25 ส.ค. เวลา 04:33 • หนังสือ

ปฏิเสธอย่างไรให้ชีวิตดีขึ้น : วิธีพูด ‘ไม่’ แบบมืออาชีพโดยไม่ทำลายความสัมพันธ์

ในโลกที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและความคาดหวังมากมาย ต้องบอกว่าการเรียนรู้ที่จะปฏิเสธอย่างมีศิลปะถือเป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถจัดการชีวิตและความสัมพันธ์ได้อย่างสมดุล
4
หนังสือ “The Art of Saying No : How To Stand Your Ground, Reclaim Your Time And Energy, And Refuse To Be Taken For Granted (Without Feeling Guilty!)” โดย Damon Zahariads นำเสนอมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับการปฏิเสธอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเรา แต่ยังช่วยรักษาความสัมพันธ์อันดีกับผู้อื่นอีกด้วย
5
เราอาจเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “เวลาคือเงิน” แต่ความจริงแล้ว เวลามีค่ามากกว่าเงินเสียอีก เพราะเงินสามารถหาเพิ่มได้ แต่เวลาที่ผ่านไปแล้วไม่มีวันหวนกลับมา การปฏิเสธจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องทรัพยากรอันมีค่านี้ แต่ทำไมหลายคนจึงรู้สึกลำบากใจเมื่อต้องปฏิเสธ?
6
ความกลัวที่จะปฏิเสธ: รากเหง้าของปัญหา
1
ตั้งแต่เด็ก เราถูกปลูกฝังให้เชื่อฟังและตอบรับคำขอของผู้ใหญ่ การปฏิเสธมักนำมาซึ่งผลลัพธ์ในแง่ลบ ไม่ว่าจะเป็นการถูกดุว่าหรือถูกลงโทษ ประสบการณ์เหล่านี้ฝังรากลึกในจิตใจของเรา จนกระทั่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เราก็ยังคงมีความรู้สึกผิดหรือกลัวที่จะปฏิเสธ แม้ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม
8
นอกจากนี้ สังคมยังปลูกฝังค่านิยมว่าการเห็นแก่ตัวเป็นสิ่งไม่ดี การคิดถึงตนเองก่อนผู้อื่นถูกมองว่าเป็นลักษณะนิสัยที่ไม่ดี ทำให้เรารู้สึกว่าการปฏิเสธเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเองเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ
3
แต่ความจริงแล้ว การรู้จักปฏิเสธอย่างเหมาะสมไม่ใช่การเห็นแก่ตัว แต่เป็นวิธีการดูแลตนเองอย่างมีคุณค่า เพื่อให้เรามีพลังเพียงพอที่จะช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
3
การเปลี่ยนมุมมอง: ปฏิเสธเพื่อตอบรับสิ่งที่สำคัญกว่า
การปฏิเสธไม่ใช่การปิดโอกาส แต่เป็นการเปิดโอกาสให้กับสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่า Zahariads เสนอแนวคิด “3P” ที่ช่วยให้เราเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าอะไรคือสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญ:
2
1. People (คน): เมื่อเราปฏิเสธคำขอที่ไม่จำเป็น เราจะมีเวลามากขึ้นสำหรับคนที่เรารักและให้ความสำคัญ ลองนึกภาพครอบครัวที่รอคอยการกลับบ้านของเรา หรือเพื่อนที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง
7
2. Projects (โปรเจกต์): การปฏิเสธงานที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายหลักของเรา ทำให้เรามีเวลาและพลังงานมากขึ้นในการทำโปรเจกต์ที่เราหลงใหลและมีความหมายต่อชีวิตของเรา
3
3. Personal well-being (ความเป็นอยู่ที่ดีของตัวเอง): การปฏิเสธกิจกรรมที่ทำให้เราเหนื่อยล้าหรือท่วมท้น ทำให้เรามีเวลาดูแลสุขภาพกายและใจของตัวเองมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อทุกด้านของชีวิตในระยะยาว
2
การมองเห็นภาพเหล่านี้จะช่วยให้เรามีแรงจูงใจในการปฏิเสธมากขึ้น เพราะเราเข้าใจว่าการปฏิเสธนั้นไม่ได้ทำให้เราสูญเสียอะไร แต่เป็นการเลือกที่จะได้รับสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่า
3
ศิลปะแห่งการปฏิเสธ: วิธีการที่ทั้งนุ่มนวลและมีประสิทธิภาพ
การปฏิเสธอย่างสร้างสรรค์ไม่ได้หมายถึงการพูด “ไม่” อย่างแข็งกร้าว แต่เป็นการสื่อสารอย่างชาญฉลาดที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจและยอมรับได้ Zahariads นำเสนอเทคนิค 3 ประการที่ช่วยให้เราปฏิเสธได้อย่างมีประสิทธิภาพ:
1
1. การปฏิเสธอย่างชัดเจน (The categorical no)
การสร้างกฎหรือนโยบายส่วนตัวที่ชัดเจนจะช่วยให้การปฏิเสธง่ายขึ้น เช่น “ฉันไม่ดื่มแอลกอฮอล์ในวันธรรมดา” หรือ “ฉันไม่รับนัดประชุมก่อนเที่ยง” การมีกฎที่ชัดเจนทำให้การปฏิเสธดูเป็นเรื่องปกติและไม่ใช่การเลือกปฏิบัติกับใครโดยเฉพาะ
3
ตัวอย่างเช่น หากมีคนชวนไปดื่มหลังเลิกงานในวันจันทร์ เราสามารถตอบว่า “ขอบคุณสำหรับคำเชิญนะ แต่ฉันมีนโยบายไม่ดื่มในวันธรรมดาน่ะ เพราะต้องตื่นเช้าทำงาน แต่ถ้าเป็นวันศุกร์หรือเสาร์ล่ะก็ ฉันยินดีมาก!” การตอบแบบนี้แสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้ปฏิเสธเพราะไม่ชอบคนชวน แต่เป็นเพราะมีหลักการของตัวเองที่ยึดถือ
2
2. อ้างอิงถึงข้อผูกมัด (Referencing a commitment)
การอ้างถึงข้อผูกมัดที่มีอยู่แล้ว ทั้งกับตัวเองหรือผู้อื่น เป็นวิธีที่ทำให้การปฏิเสธฟังดูมีเหตุผลและน่าเข้าใจ เช่น “ฉันมีข้อผูกมัดที่จะใช้เวลากับครอบครัวทุกวันอาทิตย์” หรือ “ฉันให้คำมั่นกับตัวเองว่าจะออกกำลังกายทุกเย็นหลังเลิกงาน”
6
การใช้คำว่า “ข้อผูกมัด” แทนคำว่า “แผน” หรือ “ความตั้งใจ” ทำให้ฟังดูจริงจังและแน่วแน่มากกว่า ทำให้ผู้ขอรู้สึกว่าไม่ควรกดดันเราให้ผิดคำมั่นสัญญา
3
ตัวอย่างเช่น หากมีเพื่อนร่วมงานขอให้เราทำงานล่วงเวลาในวันที่เรามีแผนจะไปออกกำลังกาย เราอาจตอบว่า “ฉันเข้าใจว่างานนี้สำคัญ แต่ฉันมีข้อผูกมัดที่จะต้องไปออกกำลังกายวันนี้ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการดูแลสุขภาพของฉัน แต่ฉันยินดีจะมาเริ่มงานเช้ากว่าปกติในวันพรุ่งนี้เพื่อชดเชยเวลา จะได้ไหมคะ/ครับ?”
2
3. เสนอทางเลือกอื่น (Making a counteroffer)
บางครั้งการปฏิเสธโดยสิ้นเชิงอาจทำให้ความสัมพันธ์เสียหายได้ โดยเฉพาะกับคนที่เราให้ความสำคัญ การเสนอทางเลือกอื่นที่เล็กกว่าหรือใช้เวลาน้อยกว่าเป็นวิธีที่ช่วยรักษาสัมพันธ์ไว้ได้ เช่น “ฉันไม่สามารถเข้าร่วมประชุมทั้งวันได้ แต่ฉันยินดีจะส่งข้อมูลสำคัญทางอีเมลให้ทีมก่อนการประชุม และพร้อมตอบคำถามทางโทรศัพท์หากมีประเด็นที่ต้องการความเห็นจากฉัน”
3
การเสนอทางเลือกแสดงให้เห็นว่าเราใส่ใจและพยายามหาวิธีที่จะช่วยเหลือ แม้จะไม่สามารถทำตามคำขอเดิมได้ทั้งหมด วิธีนี้ช่วยรักษาความสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจระหว่างกันได้เป็นอย่างดี
1
ตัวอย่างเช่น หากมีเพื่อนขอให้เราช่วยย้ายบ้านทั้งวันในวันเสาร์ แต่เรามีแผนจะพักผ่อนกับครอบครัว เราอาจตอบว่า “ฉันเข้าใจว่าการย้ายบ้านเป็นงานใหญ่และต้องการความช่วยเหลือ แต่วันเสาร์ฉันมีแผนกับครอบครัวที่วางไว้นานแล้ว ฉันไม่สามารถมาช่วยได้ทั้งวัน แต่ฉันยินดีจะแวะมาช่วยยกของหนักๆ สัก 2-3 ชั่วโมงในช่วงเช้าก่อนที่จะไปทำกิจกรรมกับครอบครัว จะเป็นไปไหมคะ/ครับ?” การเสนอทางเลือกแบบนี้แสดงให้เห็นว่าเราใส่ใจและพยายามหาจุดสมดุลระหว่างการช่วยเหลือเพื่อนและการรักษาเวลาสำหรับครอบครัว
4
การฝึกฝนศิลปะแห่งการปฏิเสธ
1
การเรียนรู้ที่จะปฏิเสธอย่างสร้างสรรค์เป็นทักษะที่ต้องอาศัยการฝึกฝนและความอดทน เราอาจรู้สึกไม่สบายใจในช่วงแรก แต่เมื่อเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในชีวิต ทั้งด้านประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพความสัมพันธ์ เราจะเริ่มรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการใช้ทักษะนี้
2
เริ่มต้นด้วยการสำรวจตัวเองว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเรา ทั้งในแง่ของคน โปรเจกต์ และความเป็นอยู่ที่ดี จากนั้นลองกำหนดขอบเขตและกฎเกณฑ์ส่วนตัวที่จะช่วยปกป้องสิ่งเหล่านั้น เช่น กำหนดเวลาทำงาน เวลาครอบครัว หรือเวลาส่วนตัวที่ชัดเจน
1
ฝึกใช้ประโยคปฏิเสธที่สุภาพและชัดเจน โดยอาจเขียนสคริปต์ไว้ล่วงหน้าสำหรับสถานการณ์ที่มักเกิดขึ้นบ่อย เช่น “ขอบคุณสำหรับคำเชิญนะคะ/ครับ แต่ตอนนี้ฉันกำลังมุ่งเน้นไปที่โปรเจกต์ X ทำให้ไม่สามารถรับงานเพิ่มได้ในขณะนี้” หรือ “ฉันซาบซึ้งที่คุณนึกถึงฉัน แต่ฉันมีนโยบายไม่ทำงานในวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อใช้เวลากับครอบครัว”
2
ที่สำคัญ อย่าลืมว่าการปฏิเสธไม่ใช่การทำร้ายความรู้สึกของผู้อื่น แต่เป็นการดูแลตัวเองและรักษาสมดุลในชีวิต การปฏิเสธอย่างสุภาพและจริงใจจะช่วยให้ผู้อื่นเข้าใจและเคารพขอบเขตของเรามากขึ้น
3
ผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจของการรู้จักปฏิเสธ
เมื่อเราเริ่มใช้ทักษะการปฏิเสธอย่างสร้างสรรค์ เราอาจพบกับผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจหลายประการ:
1. ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น: แม้จะฟังดูขัดแย้ง แต่การรู้จักปฏิเสธอย่างเหมาะสมจะทำให้ผู้อื่นเคารพเราและเห็นคุณค่าของเวลาเรามากขึ้น นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพและความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้น
2
2. ประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น: เมื่อเรามีเวลาและพลังงานที่จำกัดอยู่กับงานที่สำคัญจริงๆ เราจะพบว่าคุณภาพของผลงานและความพึงพอใจในการทำงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก
2
3. ความเครียดที่ลดลง: การไม่ต้องแบกรับภาระงานหรือความรับผิดชอบที่เกินกำลัง ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้นในชีวิตประจำวัน
2
4. การค้นพบตัวเอง: การปฏิเสธสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายของเรา ทำให้เรามีโอกาสค้นพบสิ่งที่เราหลงใหลและมีความหมายต่อชีวิตมากขึ้น
5. ความเชื่อมั่นในตนเองที่เพิ่มขึ้น: การรู้จักยืนหยัดเพื่อปกป้องเวลาและพลังงานของตัวเอง ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความเคารพในตนเอง
การปฏิเสธอย่างสร้างสรรค์ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นทักษะที่มีคุณค่าอย่างยิ่งในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความคาดหวังต่าง ๆ มากมาย การเรียนรู้ที่จะปฏิเสธอย่างสุภาพและมีประสิทธิภาพจะช่วยให้เรารักษาสมดุลในชีวิต มีเวลาสำหรับสิ่งที่สำคัญจริงๆ และสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพกับผู้อื่น
3
จากแนวคิดของ Damon Zahariads ในหนังสือ “The Art of Saying No” เราได้เรียนรู้ว่าการปฏิเสธไม่ใช่การปิดประตู แต่เป็นการเปิดโอกาสให้กับสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเวลาคุณภาพกับครอบครัว โอกาสในการพัฒนาตนเอง หรือการทำงานที่มีความหมายอย่างแท้จริง
1
การฝึกฝนทักษะนี้อาจต้องใช้เวลาและความอดทน แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่าอย่างยิ่ง เมื่อเราเริ่มเห็นชีวิตที่สมดุลและมีความสุขมากขึ้น เราจะตระหนักว่าศิลปะแห่งการปฏิเสธไม่เพียงแต่เป็นทักษะที่จำเป็น แต่ยังเป็นของขวัญที่เรามอบให้กับตัวเองและคนรอบข้างอีกด้วย
3
ท้ายที่สุด การรู้จักปฏิเสธอย่างสร้างสรรค์ไม่ใช่เพียงเรื่องของการพูด “ไม่” แต่เป็นเรื่องของการพูด “ใช่” กับสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเรา เมื่อเราเรียนรู้ที่จะจัดลำดับความสำคัญและรักษาขอบเขตของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจะพบว่าชีวิตเต็มไปด้วยโอกาสและความสุขที่แท้จริง
References :
หนังสือ “The Art Of Saying NO: How To Stand Your Ground, Reclaim Your Time And Energy, And Refuse To Be Taken For Granted (Without Feeling Guilty!)” โดย Damon Zahariads
2
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา