26 ส.ค. เวลา 01:32 • สุขภาพ
BangkokThailand
เรื่องของกาย กายที่มีจิตอาศัย ..พอมีกายเกิดขึ้น ก็ต้องมีภาระ ไปหาน้ำเลือดน้ำหนอง มาเสริมปรุงแต่ง เอาธาตุนอกมาเสริมธาตใน ..จะไปเอาที่ไหน ..ไปเอาตามต้นไม้ใบหญ้า พืชผัก ..ไปเอาตามเนื้อสัตว์ ที่จิตของผู้ที่มีกรรม เนื้อเป็ดเนื้อไก่ ที่เค้าหากิน จิดหนอนแมลงหอยปูปลา มาหล่อเลี้ยงสังขารกรรมของเค้า เนื้อของเค้าก็เป็นเนื้อของกรรม
เชื้อโรคเชื้อของผู้ที่มีกรรม ก็ผสมปนเปื้อนอยู่ในเนื้อนั้น ..แต่เราก็มองไม่เห็น แต่ก็มีผู้ที่แนะให้เราไปสังเกตดู เวลาที่เราเป็นแผลฟอกซ้ำ น้ำเลือดน้ำหนอง..ก็มากัดกิน..มันคล้ายไส้เดือนเล็กๆขึ้นมากัดกินเราบ้าง บ้างก็ไปกัดกินเกาะตามเส้นเอ็น พังพืด .ผิวกายมันก็เหี่ยวย่น เหมือนต้นไม้แก่ ..
..เปลือกมันก็ค่อยๆแก่ตาย แต่ก็เกาะติดอยู่ ..เป็นขุ่ย..แห้ง เคลือบบางๆเป็นชั้นๆ เป็นก้อนเกาะติดอยู่ ทำให้ปยดตรงนั้นตรงนี้ เหมือนมีมีอะไรทิ่มแทง บ้างก็หลุดออกเป็นเหมือนแป้งขาวๆ ..กรรมมันค่อยหลุดมา เพราะสะสมมานาน ลองไปสังเกตคนที่ป่วยติดเตียงดูว่า กรรมเค้าสำแดงออกมาอย่างไรจากเรือนกายที่จิตนั้นอาศัย แล้วกายเราจะเป็นเหมือนเค้ามั้ย กายของผู้ที่มีแต่กรรม
เราก็กินเนื้อกรรมของเค้าเอร็ดอร่อย บ้างก็กินไปบ่นไป ติเตียนเนื้อเค้า น้ำเลือดน้ำหนองของเค้า ที่เค้ามีกรรมต้องไปอยู่ในสังขารเยี่ยงนั้น ก็คนเรามันมีชีวิตมีกายที่มีกรรม ก็มีภาระต้องดับอารมณ์ที่หิวกระหาย ต้องดูแลกาย ก็ไปเสาะแสวงหาน้ำเลือดน้ำหนองของผู้ที่มีกรรมอยู่ในสังขารกรรม มากินเอร็ดอร่อย
..เราก็กินธาตุกรรมเอร็ดอร่อย ..สะสมเข้าไปๆ กินเนื้อกรรมธาตุของกรรมเข้าไปทุกวัน พอถึงเวลา ..สะสมเนื้อกรรม ธาตุในกายมากเข้าๆ เนื้อของกรรม ก็แผลงฤทธิ์ น้ำเลือดน้ำหนองในกายก็มีแต่กรรม น้ำเลือดน้ำหนองก็มากัดกินในกายบ้าง ก็กัดกินเอร็ดอร่อย โรคภัยไข้เจ็บ ก็ติดตามมาสำแดงให้ประจักษ์
คนเรากินน้ำเลือดน้ำหนองของสัตว์มีกรรม แม่พืชผักที่เรา กินเข้าไป มันก็มีสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ แรงกายแรงงาน ที่คนเค้าปลูกพืชผักมาขายให้เรากิน มันก็ซ่อนอยู่ในนั่น ..สันไม่ได้แสดงออกมาเป็นค่าของเงินทองอะไร ..มันมีกรรมซ่อนเร้อนอยู่ แต่คนเราก็มองไม่เห็น
มีพระที่ท่านหนีไปอยู่ป่า ท่านก็เห็นอาหารการกินเรื่ิงน้ำเลือดน้ำหนองที่ มาบำรุงบำเรอกายนั้น มีแต่กรรม ท่านก็ไปอยู่ตามถ้ำตามป่าเขา ..ไม่กินอาหาร..จะอยู่ได้มั้ย จะหวงกายมั้ย เอากายนั้นมากระทำให้กายนั้นเป็นกายของธรรม จะอยู่ได้มั้ย ..มันจึงมีเรื่องราวของพระ ที่ท่านดำรงกายอยู่ ประคับประคองกายได้ ร่างกายก็แข็งแรง ไปไหนมาไหนได้ ไม่มีอะไรขวางกั้นได้ อายุขัยก็มากเกินที่เราจะคิดว่า ไม่น่าจะมีเกิดขึ้นได้ ..แต่ก็มีผู้ที่สามารถกระทำได้
คราวนี้ ท่านก็สอนให้ เรารู้จักสร้างบุญกุศล กระจายเนื้อ กรรมที่เราไปกินเค้ามา ให้เป็นเนื้อนาบุญ ส่งบุญกุศลให้แก่จิตของผู้ที่มีกรรม ที่เราไปกินน้ำเลือดน้ำหนองเค้ามา
เราก็ตอบแทนเค้า ใช้กายใช้น้ำเลือดน้ำหนองของเค้า มาทำบุญทำทาน ก็จะเป็นประโยชน์ส่งบุญกุศลกลับคืนไปให้เค้า กายที่เราอาศัยก็ มีกายบุญเกิดขึ้น พอกายเป็นบุญเกิดขึ้น ที่เราได้ตอบแทนเค้าไป ร่างกายเราก็แข็งแรงขึ้น ไม่หนักเวรกรรม ที่เค้าจะมาทวงถาม เมื่อไม่อะไรให้ก็มีแต่กรรม แต่เฒ่าชราเต็มไปด้วยกรรมเป็นธรรมชาติ เกิดแล้วก็ตายเหมือนเป็ดไก่ ที่เราไปกินเค้ามา
เรื่องราวของสุขภาพมันพัวพันไปด้วยการใช้กายวาจาใจ ไปตามอารมณ์ ไปคล้องเวรกรรม จิตอาศัยอยู่ในเรือนกาย เดืนไปเดินมา มองไปเห็นต้นไม้ จิตก็ไปอยู่ที่ต้นไม้ ..ก็พูดยึดต้นไม้นั้น ..ต้นไม้นี้สวยต้นไม้นี้งาม กายนั้นก็พูดออกมา ต้นไม่นี้สวยต้นไม้นี้งาม นั่นแหละ จิตมันยึดต้นไม้ ..ที่เค้าว่า ต้นไม้พูดได้
แล้วยังมีเรื่องหู ..ที่ชอบเอาหูไปฟังเค้่าเรียกว่าเสียงต่ำๆ เสียงที่คนเค้าใช้อารมณ์โลภโกรธหลง มีอารมณ์ไม่พอใจ ติเตียน นินทาคนนั้นคนนี้ เสียงด่าทอ วิพากษ์..ก็ชอบเอาหูไปฟัง ..เสียงต่ำ นิสัยชอบใช้หูอย่างนั้น เอาหูไปรับกรรม เสียงของผู้ที่มีอารมณ์กรรม ..พอแก่ตัว..หูก็สะสมแต่เสียงของกรรม หูมันก็มีกรรมกดทับ.. หูตึงไป เค้าว่ามาอย่านั้น ไปดูเอา สังเกตเอาคนใกล้ชิด ที่เป็น สว เวลามีอาการเหล่านี้หรือเปล่า นั่นแหละที่เค้าว่า มีวิญญาณทั้งหก ก็เอาไปคลุกฝุ่นคลุกขี้โคลน
..จิตไปคล้องกรรมมา . แล้วทั้งชีวิต ก็..จิตก็ไปยึดเรื่องนี้เรื่องนี้ เอามา ..เอาชื่อคนนั่นรูปคนนี้ เอามาพูดมาติเตียน นั่นแหละ เค้าเรียกว่าเอาทุกข์เอากรรมเอาไฟ้มาเข้าบ้านแผดเผากายของตนเอง แล้วกว่าจะแก่..สะสมมาเท่าไหร่แล้ว เคยจะขนออกมันบ้างมั่ย ..มีแต่นำเข้า ..ไม่เคยเอาออกเลย .กายก็แก่ไปด้วยกรรม แก่เวรกรรม
โฆษณา