กฏแรงดึงดูดหรือกฏแรงผลักออก?
เคยเป็นไหมใช้กฏแรงดึงดูดตั้งนานแต่ทำไมไม่ได้ผล
เคยเป็นไหมใช้กฏแรงดึงดูดกับอะไรสักอย่าง แต่ผลกับตรงกันข้าม
เคยไหมเวลาใช้กฏแรงดึงดูด แล้วชีวิตพังมากกว่าเดิม
มาถึงตรงนี้บางคนอาจจะเกิดความสังสัยว่า "เอ้า สรุปแล้วกฏแรงดึงดูดมันมีจริง ๆ ใช่ไหม" คำถามตรงนี้ผมบอกเลยว่ามีมันจริงๆครับ แต่หากคนที่ใช้ไม่เป็นมันจะอันตรายมาก หากไม่ศึกษาดีๆอาจจะทำให้ชีวิตพังได้ แต่บทความนี้จะมาบอกเคล็ดลับการใช้กฏแรงดึงดูดอย่างมีประสิทธิภาพ ให้เพื่อนๆไปปรับใช้กันครับ แต่ก่อนจะเข้าเนื้อหาเรามาปูพื้นฐานความรู้กันก่อน
งานวิจัยของ Dr. David R. Hopkins กล่าวว่ามนุษย์มีคลื่นสมองที่แตกต่างกันตามอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง โดยกลุ่มความรู้สึกเชิงลบ เช่น ความอยาก ความโกรธ ความขาดแคลน ความเสียใจ ฯลฯ คลื่นสมองส่วนนี้จะอยู่ในย่านความถี่ต่ำ แต่กลุ่มรู้สึกยินดี ความเบิกบาน ความพึงพอใจ คลื่นสมองเหล่านี้จะอยู่ในความถี่สูง ซึ่งคลื่นเหล่านี้จะถูกส่งออกจากตัวเราตลอดเวลา และมนุษย์ทุกคนก็สามารถรับรู้ถึงคลื่นความถี่เหล่านี้ได้ ยกตัวอย่างเช่น
คุณเคยเข้าไปในห้องที่คนเพิ่งทะเลาะกันเสร็จหมาดๆไหม ถ้าเคยคุณจะรับรู้ได้ถึงความอึดอัดบางอย่าง
คุณเคยเจอใครที่มองแล้วรู้สึกสะดุดตามากไหม บางคนอาจจะหน้าตางปานกลางๆ แต่พลังงานที่เขาปล่อยออกมามันช่างสดใสและดูมีเสน่ห์ กลับกัน บางคนหน้าตาหล่อสวย แต่พลังงานที่เปล่งออกมามีแต่ความกดดันและเคร่งเครียด เวลาอยู่ใกล้ๆแล้วก็ทำให้เวียนหัว
นี่คือหลักฐานที่ยืนยันว่ามนุษย์มีการปล่อยพลังงานในย่านความถี่ต่างๆ ออกมาตลอดเวลา ซึ่งพลังงานตรงนี้แหละมันเกี่ยวข้องกับกฏแรงดึงดูดโดยตรง
กฏแรงดึงดูดกล่าวว่า คลื่นความถี่เดียวกันมักจะดึงดูดซึ่งกันและกัน ทีนี้เรามาดูว่าเวลาพวกเราใช้กฏแรงดึงดูดกันแบบไหน
สมมุติเราอยากมีแฟน เราต้องตั้งเป้าอยู่บนพื้นฐานของอารมร์เชิงบวก แต่คนส่วนใหญ่จะตั้งเป้าอยู่บนความอยาก ความกระหายและความขาดแคลน ซึ่งอารมณ์พวกนี้เป็นอารมณ์ในเชิงลบ และเมื่อเราปล่อยอารมณ์ในเชิงลบออกมา มันก็ยิ่งผลักผู้คนออกไปจากเรา แต่ถ้าเราดึงจิตของตัวเองให้อยู่ในแดนบวกได้ โดยเราอยากมีแฟนก็จริง แต่เราก็พอใจในชีวิตปัจจุบัน รักตัวเองเป็น full fill ตัวเองได้ พลังงานที่คุณส่งออกมาก็จะเป็นพลังงานดี คุณก็จะดูมีออร่า ใครๆก็อยากจะเข้าใกล้ พอถึงตรงนี้คุณก็จะกลายเป็นหนุ่มป็อปสาวป็อบเลยล่ะ
เมื่อเข้าใจที่มาที่ไปแล้ว เราก็จะมาพูดเรื่อง ทำยังไงให้จิตเราอยู่แดนบวกตลอดเวลา
จากคลิปสอนของครูเงาะในยูทูป (ซึ่งนักเขียนจำชื่อคลิปไม่ได้) กล่าวว่า ให้นึกถึงความรัก ไม่ว่าจะความรักของพ่อแม่ ความรักของครอบครัว หรือความรักของแฟนก็ได้ ซึ่งจิตใจที่เต็มไปด้วยความรัก จะยกระดับความถี่คลื่นขึ้นไปถึง 500 Hz เลยทีเดียว แต่สิ่งที่สุดยอดกว่านั้น คือการระลึกถึงพระรัตนตรัย ซึ่งจะดันคลื่นสมองเพื่อนๆไปถึง 1,000 Hz เลยทีเดียว
เพื่อนๆลองทำตามดู เปลี่ยนความอับอาย รู้สึกผิด เศร้า กลัวและความอยาก ที่ส่งคลื่นออกไปเพียง 20-100 Hz เป็นความรู้สึกรัก ที่ดีนคลื่นไปถึง 500 Hz หรือที่ผู้เขียนแนะนำมากที่สุดคือ การระลึกถึงพระรัตนตรัย ที่สามารถดันคลื่นไปถึง 1,000 Hz ได้
เมื่อปรับจิตปรับใจให้เข้าสู่แดนบวกได้แล้ว เราก็ไปใช้กฏแรงดึงดูด และ manifest กันให้ฉ่ำไปเลย
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
