24 ส.ค. เวลา 13:06 • สิ่งแวดล้อม

การปลูกป่า 3 อย่าง ได้ประโยชน์ 4 อย่าง

เป็นแนวคิดจากพระปรีชาญาณของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างชาญฉลาดและยั่งยืน เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติอย่างยาวนานและทั่วถึง
ลักษณะทั่วไปของป่า 3 อย่าง
พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับการปลูกป่า 3 อย่าง ประกอบด้วย
1. ป่าใช้ไม้ - สำหรับการใช้ประโยชน์จากไม้
2. ป่าใช้ผล - สำหรับการเก็บผลผลิตจากไม้ เช่น ผลไม้หรือสมุนไพร
3. ป่าใช้ฟืน - สำหรับการใช้ไม้ฟืนในการดำรงชีวิต
แม้ลักษณะของป่าที่พระองค์ทรงพระราชดำริอาจไม่ใช่ป่าในความหมายของกรมป่าไม้ แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยอนุรักษ์ต้นน้ำลำธารและเป็นทรัพยากรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ประโยชน์ที่ได้รับจากการปลูกป่า 3 อย่าง
การปลูกป่าในลักษณะนี้ ไม่เพียงให้ประโยชน์ 3 อย่างตามชื่อ แต่ยังให้ประโยชน์เพิ่มเติมอีก 1 อย่าง ซึ่งเป็นข้อสำคัญ คือ การช่วยอนุรักษ์ดินและต้นน้ำลำธาร โดยสรุปประโยชน์ 4 อย่าง ได้แก่
1. ไม้ใช้สอย
2. ไม้กินได้
3. ไม้เศรษฐกิจ
4. การอนุรักษ์ดินและน้ำ
ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเน้นว่า การปลูกป่าแบบนี้ไม่เพียงแต่จะให้ราษฎรได้รับประโยชน์จากไม้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้เกิดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการรักษาดินและน้ำ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตของประชาชน
การดำเนินการตามพระราชดำริ
หลายหน่วยงานราชการ เช่น กรมป่าไม้ และศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ดำเนินการปลูกป่าโดยมุ่งเน้นการปลูกพันธุ์ไม้โตเร็ว เช่น ยูคาลิปตัส ขี้เหล็ก ประดู่ แค กระถินยักษ์ และสะเดา เพื่อให้ประชาชนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิตและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในเวลาเดียวกัน
สรุป
แนวคิด "การปลูกป่า 3 อย่าง ได้ประโยชน์ 4 อย่าง" เป็นการผสมผสานระหว่างเกษตรวนศาสตร์และเศรษฐกิจสังคม ที่แสดงถึงความรอบรู้และความใส่พระทัยในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุดและยั่งยืนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทยอย่างล้นพ้น
#ในหลวง
#ปลูกป่า
#เรารักประเทศไทย
โฆษณา