Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Timeless History (ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา)
•
ติดตาม
25 ส.ค. 2024 เวลา 03:16 • ประวัติศาสตร์
จักรพรรดิโรมันผู้ประกาศสงครามกับ “ท้องทะเล”
“จักรวรรดิโรมัน (Roman Empire)” คือหนึ่งในอาณาจักรที่โด่งดังและทรงอำนาจที่สุดแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์
ตลอดช่วงเวลาประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา จักรวรรดิโรมันผ่านทั้งช่วงเวลาที่รุ่งเรืองและเสื่อมโทรม ผ่านการปกครองโดยจักรพรรดิหลายพระองค์
หากแต่จักรพรรดิพระองค์หนึ่ง นั่นคือ “จักรพรรดิคาลิกุลา (Caligula)” เป็นจักรพรรดิที่โดดเด่นพระองค์หนึ่ง ในฐานะของหนึ่งในจักรพรรดิที่แย่ที่สุดพระองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์โรมัน
จักรพรรดิคาลิกุลา (Caligula)
เรื่องราวของพระองค์เป็นอย่างไร ลองมาดูกันครับ
“จักรพรรดิคาลิกุลา (Caligula)” เป็นบุตรคนสุดท้องของ “เจอร์มานิคัส จูเลียส ซีซาร์ (Germanicus Julius Caesar)“ ขุนศึกและนักการเมืองคนสำคัญแห่งโรมันโบราณ
ในเวลาต่อมา เจอร์มานิคัสได้ติดมาลาเรียในอียิปต์และเสียชีวิต ซึ่งการเสียชีวิตของเจอร์มานิคัสก็ส่งผลสำคัญต่ออนาคตของจักรวรรดิโรมัน เนื่องจากบุตรของเจอร์มานิคัสทุกคนล้วนแต่มีสิทธิในราชบัลลังก์ หากแต่ก็เป็นภัยคุกคามต่อ “จักรพรรดิทิเบอเรียส (Tiberius)” และ “เซจานุส (Sejanus)” มือขวาของจักรพรรดิทิเบอเรียส
จักรพรรดิทิเบอเรียส (Tiberius)
ในเวลานั้น จักรพรรดิทิเบอเรียสนั้นได้พระราชทานอำนาจส่วนใหญ่ในกรุงโรมแก่เซจานุส และในไม่ช้า เซจานุสก็จัดการล้างบางครอบครัวของจักรพรรดิคาลิกุลา โดยพระราชมารดาและพระเชษฐาของจักรพรรดิคาลิกุลาถูกจับกุมและทรมาน
แต่นับเป็นโชคดีของจักรพรรดิคาลิกุลา เนื่องจากก่อนที่เซจานุสจะจัดการกับพระองค์ จักรพรรดิทิเบอเรียสเกิดเปลี่ยนพระทัย และมีรับสั่งให้ประหารเซจานุส
1
จากนั้น จักรพรรดิคาลิกุลาก็ได้เป็นองค์รัชทายาท และถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด
แต่ถึงจะเป็นรัชทายาท แต่ชีวิตของจักรพรรดิคาลิกุลาก็ตั้งอยู่บนความเสี่ยง เนื่องจากจักรพรรดิทิเบอเรียสอาจจะเปลี่ยนพระทัยและตั้งผู้อื่นเป็นรัชทายาทแทนพระองค์ก็ได้ และหากเป็นเช่นนั้น พระองค์คงจะต้องถูกกำจัดทิ้งเป็นแน่เพื่อไม่ให้เป็นหอกข้างแคร่สำหรับจักรพรรดิองค์ต่อไป
จักรพรรดิทิเบอเรียสสวรรคตในปีค.ศ.37 (พ.ศ.580) ทำให้จักรพรรดิคาลิกุลาขึ้นเป็นพระประมุของค์ใหม่แห่งจักรวรรดิโรมัน หากแต่พระองค์ก็มีพระอาการทางจิตอันเนื่องมาจากความเครียดจากการถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดและการที่ต้องเสี่ยงในช่วงเวลาที่ผ่านมา
พระองค์มีพระอาการเพ้อคลั่ง ทรงบรรทมติดเตียง และเมื่อลุกจากพระแท่นบรรทม พระองค์ก็ยังทรงมีพระอาการฟั่นเฟือน พระสติไม่ได้สมบูรณ์ 100%
แต่ปัญหาสำคัญก็คือ ในช่วงที่พระองค์ทรงพระประชวร ไม่ได้บริหารบ้านเมืองนั้น จักรวรรดิโรมันก็ยังดำเนินไปได้อย่างดี ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่าพระองค์มีความจำเป็นจริงหรือ?
1
จักรพรรดิคาลิกุลาก็ทรงรู้ตัวดีว่าสาธารณชนกำลังเกิดคำถามถึงความจำเป็นในการต้องมีพระองค์ พระองค์จึงทรงหาทางทำให้สภาโรมันและชาวโรมันเห็นว่าจำเป็นต้องพึ่งพิงการปกครองของพระองค์
จักรพรรดิคาลิกุลาทรงแต่งตั้งพระองค์เองเป็นพระเจ้า ซึ่งถึงแม้จะฟังดูบ้าและต้องมีผู้ต่อต้านมากมาย หากแต่การกระทำของจักรพรรดิคาลิกุลาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เนื่องจากที่ผ่านมาก็มีพระประมุขหลายพระองค์ที่ถูกมองว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นตัวแทนของพระเจ้า
แต่จักรพรรดิคาลิกุลานั้นก็ไม่สามารถสู้เขี้ยวเล็บของเหล่านักการเมืองในสภาที่มีทั้งอำนาจและเส้นสาย เหล่าขุนนางเหล่านี้ล้วนแต่เขี้ยวลากดิน
1
สภาได้ประกาศให้จักรพรรดิคาลิกุลาทรงเป็นผู้ที่มีพระสติฟั่นเฟือน และออกประกาศประณามจักรพรรดิคาลิกุลาไปทั่ว
หนึ่งในเรื่องที่มีการประกาศถึงความบ้าของจักรพรรดิคาลิกุลา นั่นก็คือเมื่อพระองค์ทรงทำสงครามกับบริเตน ซึ่งลามไปไกลถึงชายฝั่งกอล หากแต่ล้มเหลว
แต่หากจะยกทัพกลับกรุงโรมโดยพ่ายแพ้มาอย่างหมดรูปเช่นนี้ก็ย่อมเป็นเรื่องที่น่าอับอาย ดังนั้น จักรพรรดิคาลิกุลาจึงทรงประกาศสงครามต่อ “เนปจูน (Neptune)” เทพเจ้าแห่งท้องทะเล
จักรพรรดิคาลิกุลาทรงมีรับสั่งให้เหล่าทหารบุกไปยังชายหาด และให้ใช้ดาบและหอกแทงไปยังน้ำทะเล และให้เก็บเปลือกหอยไปเป็นหลักฐานแห่งชัยชนะ
1
หากแต่เรื่องเล่านี้ก็ยังไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องจริง อาจจะเป็นเรื่องที่สภาแต่งขึ้นเพื่อทำให้จักรพรรดิคาลิกุลาดูแย่
1
มายังนายทหารผู้หนึ่งนามว่า “คาสเซียส แชเรีย (Cassius Chaerea)” ซึ่งเป็นทหารรักษาพระองค์ที่มีประสบการณ์ และด้วยวัย 41 ปีในขณะนั้น ทำให้แชเรียนั้นหงุดหงิดและไม่พอใจในตัวของจักรพรรดิคาลิกุลา และยิ่งไม่พอใจที่ตนต้องมาถวายการดูแลจักรพรรดิบ้าพระองค์นี้
และที่ผ่านมา จักรพรรดิคาลิกุลาก็มักจะทรงพูดจาดูถูกแชเรียเสมอ ดังนั้นเมื่อแชเรียได้ยินว่ามีการวางแผนลอบปลงพระชนม์จักรพรรดิคาลิกุลา แชเรียก็ไม่ลังเลที่จะเข้าร่วมด้วย
24 มกราคม ค.ศ.41 (พ.ศ.584) จักรพรรดิคาลิกุลาได้เสด็จมาทอดพระเนตรการซ้อมละครของเหล่านักแสดง
ขณะเสด็จกลับทางเฉลียงใต้ดิน “ซาบินัส (Sabinus)” หนึ่งในทหารใต้บังคับบัญชาของแชเรีย ได้ทูลถามรหัสผ่านของกองทัพจากจักรพรรดิคาลิกุลา และเมื่อจักรพรรดิคาลิกุลาตรัสตอบ ซาบินัสก็ชักกระบี่ และแทงเข้าไปยังขากรรไกรของจักรพรรดิคาลิกุลา
1
จักรพรรดิคาลิกุลาล้มลงกับพื้น ทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่มือสังหารคนอื่นๆ จะออกมารุมแทงพระองค์จนพระวรกายเละ
1
จักรพรรดิคาลิกุลาสวรรคตด้วยพระชนมายุ 28 พรรษา ครองราชย์มาสี่ปี
และหลังจากจักรพรรดิคาลิกุลาสวรรคต เหล่ามือสังหารก็ยังไม่จบ ได้บุกไปสังหารพระมเหสีของจักรพรรดิคาลิกุลา ส่วนพระราชธิดาที่ยังแบเบาะของจักรพรรดิคาลิกุลา ถูกจับทุ่มพระเศียรเข้ากับกำแพงจนมันสมองไหลออกมา
1
แต่อย่างไรก็ตาม “จักรพรรดิคลอเดียส (Claudius)” จักรพรรดิองค์ต่อมาและเป็นพระปิตุลาของจักรพรรดิคาลิกุลา ได้ทรงล้างแค้นให้พระราชนัดดา และหนึ่งในเหยื่อที่ถูกหมายหัวก็คือแชเรียนั่นเอง
1
สั่งซื้อหนังสือ “ประวัติศาสตร์แห่งความหลอกลวง 5,000 ปีของการต้มตุ๋น ฉ้อโกง โกหก ปลอมแปลง” ได้ตามลิ้งค์นี้นะครับ
https://s.shopee.co.th/1LKwWrxW6Q
References:
https://medium.com/lessons-from-history/the-roman-emperor-who-declared-war-on-the-sea-81f232d9bcb0
https://www.britannica.com/biography/Caligula-Roman-emperor
https://www.pbs.org/empires/romans/empire/caligula.html
https://vmfa.museum/mlit/about-conservation/caligula/
ประวัติศาสตร์
3 บันทึก
15
5
3
15
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย