลดูไม่เต็มใจที่จะยอมสละดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดไป รวมถึงผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวที่อยู่ภายใต้การปกครองของปูติน พวกเขาถือว่าเป็นตัวประกันหรือไม่
■
สงครามรัสเซีย-ยูเครน
กองกำลังติดอาวุธของยูเครนมีชาวบ้านในดินแดนที่รัสเซียยึดครองไว้อยู่ด้วยคือ “ซาปอริซเซีย” “เคอร์ซอน” “โดเนตสค์” และ “ลูฮันสค์” รวมถึงพวกตาตาร์ใน “ไครเมีย” ด้วยซึ่งถูกเกณฑ์เข้ามาอยู่ในกองพันจู่โจม พวกเขาออกจากไครเมียบ้านเกิดหลังจากรัสเซียเข้ามาผนวกเมื่อปี 2014 - อ้างอิง: [1][2]
ทหารพวกนี้จำนวนมากยังคงมีครอบครัวอยู่ในดินแดนที่รัสเซียยึดครองไว้อยู่ ในช่วงเริ่มต้นของสงครามยูเครนพวกเขาอาจเชื่อว่าสงครามอาจไม่ยาวนานยืดเยื้อ คิดว่าอยู่ทนในพื้นที่ได้ เป็นผลให้ชาวยูเครนที่ยังฝักไฝ่กับเคียฟหลายล้านคนยังคงติดแหงกในดินแดนที่ยึดครอง และเจอความยากลำบากต่างๆ และความเสี่ยงสูงที่จะถูกบังคับเกณฑ์เข้ากองทัพรัสเซีย
แน่นอนว่าต้องมีผู้คนหาทางหลบหนีจากดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดครอง นับตั้งแต่ปี 2022 ที่รัสเซียบุกเข้ามา มีชาวยูเครนราว 3.5 ล้านคนที่อพยพไปยังนอกพื้นที่ เมื่อนับรวมผู้ที่ถูกบังคับให้ออกจากไครเมียและดอนบาสหลังปี 2014 แล้วจะพบว่ามีถึง 5 ล้านคน และนั่นเป็นเพียงสถิติอย่างเป็นทางการเท่านั้น - อ้างอิง: [3]
1
การยุติสงครามโดยไม่ปลดปล่อยดินแดนยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครองนั้นไม่เพียงแต่หมายถึงการปล่อยให้พลเมืองยูเครนเป็นตัวประกันของรัสเซีย แต่ชาวยูเครนที่หนีออกไปแล้วจำนวน 5 ล้านคนจะไม่มีโอกาสกลับเข้ามายังบ้านเกิดอีกหรือเข้ามาก็ยากมากด้วย
3
เนื่องจากรัฐธรรมนูญของยูเครนก็ต้องรับรองสิทธิเสรีภาพและสิทธิที่ไม่อาจละเมิดได้ให้กับพลเมืองยูเครนซึ่งไม่สามารถรับรองได้ภายใต้ดินแดนที่รัสเซียประกาศผนวกไว้อยู่ – ตรงนี้เป็นข้อกำกวมที่รัสเซียกับยูเครนต้องคุยให้เคลียร์ด้วยหากต้องการยุติสงครามและยูเครนยอมสละดินแดนตรงนี้ ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่าพลเมืองในพื้นที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญที่ไหน
เครดิตภาพ: Ed Ram/The Washington Post/Getty Images
ถึงแม้เคียฟจะยอมแลกดินแดน (ที่รัสเซียยึดไว้อยู่เท่าที่มีในปัจจุบัน) กับการได้มาซึ่งสันติภาพ ดินแดนทั้งสี่ภูมิภาคที่รัสเซียผนวกไปจริงแล้วก็ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมทางกายภาพของกองกำลังรัสเซียอย่างสมบูรณ์ 100%
หากกองทัพยูเครนถอนตัวออกจากพื้นที่เหล่านี้ กองทัพยูเครนจะต้องเว้นแนวป้องกันเอาไว้ และอาจทำลายเส้นทางโลจิสติกส์ที่เคยปูไว้ไม่ให้รัสเซียใช้ ปล่อยให้รัสเซียยึดไว้เฉพาะพื้นที่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำดนีโปรและไม่เปิดให้เข้ามาทางฝั่งขวา เพื่อหาทางเข้ามาโจมตีคาร์คีฟ ครีฟยีรีห์ ไมโคไลฟ และโอเดสซา เมื่อสบโอกาสที่จะกลืนกินพื้นที่มากกว่านี้ในอนาคต
อย่าง Best case scenario มันก็ช่วยแค่ “สงบศึกชั่วคราว” ไม่น่าจะช่วยบรรเทาความทุกข์ยากของชาวบ้านในพื้นที่ที่ถูกยึดครองอยู่ได้มากนัก เนื่องจากสงครามแบบกองโจรจะยังคงดำเนินต่อไปอย่างที่เราเห็นอยู่หลายที่บนโลก
สอดคล้องตามผลสำรวจชาวยูเครน แม้ว่าจำนวนชาวยูเครนที่เปิดใจเจรจาสันติภาพกับรัสเซียจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่สัดส่วนของผู้ที่ยินดีจะพิจารณาสูตร “สันติภาพแลกกับดินแดน” ยังคงน้อยมาก มากกว่า 80% ไม่เต็มใจที่จะหารือถึงสูตรนี้ด้วยซ้ำ ก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ พวกเขามองว่าเป็นการซื้อเวลาให้กับรัสเซียในการรวบรวมกำลังพลและเตรียมการรุกครั้งใหม่ - อ้างอิง: [4]
■
สงครามอิสราเอล-ฮามาส
เป้าหมายสูงสุดของกลุ่มฮามาสคือการทำลายล้างรัฐยิวของอิสราเอลมาโดยตลอด โดยพูดถึงเป้าหมายอย่างตรงไปตรงมาและเปิดเผย เมื่อเทียบกับฝั่งรัสเซียเองจะเห็นว่าปูตินเน้นในเรื่องของการเล่าเรื่องแบบประวัติศาสตร์ลักษณะ Storytelling อยู่บ่อยครั้ง มีวาทศิลป์มากกว่าพยายามปกปิดเป้าหมายที่แท้จริงของเขา
ผู้นำฮามาสประกาศที่จะยอมเจรจาเพื่อแลกกับการหยุดยิงในฉนวนกาซาเป็นระยะๆ (มีกลับคำ กระท่อนกระแท่นอยู่บ้าง) โดยไม่ได้ละทิ้งเป้าหมายระยะยาวของพวกเขา พวกเขาพร้อมที่จะปฏิบัติตามแผนที่ “โจ ไบเดน” เสนอเมื่อพฤษภาคม 2024 - อ้างอิง: [5]
แผนของไบเดนประกอบด้วย 3 ระยะ
●
ระยะแรกเกี่ยวข้องกับการถอนทหารอิสราเอลออกจากย่านที่อยู่อาศัยในฉนวนกาซา การปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนจากคุก แลกกับการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลบางส่วนที่ถูกฮามาสจับไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
●
ระยะที่สองคือ การปล่อยตัวประกันที่เหลือทั้งหมดทันทีหลังจากกองทัพอิสราเอลถอนออกจากพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นของฉนวนกาซา
●
ระยะที่สามคือ จะต้องแลกเปลี่ยนร่างของผู้เสียชีวิตและเตรียมแผนการฟื้นฟูหลังสงครามให้กับฉนวนกาซา
2
เครดิตภาพ: Jaafar Ashtiyeh/AFP via Getty Images
ในอิสราเอลไม่มีการสนับสนุนหรือคัดค้านแผนดังกล่าวอย่างชัดเจนทางใดทางหนึ่ง การสำรวจความคิดเห็นมีความขัดแย้งกันอย่างมาก บางแหล่งระบุว่าชาวอิสราเอลมากกว่าครึ่งสนับสนุนความคิดเพื่อสันติภาพของไบเดน บางแหล่งเผยว่าชาวอิสราเอลสัดส่วนพอกันไม่เต็มใจที่จะตกลงแผนนี้ - อ้างอิง: [6][7]
สังคมอิสราเอลมีความคิดเห็นแตกแยกกันแบ่งเป็นสองฝ่ายในประเด็นข้อตกลงที่เป็นไปได้กับฮามาส และจำนวนผู้ที่เปิดรับความเป็นไปได้ในการประนีประนอมนั้นใกล้เคียงกับจำนวนผู้ที่เชื่อว่าข้อตกลงนั้นเป็นไปไม่ได้และสงครามต้องดำเนินต่อไปจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะพ่ายแพ้ในที่สุด
ปัจจัยที่ทำให้ความคิดเห็นของชาวอิสราเอลแตกเป็นสองฝ่าย คงไม่พ้นเรื่อง “ตัวประกัน” คนที่ต้องการให้เจรจากับฮามาสก็ด้วยเรื่องนี้เป็นสำคัญ แต่อีกฝ่ายที่คัดค้านเขามองว่าเป็นการให้โอกาสฮามาสได้ฟื้นตัว รวบรวมกำลังใหม่ และไม่ช้าก็เร็ว ก็อาจจัดเหมือนวันที่ 7 ตุลาคม 2023 อีก เกิดวังวนไม่สิ้นสุด ดังนั้นเขาจึงต้องการให้มันราบคาบเสียเลยตอนนี้
■
สรุปส่งท้าย:
สถานการณ์ในยูเครนดูแล้วมีความคลุมเครือกว่าในฉนวนกาซา มันก็ชัดเจนอยู่ว่าอิสราเอลต้องการทำถึงขนาดไหนกับกลุ่มฮามาส ส่วนรัสเซียเองเป้าหมายก็ยังไม่ชัดเจนว่าต้องการถึงขนาดไหนหรือว่าชัดเจนแล้วแต่ปิดเกมไม่ลงและดันโดนยูเครนบุกกลับอีกช่วงนี้ สถานการณ์มันเลยดูยุ่งซับซ้อน
ส่วนเรื่องประเด็น “ตัวประกัน” ที่มีจุดร่วมเหมือนกันของทั้งสองสมรภูมิ เราสามารถรับรู้ได้มากกว่าในส่วนของยูเครน (ดินแดนที่รัสเซียยึดไว้อยู่) เมื่อเทียบกับตัวประกันที่ฮามาสจับตัวไปนั้นเราไม่รู้ชะตากรรมของพวกเขามากนัก ถูกซ่อนตัวไว้ไหนหรืออย่างไร แต่ที่เห็นข่าวล่าสุดก็คือพบศพตัวประกันที่ฮามาสจับไปอีก 6 ราย ทางฝั่งยูเครนดูมีทีท่าว่าจะแคร์ในเรื่องนี้มากกว่าเมื่อดูจากผลสำรวจตามที่อ้างอิงในบทความข้างต้น
เมื่อเทียบดูสองปัจจัยแล้ว “เป้าหมายของฝ่ายบุกและสถานการณ์” และ “ตัวประกัน” ส่วนตัวมองว่าสงครามในฉนวนกาซามีโอกาสที่จะเกิดการเจรจาเพื่อสงบศึก (อาจชั่วคราวหรือระยะสั้น) ได้ง่ายกว่าสงครามในยูเครน
โดย Right Style
22nd Aug 2024
■
อ้างอิง:
[1]
https://unitewithukraine.com/news/uwc-provides-another-100-fpv-drones-specialized-battalion-crimean-tatar-fighters
[2]
https://48oshb.army
[3]
https://www.ukrinform.ua/rubric-society/3649695-v-ukraini-oficijno-zareestruvali-4-867-106-pereselenciv.html
[4]
https://www.dw.com/ru/opros-pocti-polovina-ukraincev-podderzivaut-ideu-peregovorov-s-rf/a-69663900
[5]
https://www.reuters.com/world/middle-east/hamas-says-again-it-wants-gaza-truce-deal-implemented-not-new-talks-2024-08-13
[6]
https://www.timesofisrael.com/poll-majority-of-israelis-support-prioritizing-hostage-deal-over-rafah-operation
[7]
https://www.jns.org/jns-poll-most-israelis-oppose-terms-of-hostage-for-ceasefire-deal
<เครดิตภาพปก: (บน) – Naqd Media (ล่าง) - Svidomi>
ยูเครนรัสเซีย
อิสราเอล
ปาเลสไตน์
2 บันทึก
37
8
5
2
37
8
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย