แนะนำหนังสือ
ผู้รักการสำรวจอวกาศระหว่างดวงดาวก่อนตายควรอ่าน 😄😄😄
📚📚📖 SpaceX: Elon Musk and the
Final Frontier
อีลอน มัสก์กล่าวว่าเขา▪️▪️◾◾
‼️จะต้องตายอย่างแน่นอน‼️ ก่อนที่มนุษย์
จะตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร และผู้คนส่วนใหญ่
ในโลกนี้ก็เช่นกัน
หากต้องใช้เวลาถึง 18 ปีในการเตรียมพร้อมที่จะส่งมนุษย์ขึ้นสู่วงโคจรเป็นคนแรก เราก็ต้องพัฒนาอัตราการสร้างสรรค์นวัตกรรมของเรา
เป็นการสะท้อนความจริงอันมืดมน
ความตายจะคอยเตือนใจอยู่เสมอว่าไม่ว่าจะทำอะไรหรือสร้างอะไร ชะตากรรมสุดท้ายมักจะเกิดขึ้นอีกนานหลังจากที่ชีวิตเราสิ้นสุดลง
การส่งมนุษย์ไปดาวอังคาร 🧑🚀🧑🚀🧑🚀
น่าจะสำเร็จได้เร็วที่สุดในปี 2050 แต่เมื่อพิจารณาถึงอุปสรรคมากมายที่เกิดขึ้นกับยานอาร์เทมิสของนาซาและยานสตาร์ชิปของสเปซเอ็กซ์ รวมถึง
‼️ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ‼️ที่เดินทางไปในอวกาศเมื่อต้องเผชิญปัญหาต่างๆ มากมาย การประเมินนี้จึงถือเป็นการประมาณการในอุดมคติอย่างยิ่ง
🔘 การเดินทางของมนุษย์ไปยังดาวอังคารนั้นมีแนวโน้มสูงในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า แต่การตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคารนั้น การพัฒนามากพอที่จะรองรับการ
เดินทางข้ามดวงดาว โดยมีตั๋วราคาถูกพอที่จะใช้เป็นช่องทางหนีจากโลกสำหรับชนชั้นกลางในโลก อย่าฝากความหวังไว้กับสิ่งนี้ในช่วงชีวิตของเรา อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในกรอบเวลาที่คนที่มีสุขภาพ
แข็งแรงที่สุดในตอนนี้สามารถทนต่อแรงกดดันทาง
สิ่งแวดล้อมและจิตใจจากการเดินทางที่ยาวนานหลายเดือนได้▪️▪️◾
ต้นทุนการสร้างนิคมบนดาวอังคารนั้นจะขึ้นอยู่กับต้นทุนต่อตันของวัสดุที่ส่งไปยังดาวอังคาร ในปี 2023 จะอยู่ที่ 6.7 ล้านบาทต่อตันก่อนที่ Starship จะเริ่มเดินทางไปยังดาวอังคารได้ ตัวเลขที่เป็นไปได้สำหรับการสรุปการตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร
หากยึดตามการคำนวณบนกระดาษเช็ดปาก
นั่นเท่ากับเกือบ 7 ล้านล้านบาท
🔘 เหตุการณ์ที่มักถูกละเลยอีกกรณีหนึ่งคือสัญญาทางอวกาศมักจะเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการขยายขนาดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ได้รับการกำหนดไว้แล้วว่าเป็นไปได้ เมื่อมัสก์พิสูจน์แล้วว่าจรวด
ฟอลคอน 9 สามารถส่งสิ่งของใดๆ ก็ได้ไปยังวงโคจรต่ำของโลก สัญญาของสเปซเอ็กซ์ก็แซงหน้านำไปสู่การครองตลาดเหนือ NASA และบริษัทอื่นๆ
ในโลกอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าผู้เสียภาษีในสหรัฐฯ จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาลในการพัฒนา Starship แต่SpaceX ก็ได้เติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมากผ่านสัญญาสนับสนุน ISS การหมุนเวียนลูกเรือและน้ำหนักบรรทุกทางทหารศักยภาพในการสำรวจดวงจันทร์นั้นยิ่งทำกำไรได้มากขึ้นโดยบริษัทต่างๆ ต่างเข้าคิวเพื่อลงทุนอย่างหนักในบริษัทการบินและอวกาศเอกชน
ที่สามารถปฏิบัติการบนดวงจันทร์ได้นอกเหนือจากดวงจันทร์แล้วแถบดาวเคราะห์น้อยยังเต็มไปด้วยโลหะหายากมากมายที่ไม่อาจจินตนาการได้โดยวัตถุท้องฟ้าอย่าง Davida, 16 Psyche และ Diotima อาจเป็นแหล่งทรัพยากรที่มีมูลค่า
ถึงควินทิลเลียน ดอลลาร์ (เลขศูนย์ 18 ตัว
หากจะแปลงเป็นเงินบาทไทยเป็นตัวเลขที่ได้ก็
จะมหาศาลมากจนแทบจะเข้าใจไม่ได้)
🔘 โครงการ Artemis สัญญาว่าจะมีการตั้งอาณานิคมบนดวงจันทร์ในอนาคตและมอบผลตอบแทนทางเศรษฐกิจมหาศาลให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ แต่ความขัดแย้งก็เกิดขึ้นแม้จะมีความมั่งคั่งบนดวงจันทร์และความพยายามร่วมมือกันระหว่าง SpaceX, Blue Origin, NASA และหน่วยงานอื่นๆ
แต่เป้าหมายของภารกิจสำรวจดาวอังคารดูเหมือนจะอยู่ไกลออกไป มีการคาดเดามากขึ้นเรื่อยๆ ว่าผลกำไรมหาศาลจากปฏิบัติการสำรวจดวงจันทร์อาจทำให้ความพยายามสำรวจดาวอังคารที่ทะเยอทะยานยิ่งขึ้นต้องล่าช้าออกไปอีกหลายทศวรรษข้างหน้าเนื่องจากบริษัทต่างๆ ให้ความสำคัญกับผลตอบแทนทันทีมากกว่าการสำรวจ
ในระยะยาว▪️▪️◾⬛
📖📚📚📚
หนังสือที่น่าสนใจของ Brad Bergan บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางในอวกาศเชิงพาณิชย์ตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียตจนถึงปัจจุบัน โดยนำเสนอการสำรวจที่น่าสนใจว่าแรงผลักดันทางเศรษฐกิจและความท้าทายที่ไม่คาดคิดช่วยปูทางให้บริษัทต่างๆ เช่น SpaceX เป็นผู้นำยุคใหม่ของการสำรวจอวกาศได้อย่างไรโดยเน้นไปที่ความทะเยอทะยานอันมีวิสัยทัศน์ของ Elon Musk
หนังสือเล่มนี้เจาะลึกถึงรายละเอียดที่ซับซ้อนของการเดินทางที่เปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งนี้ภาพที่สวยงามตระการตาแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของจรวดที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้และต้นแบบยานลงจอดบนดวงจันทร์ที่หลากหลาย ซึ่งสัญญาว่าจะกำหนดอนาคตของการสำรวจอวกาศนอกดวงจันทร์
500/2024
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ความก้าวหน้า ของ SpaceX และสถานการณ์ในยูเครน อาจทำให้รัสเซียอาจเสียพื้นที่ให้กับ
Elon Musk ▪️ ❓❓
ความลึกลับขั้วใต้ของดวงจันทร์ 👩🚀👩🚀👨🚀👨🚀
ทำไมการบุกเบิกครั้งใหม่จึงมุ่งไปที่นั่น🌑🌓🌔
อีกนานแค่ไหน 🌏 ☀️ 🌒🌓🌕🌑🪐
กับการตั้งอาณานิคมบนดาวเคราะห์ดวงอื่น ❓
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
