22 ส.ค. 2024 เวลา 12:54 • ไลฟ์สไตล์

ครั้งสุดท้ายที่เรามีพนักงานต้อนรับ

น่าจะร่วม ๆ 4 ปีได้แล้วค่ะ
น้องป๊อบพนักงานคนสุดท้ายของเรา
ร่วมทีมกับเราอยู่ 3 ปี
ก่อนจะตัดสินใจไปเดินตามเส้นทางที่ตัวเองอยากทำที่กรุงเทพ
หลังจากนั้น เราก็มองหาฟร้อนท์คนใหม่อยู่เรื่อย ๆ
แต่เคมีก็ยังไม่ตรงกันสักทีค่ะ
ความที่โรงแรมเรือนชญาดลเป็นโรงแรมเล็ก ๆ ก็จริง
แต่แขกเราส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ
ดังนั้น พนักงานต้อนรับของเราต้องสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้
และงานของเราเกือบทั้งหมดคืองาน cloud based system
คือทำงานผ่านคอม ทำงานผ่านออนไลน์
ดังนั้น พนักงานต้องสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ด้วย
เลยทำให้ค่อนข้างหาคนมาตอบโจทย์ตรงนี้ได้ยากนิดนึง
ความที่พอเป็นโรงแรมเล็ก
คนมาสมัครก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องทำอะไรมากมาย
พอบอก scope งานปุ๊บก็ตกใจกลัว 555
ในขณะที่คนภาษาได้ คอมพิวเตอร์ได้
เค้าก็เลือกไปทำงานโรงแรมใหญ่ ๆ ไปเลย
Challenge ของการหาคนมาเป็นฟร้อนท์ก็ค่อนข้างท้าทายไม่เบา
ถ้าทุกคนจำได้ สมัยก่อนส้มจะเป็น perfectionist
ทุกอย่างต้องเป๊ะ ต้องมี
ฟร้อนท์คือต้องมี 3 คนเปิด 24 ชมอะไรเทือกนั้น
จนมาโควิด เริ่มปรับวิธีการทำงาน ปิดฟร้อนท์เที่ียงคืน
ฟร้อนท์เหลือ 2 คน จนไปๆ มา ๆ ฟร้อนท์เหลือคนเดียว
และแบบไม่มีฟร้อนท์ในที่สุด
ทำงานกันเองกับแม่บ้านคือพี่ต้นอ้อ และพี่แบงค์พ่อครัว
สองคนนั้นก็ฟร้อนท์จำเป็นเวลาส้มไม่อยู่
ส่วนงานเอกสารต่าง ๆ ส้มก็รับจบหมด
ถามว่าวุ่นวายไหม ก็วุ่นวายมากอยู่ 5555
แต่ก็ถูไถกันมาจนวันนี้ได้
ตอนแรกก็ว่าจะไม่เปิดรับฟร้อนท์แล้ว
เพราะอยู่กันมาเองได้จน 3-4 ปีแล้ว
เหนื่อยหน่อย แต่ก็ดีกว่าได้คนที่เคมีไม่เข้ากัน
แต่อยู่ ๆ ก็มีคนมาขอสมัครงาน
แล้วพอสัมภาษณ์เบื้องต้นก็ดูน่าจะทำงานด้วยกันได้อยู่นะ
ก็ถือว่าเป็นเรื่องราวดี ๆ หลังจาก 4 ปี
กับการตัดสินใจรับพนักงานต้อนรับอีกครั้ง
คุณเค้าจะเริ่มงาน 1 กันยายนนี้ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด
ก็หวังว่าจะเป็นคนที่ใช่นะคะ
พรุ่งนี้มีงานเปิดนิทรรศการ Everywhere Gallery
ที่เรือนชญาดลก็เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมนี้
เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังนะคะ ว่าเป็นยังไงบ้าง
รอติดตามกันนะคะ 🧡
17.08.24
#เรื่องเล่าจากเรือนชญาดล
#ChayadolDaily
#ChayadolResort

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา