ทำไมอิลคาย กุนโดกัน ถึงกลับมาแมนฯ ซิตี้ ทั้งๆ ที่ย้ายไปแค่ 1 ปีเท่านั้น ไปสรุปเหตุการณ์แบบเข้าใจง่าย
มีคำกล่าวว่า เวลาเราจะลาออกจากบริษัท ให้อำลาไปด้วยความรู้สึกดีๆ เพราะเราไม่มีทางรู้ ว่าวันหนึ่ง จะได้กลับมาร่วมงานกับบริษัทเดิมอีกหรือเปล่า
กรณีของอิลคาย กุนโดกัน กองกลางชาวเยอรมัน ที่ย้ายกลับมาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แค่ 1 ปี เป็นคำตอบได้อย่างดี ว่าถ้าหากคุณมีความสัมพันธ์ที่พิเศษมากๆ กับที่ทำงานเก่าล่ะก็ มันสามารถรีเทิร์นได้เสมอ
โลกฟุตบอลรู้จักกุนโดกัน ตั้งแต่ฤดูกาล 2011-12 เมื่อเขาช่วยโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ของเจอร์เก้น คล็อปป์ คว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้สำเร็จ
ยุครุ่งเรืองของดอร์ทมุนด์ ใช้ระบบ 4-2-3-1 มิดฟิลด์คู่กลาง มีเซบาสเตียน เคห์ล ยืนร่วมกับกุนโดกัน โดยมีกลุ่มตัวรุก พวกชินจิ คากาวะ, ยาคุบ บลาซีคอฟสกี้, เควิน โกรสครอยซ์ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ คอยยิงประตู
กุนโดกันเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง ที่สร้างสมดุลกลางสนาม เขาเล่นได้ดี และคงเส้นคงวามาก ไม่นานนัก ก็ก้าวไปติดทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่
ในช่วง 3 ฤดูกาลที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ย้ายมาเป็นเฮดโค้ชของบาเยิร์น มิวนิค (2013-14, 2014-15 และ 2015-16) เขามีโอกาสปะทะกับกุนโดกัน ที่เล่นอยู่กับดอร์ทมุนด์หลายครั้ง และรู้สึกประทับใจในความฉลาด ความเป็นผู้นำ และทักษะการต่อบอลสั้นที่แม่นยำมาก
เป๊ปกล่าวถึงกุนโดกันว่า "อิลคายทำให้ผมโมโหทุกที เวลาที่บาเยิร์น กับ ดอร์ทมุนด์ ต้องปะทะกัน เพราะเขาเล่นได้ดีมากเหลือเกินในทุกๆ นัด"
หลังจากเป๊ปอำลาบาเยิร์น เขาย้ายมาคุมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และนักเตะคนแรกที่เป๊ปสั่งให้ซิกี้ เบกิริสไตน์ ผู้อำนวยการฟุตบอลของสโมสร คว้าตัวมาให้ได้ คือกุนโดกัน ที่มีอายุ 25 ปี เขาต้องการตัวผู้เล่นคนนี้ มาเป็นแกนหลักในแผงมิดฟิลด์
ตอนนั้นเจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ย้ายไปคุมลิเวอร์พูลแล้ว ก็ต้องการซื้อตัวกุนโดกันเช่นกัน แต่ฝั่งเป๊ปเกลี้ยกล่อมสุดความสามารถ จนกุนโดกันใจอ่อน เลือกทีมเรือใบสีฟ้า เขาจึงกลายเป็นนักเตะคนแรกสุดในยุคสมัยของกวาร์ดิโอล่า กับค่าตัว 20 ล้านปอนด์
ฤดูกาลแรกสุดของกุนโดกันกับแมนฯ ซิตี้ (2016-17) เขาลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไป 10 เกม ฟอร์มกำลังดี แต่แล้ววันที่ 14 ธันวาคม 2016 เกมที่เจอกับวัตฟอร์ด กุนโดกันปะทะกับนอร์ดิน อัมราบัต จนเจ็บเข่าอีกครั้ง
คราวนี้เจ็บหนักถึงขั้น "เอ็นเข่าฉีก" ต้องพักยาว 9 เดือน และไม่สามารถลงเล่นได้รวม 32 เกม นี่คืออาการบาดเจ็บ 2 ครั้งติดต่อกัน เพิ่งจะหายแท้ๆ ก็มาเจ็บหนักซ้ำจุดเดิมไปอีก
ตอนที่กุนโดกันเจ็บ โดนเปลี่ยนตัวออก เป็นช่วงนาทีที่ 44 ก่อนพักครึ่งพอดี พอพักครึ่งปั๊บ เป๊ปรีบเดินเข้ามาหาที่ห้องพยาบาล แล้วสวมกอดเขาไว้ทันที
กุนโดกันเล่าว่า "เป๊ปเดินมาหาผม แล้วกอดผมไว้ ก่อนจะบอกผมว่า เขาเสียใจแค่ไหนที่ผมต้องมาเจ็บแบบนี้ และอยากให้ผมกลับมาหาเขา ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
"นั่นคือโมเมนต์สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในอาชีพของผม คือคุณคิดดูนะ คุณบาดเจ็บหนักๆ 2 หนติดกัน แต่เป๊ปทำให้คุณมีกำลังใจมากๆ และพร้อมสู้ต่อ ในเส้นทางกายภาพบำบัดอันยาวนาน"
เป๊ป สั่งให้ ดร.ราม่อน ซูกัต แพทย์ของสโมสร คอยรายงานความคืบหน้าของกุนโดกันอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังคุยกับกุนโดกันอย่างสม่ำเสมอ ไม่เคยทอดทิ้งให้เคว้งคว้าง สิ่งนี้สร้างความรู้สึกดีๆ ของกุนโดกันที่มีกับเป๊ปมากขึ้นเรื่อยๆ
มิเกล อาร์เตต้า ผู้ช่วยผู้จัดการทีมแมนฯ ซิตี้ในขณะนั้น อธิบายว่า "อิลคายคือนักเตะในอุดมคติของเรา เขาเร็ว ฉลาด เล่นได้สองเท้า วิ่งเข้าหาบอลด้วยความกล้า เขาสามารถแย่งบอลจากคู่แข่งแล้วบุกขึ้นไปในเขตโทษเพื่อช่วยยิงประตูได้ทันที นอกจากนั้นยังจับบอลเยี่ยม จบสกอร์ได้ดี เล่นในพื้นที่แคบๆ ก็ได้ เขารู้ว่าทุกคนอยู่ตรงไหนของสนาม"
หน้าที่ของกุนโดกัน คือการเติมเต็มในส่วนที่ขาด ในขณะที่ดาบิด ซิลบา และ เควิน เดอ บรอยน์ จะโฟกัสที่เกมบุก ส่วนแฟร์นันดินโญ่ จะโฟกัสที่เกมรับ กุนโดกันจะวิ่งไปทั่วสนาม ถ้าตอนไหนทีมต้องการบุกหรือรับมากขึ้น เขาจะไปช่วยตรงนั้น เพราะสามารถทำได้ดีทั้งรุกและรับ
ขณะที่เรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวนั้น กุนโดกัน กับ เป๊ป อาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์เดียวกัน ในย่านกรินด์สมิธ เป็นเพื่อนบ้านกันโดยบังเอิญ และเคยเจอกัน 6-7 ครั้ง เรียกได้ว่ามีความสนิทสนมกันนอกสนามด้วย
ไม่แปลก ที่ทุกครั้งเวลากุนโดกันกล่าวถึงเป๊ป เขาจะพูดจาด้วยคำดีๆ เสมอ "ก่อนผมจะย้ายมาอยู่แมนฯ ซิตี้ ผมคิดว่ารู้จักฟุตบอลดีแล้ว ตอนนั้นผมอายุ 25-26 ก็เห็นอะไรมาเยอะนะ แถมผมยังเคยเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิงมาแล้วด้วย แต่พอได้ร่วมงานกับเป๊ป บอกได้เลยว่า ผมไม่เคยรู้จักฟุตบอลจริงๆ เลย"
กุนโดกัน เล่นฟุตบอลอย่างถวายหัวให้กวาร์ดิโอล่า ตลอด 7 ปีที่ร่วมงานกัน ทุกแชมป์ที่เกิดขึ้นในยุคของเป๊ป มีกุนโดกันร่วมอยู่ด้วยทั้งหมด รวมถึงการคว้าเทรเบิ้ลแชมป์ ในฤดูกาล 2022-23 อีกด้วย
หลังจากคว้าแชมป์สุดท้ายได้ที่อิสตันบูล กุนโดกันในฐานะกัปตันทีม ประกาศอำลาสโมสรอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางความเสียดายจากแฟนๆ โดยย้ายไปร่วมทีมบาร์เซโลน่าแบบไม่มีค่าตัวตามกฎบอสแมน
ไม่ใช่ว่ากุนโดกันไม่รักแมนฯ ซิตี้ แต่ ณ เวลานั้น ภรรยาของเขา ซาร่า เพิ่งให้กำเนิดลูกชาย ดังนั้นในครอบครัวจึงคุยกันว่า อยากย้ายไปอยู่เมืองที่อุณหภูมิอบอุ่นกว่านี้ อากาศดีกว่านี้ และแน่นอน บาร์เซโลน่านั้นขึ้นชื่ออยู่แล้ว ว่าเป็นเมืองที่โดดเด่นเรื่องสภาพอากาศและความสวยงาม
วันที่กุนโดกันย้ายออกไป เป๊ปเองก็ใจสลาย เพราะนี่คือขุนพลคู่ใจที่อยู่กันมานานมาก เขากล่าวว่า "ยินดีกับบาร์เซโลน่าที่ได้ตัวสุดยอดนักเตะคนนี้ ผมพยายามเหนี่ยวรั้งเขาแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ คือผมเข้าใจอิลคายดี และรู้ว่านักเตะทุกคน มีปัญหาเรื่องครอบครัวให้ต้องแก้ไขกันเสมอ"
กุนโดกันเซ็นสัญญา 3 ปี กับบาร์เซโลน่า ด้วยค่าจ้างสัปดาห์ละ 360,000 ยูโร สูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของสโมสร เป็นรองแค่เฟรงกี้ เดอ ยอง และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้เท่านั้น
ที่ค่าเหนื่อยแพงขนาดนั้น ก็เพราะกุนโดกันก็มีดีกรีระดับกัปตันแมนฯ ซิตี้ แถมยังเซ็นมาฟรีๆ ตามกฎบอสแมนนั่นเอง
จริงๆ แล้ว กุนโดกันมีข้อเสนอที่ดีกว่านี้จากสโมสรในลีกอื่น แต่เขาเลือกบาร์เซโลน่า อย่างแรกคือชอบเมืองที่อบอุ่นและสวยงาม ส่วนเหตุผลอย่างที่สองคือ กุนโดกันเติบโตมากับการเห็นโชว์มหัศจรรย์ของโรนัลดินโญ่ จึงเป็นเกียรติมากๆ ที่จะได้สวมเสื้อของทีมอาซูลกราน่า
อย่างไรก็ตาม พอใช้ชีวิตอยู่จริงๆ กุนโดกันได้เรียนรู้ว่า การเล่นให้บาร์ซ่า ไม่ราบรื่นเหมือนตอนอยู่แมนฯ ซิตี้
เขาไม่ค่อยแฮปปี้กับแพสชั่นของนักเตะในทีม ที่ไม่มีความเป็น Serial Winner หรือผู้ชนะที่อยากชนะซ้ำแล้วซ้ำอีก หลายคนดูสบายๆ มีความปล่อยจอย ทั้งๆ ที่เล่นในเกมสำคัญ
ในเกมเอล กลาสิโก้ ที่บาร์ซ่า แพ้เรอัล มาดริดคาบ้าน 2-1 กุนโดกันให้สัมภาษณ์ว่า "ตอนจบเกมผมมาที่ห้องแต่งตัว แน่นอนผู้เล่นผิดหวังที่แพ้เกมใหญ่ แต่ผมคาดหวังว่าจะเห็นความโกรธแค้น ความโมโห และความผิดหวังมากกว่านี้"
"นี่คือปัญหาอย่างหนึ่งของเรา เราต้องมีอารมณ์ร่วมมากกว่านี้ เราไม่ได้ลงแข่งเกมแบบนี้เพื่อที่จะรอแพ้นะ ผมเป็นผู้เล่นซีเนียร์ของทีม และจะไม่ยอมให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก"
นอกจากนั้นกุนโดกันยังมีประเด็นอีกหลายครั้ง เช่น เขาเคยด่า โรนัลด์ อเราโฆ่ ที่โดนใบแดงในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกกับเปแอสเช จนทีมเหลือตัวน้อยกว่าแล้วตกรอบ "ถ้าคุณไม่ชัวร์ว่าจะแย่งบอลได้ในเขตโทษ จงอย่าเสี่ยง เอาตัวออกมาซะ ผมยินดีที่จะปล่อยให้คู่แข่งดวล 1 ต่อ 1 กับโกล เพราะโกลเราอาจจะเซฟได้ หรือต่อให้เสียประตู เราก็ไล่ยิงคืนได้ แต่พอมาโดนไล่ออกเร็วแบบนี้ เกมของเราก็จบสิ้นแล้ว"
วันนั้นอเราโฆ่ ก็สวนกลับว่า "ผมคงเก็บความรู้สึกเหล่านี้ไว้กับตัวเองดีกว่า ผมมีจริยธรรม และคุณค่าที่ยึดถืออยู่" หลายคนเชื่อว่า น่าจะแซะกุนโดกันว่าธรรมเนียมของบาร์ซ่า เราไม่มาแทงกันเอง
ความตรงไปตรงมา และดูเป็นมืออาชีพ คือสิ่งที่แฟนบาร์เซโลน่าประทับใจ ในทีมที่มีดาวรุ่งเยอะ การมีนักเตะซีเนียร์ที่พูดตรงประเด็น ก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน
ท่ามกลางความวุ่นวายทั้งหลาย ฤดูกาล 2023-24 จบลง บาร์เซโลน่าและกุนโดกัน จบซีซั่นแบบไม่มีแชมป์อะไรเลย แม้แต่โทรฟี่เดียว
เข้าสู่ฤดูกาลปัจจุบัน (2024-25) บาร์เซโลน่า เปลี่ยนผู้จัดการทีม จากชาบี เอร์นันเดซ เป็นฮันซี่ ฟลิค จริงๆ ก็ยังไม่มีใครคาดคิดว่า กุนโดกันจะย้ายทีม คือได้โค้ชใหม่ชาวเยอรมันเข้ามา น่าจะยิ่งช่วยให้กุนโดกันเปล่งประกายมากขึ้น และอย่าลืมว่า ฟลิคคนนี้แหละ ที่แต่งตั้งกุนโดกันเป็นกัปตันทีมชาติเยอรมันด้วย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้กุนโดกันเริ่มคิดทบทวนถึงการย้ายทีม มี 3 อย่าง
อย่างแรกคือ ความตั้งใจของสโมสรที่ต้องการ ปล่อยเขาออกไป เพื่อทำให้สถานการณ์การเงินดีขึ้น
ในปัจจุบัน บาร์เซโลน่า ยังไม่สามารถลงทะเบียนดานี่ โอลโม่ สตาร์คนใหม่ที่ซื้อมาจากไลป์ซิกได้ เพราะเพดานค่าเหนื่อยเต็มแม็กซ์แล้ว ดังนั้นการปล่อยกุนโดกัน ที่มีค่าเหนื่อยสูงสุดอันดับ 3 ของสโมสร ก็จะทำให้มีช่องว่างมากขึ้น สามารถใช้งานโอลโม่ รวมถึงไปเซ็นสัญญากับนักเตะตัวใหม่ๆ ได้อีกหลายคน
เหตุผลที่สอง คือกุนโดกันเข้าไปคุยกับฮันซี่ ฟลิค ถึงทิศทางในซีซั่นหน้า และได้รับคำตอบว่า ไม่สามารถการันตีตำแหน่งตัวจริงได้ เพราะตำแหน่งมิดฟิลด์มีหลายคนที่สามารถอนาคตของสโมสรได้ ทั้งเปดรี, เฟอร์มิน โลเปซ และ ดานี่ โอลโม่
และเหตุผลที่สาม คือซาร่า ภรรยาของกุนโดกัน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ตอนแรกคิดว่าย้ายเมืองแล้วจะดี แต่ปรากฏว่า คิดถึงแมนเชสเตอร์ คิดถึงเพื่อนๆ ที่นั่น เพราะเธออยู่ในเมืองนั้นมานานหลายปี นอกจากนั้น ยังวิจารณ์สโมสรว่า ดูแลครอบครัวของผู้เล่นไม่ค่อยดี ทั้งเรื่องการเดินทาง เรื่องการจัดสรรหาที่พักให้ จนสโมสรต้องออกมาขอโทษ และรับปากว่าจะทำให้ดีขึ้น
เมื่อมีเหตุผล 3 ข้อมารวมกัน ทำให้กุนโดกัน เริ่มพิจารณาข้อเสนอในการย้ายทีม โดยตอนแรกมีชอยส์ ลีกซาอุฯ, ลีกกาตาร์ และ ลีกตุรกี ซึ่งกุนโดกันไม่ค่อยประทับใจ จึงยังลังเลอยู่ว่าจะย้ายดีหรือไม่
แต่ในคืนวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยื่นข้อเสนอเข้ามา ขอดึงตัวกุนโดกันกลับไปอีกครั้ง ในสัญญา 1 ปี
คนที่อยากได้กุนโดกันคือกวาร์ดิโอล่า เขาบอกว่า "เรารู้จักอิลคายเป็นอย่างดี และถ้าหากมีช่องว่างให้เราเซ็นเขากลับมาเมื่อไหร่ เราเดินหน้าแน่นอน"
สิ่งที่แมนฯ ซิตี้ต้องการคือบาร์เซโลน่าต้องยอมปล่อยให้ฟรี แม้นักเตะจะเหลือสัญญาอีก 2 ปีก็ตาม
บาร์ซ่าเองก็ไม่ได้ขาดทุนอะไร เพราะตอนเซ็นมาก็ฟรีเหมือนกัน ดังนั้นจึงตอบโอเคในที่สุด
สำหรับกุนโดกันเอง การกลับไปอยู่จุดเดิมก็แฮปปี้ คือยังไงอยู่แมนฯ ซิตี้ ย่อมดีกว่าการย้ายไปเล่นในลีกตะวันออกกลาง ที่ต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตอย่างรุนแรงแน่ๆ
นี่ถือ Win-Win Situation บาร์ซ่าได้ลดค่าเหนื่อยนักเตะไป 360,000 ยูโรต่อวีก หายใจหายคอโล่งขึ้นเยอะ ตัวกุนโดกันได้กลับไปสโมสรที่เขาและครอบครัวคุ้นเคย ส่วนแมนฯ ซิตี้ ก็ได้นักเตะคุณภาพดี ที่เข้าใจระบบเป็นอย่างดี มาใช้งานทันทีหนึ่งคน โดยไม่ต้องจ่ายค่าตัวด้วย
ดีลจึงจบลงอย่างรวดเร็วมาก วันพุธที่ 21 สิงหาคม เป๊ป, เฟร์รัน โซเรียโน่ (ซีอีโอแมนฯ ซิตี้), ซิกี้ เบกิริสไตน์ (ผู้อำนวยการฟุตบอลแมนฯ ซิตี้) พร้อมทั้งกุนโดกัน นัดคุยกันที่ร้านอาหารชื่อ ทาสต์ พวกเขาเฉลิมฉลองการกลับมาของกุนโดกัน สู่เอติฮัด สเตเดี้ยม
หลังจากการย้ายทีมลุล่วงแล้ว กุนโดกัน บอกคำลาถึงแฟนบาร์เซโลน่าว่า "แม้ผมจะต้องอำลาทีมไป แต่อย่างน้อย การย้ายออกของผม จะช่วยทำให้สถานะทางการเงินของสโมสรดีขึ้น มันทำให้ผมรู้สึกแย่น้อยลงบ้าง อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ผมได้อยู่กับสโมสร ไม่ว่าจะเจอทั้งเรื่องดี และเรื่องร้าย อยากบอกว่าผมใฝ่ฝันจะเล่นให้บาร์ซ่าอยู่เสมอ และเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นตลอดปีที่ผ่านมา จะอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป"
แม้จะอยู่แค่ 1 ปี แต่กุนโดกัน เป็นนักเตะที่แฟนบาร์ซ่าชอบ เพราะทุ่มเทมากๆ
ในลาลีกา ซีซั่นที่แล้ว เขาลงเล่นไป 36 นัด จากทั้งหมด 38 นัด ยิง 5 แอสซิสต์ 9 ถือว่าผลงานไม่เลวทีเดียว นอกจากนั้นยังมีความเป็นผู้นำ เป็นมืออาชีพให้รุ่นน้องในทีมได้เดินตาม นี่เป็นการแยกทางกันด้วยดี ไม่มีอะไรข้องใจต่อกัน
สำหรับการย้ายกลับมาพรีเมียร์ลีกของกุนโดกัน ทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
ปัจจุบัน พวกเขามีมิดฟิลด์ตัวกลางแบบธรรมชาติเลยคือ โรดรี้, มาเตโอ โควาซิช และ มาเธอุส นูเนส รวมถึงกลุ่มดาวรุ่งที่รอโอกาสอยู่ พวกมักซิโม เปอร์โรเน่ กับ เจมส์ แม็คอาธี่ การมีกุนโดกันเพิ่มมาอีกคน ทำให้แผงกองกลางแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เคยแย้มเอาไว้ว่านี่อาจเป็นฤดูกาลสุดท้ายที่เขาคุมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดังนั้นก็อยากจะทิ้งทวนด้วยการคว้าทุกแชมป์ที่มี รวมถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกด้วย
ก็ไม่แปลกที่ภารกิจยากขนาดนี้ จำเป็นต้องการขุนพลที่รู้ใจที่สุด มาช่วยกันปิดจ๊อบให้ได้ และจะมีใครเสียอีกที่เข้าใจแนวทางของเป๊ป มากไปกว่ากุนโดกัน
เรื่องราวการ "คัมแบ็ก" ของกุนโดกันก็จบลงตรงนี้ เป็นการย้ายตัว ที่มีแต่ความรู้สึกบวก ของทุกฝ่าย
แฟนบาร์ซ่าก็ไม่โกรธเคือง แฟนแมนฯ ซิตี้ก็มีความสุข
ก็อย่างที่เขาบอกกันอยู่เสมอ ว่าถ้าคุณทุ่มเทเต็มร้อย ตอนเล่นอยู่กับสโมสร ไม่ทำตัวงอแง และแสดงความเป็นมืออาชีพตลอดเวลาแล้วล่ะก็
ในวันที่จากลา ก็จะได้รับแต่ความรักและความชื่นชม
แถมบางที ถ้าอนาคตเป็นใจ อาจหวนคืนกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งได้อีกด้วย แบบที่กำลังเกิดขึ้นกับกุนโดกันอยู่นั่นเองครับ
ดังสำนวนที่เราคุ้นเคยกันดี นั่นคือ ... อยู่ให้เขารัก จากไปให้เขาคิดถึง
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
