25 ส.ค. 2024 เวลา 05:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ

“สุริยะ” ยันน้ำเหนือไม่กระทบสนามบิน สั่งเปิด Command Center

สุริยะ ห่วงใยประชาชนเหตุน้ำท่วม “ภาคเหนือ” สั่งเปิดศูนย์ Command Center ยันไม่กระทบสนามบิน เตรียมแผนรับมือเต็มที่
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม ห่วงใยพี่น้องประชาชน ประสบภัยเหตุน้ำท่วม “ภาคเหนือ” สั่งเปิด “ศูนย์ Command Center ภัยพิบัติกระทรวงคมนาคม” บูรณาการ - รับแจ้ง - แก้ไขเหตุน้ำท่วม มอบหมายทุกหน่วยงานฯ จัดเตรียมถุงยังชีพแจกจ่ายผู้ประสบภัย พร้อมเข้าช่วยเหลือ - อำนวยความสะดวกตลอด 24 ชม.
ด้าน ทล. - ทช. อัปเดตสถานการณ์ในพื้นที่ ส่วน ทอท. ยันไม่กระทบสนามบิน ลุยเตรียมแผนรับมือเต็มที่รองรับการเดินทางผู้โดยสาร
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัย (น้ำท่วมฉับพลัน) น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ในภาคเหนือที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งสั่งเปิด “ศูนย์ Command Center ภัยพิบัติกระทรวงคมนาคม” ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการ สั่งการ รับแจ้งเหตุ ประสานข้อมูลการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการการรายงานผลในการให้ความช่วยเหลือประชาชน
ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานจัดเตรียมถุงยังชีพและของใช้จำเป็นแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลและอำนวยความสะดวกการสัญจรบนเส้นทางการจราจรต่าง ๆ รวมถึงติดตั้งป้ายเตือน และจัดเจ้าหน้าที่ดูแลสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นอกจากนี้ทุกหน่วยงานต้องรายงานความคืบหน้าและความเคลื่อนไหวต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทันที เพื่อเตรียมแผนรับมือต่อไป
กรมทางหลวง รายงานสถานการณ์น้ำท่วม และดินสไลด์ในโครงข่ายทางหลวง
ด้านกรมทางหลวง (ทล.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วม และดินสไลด์ในโครงข่ายทางหลวง (ณ วันที่ 22 ส.ค. 67) ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ประกอบด้วย น่าน พะเยา เชียงราย และแพร่ รวม 13 แห่ง 8 สายทาง การจราจรผ่านได้ 3 แห่ง ผ่านไม่ได้ 10 แห่ง ทั้งนี้ในทุกจุดที่เกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรอย่างใกล้ชิด หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือให้แจ้งมาที่สายด่วน ทล. โทร. 1586 ฟรีตลอด 24 ชม.
กรมทางหลวงชนบท รายงานเส้นทางการสัญจรภายใต้การดูแล
ขณะที่กรมทางหลวงชนบท (ทช.) รายงานว่าเส้นทางการสัญจรภายใต้การดูแลสัญจรได้ตามปกติแล้ว หลังจากที่มีน้ำท่วมและดินสไลด์ 6 สายทาง และยังไม่สามารถสัญจรได้ 13 เส้นทาง ซึ่งทุกจุดมีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดเส้นทาง เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย
จัดเตรียมแผนการรองรับจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม
ในส่วนของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. รายงานว่า จากเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม ท่าอากาศยานที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ทอท. ยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่ได้จัดเตรียมแผนการรองรับไว้แล้ว โดยท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้ขุดลอกระบบระบายน้ำแบบเปิด ซึ่งเป็นคูระบายน้ำโดยรอบพื้นที่ท่าอากาศยาน จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำด้านทิศเหนือที่ใช้บริหารจัดการน้ำภายในท่าอากาศยานให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา มีการตรวจสอบประตูน้ำว่าใช้งานได้ปกติ พร้อมประเมินและรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกันท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด นำอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็นในการยังชีพ แจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น หลังจากนั้นจะมีการติดตามสถานการณ์เพื่ออำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ ต่อไป
กรมเจ้าท่า ส่งบุคลากรเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
กรมเจ้าท่า (จท.) ได้ส่งบุคลากรเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ที่เกิดเหตุ พร้อมจัดเตรียมเรือตรวจการณ์ รถยนต์ และสิ่งของต่าง ๆ มอบให้ผู้ประสบภัย และเข้าร่วมศูนย์ช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยของ ปภ. อำเภอเมือง และอำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ประชาชนที่ประสบภัยในครั้งนี้ผ่านวิกฤตไปได้ด้วยดี
ทั้งนี้ประชาชนสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายระหว่างเดินทาง หรือต้องการความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน ทล. โทร. 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.) สายด่วนมอเตอร์เวย์ โทร. 1586 กด 7 และตำรวจทางหลวง โทร. 1193 ขณะที่สายด่วน ทช. โทร. 1146
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหลายแห่ง ต้องฝ้าระวังบริเวณพื้นที่เสี่ยง ดังนี้
  • ภาคเหนือ 12 จังหวัด : เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด : เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม
  • ภาคตะวันตก 4 จังหวัด : กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์
  • ภาคตะวันออก 4 จังหวัด : นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด
  • ภาคใต้ 8 จังหวัด : ระนอง พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/economic/231090
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา