2 ก.ย. เวลา 03:17 • ข่าวรอบโลก
สหรัฐอเมริกา

Zelensky กล่าวหาว่าปูตินเป็นคนป่วยจิตในจัตุรัสแดงซึ่งมักข่มขู่ผู้คนด้วยปุ่มสีแดง

กองทัพยูเครนได้อ้างว่ายึดพื้นที่ได้ 1,294 ตารางกิโลเมตร ในการลงจอดและจับกุมทหารรัสเซียได้ 594 นาย แถลงการณ์ล่าสุดในตอนนั้นของ Zelensky ก็คือ
เขาไม่พร้อมที่จะใช้การประนีประนอมดินแดนเพื่อเจรจาและจะเสนอแผนชัยชนะในเดือนกันยายน
1
ยูเครนใช้เวลาวันประกาศอิสรภาพอย่างสนุกสนาน นอกเหนือจากการโจมตีทางทหารร่วมกันระหว่างยูเครนและรัสเซียแล้ว
ทั้งสองประเทศยังเสร็จสิ้นการดำเนินการแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งใหม่อีกด้วย และตามมาด้วยความวินาศสันตะโรที่รัสเซียประเคนให้
1
ประธานาธิบดีเซเลนสกีแห่งยูเครน ถึงกับออกกฏห้ามการติดต่อระหว่างคริสตจักรออร์โธดอกซ์ยูเครนกับคริสตจักรออร์โธดอกซ์รัสเซีย เพื่อแก้เก้อ
แถม เซเลนสกียังกล่าวด้วยว่าหลังจากการดำเนินการแลกเปลี่ยนนักโทษเสร็จสิ้น จะมีการโจมตีตอบโต้รัสเซียมากขึ้น
ตามรายงานของ Agence France-Presse ประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนให้คำมั่นที่จะดำเนินการนัดหยุดงานตอบโต้รัสเซียเพิ่มเติม
ในวันประกาศอิสรภาพของยูเครน
เพียงสองสัปดาห์หลังจากการจู่โจมข้ามพรมแดนของยูเครนในดินแดนรัสเซีย ทั้งสองฝ่ายได้ประกาศว่าพวกเขาได้แลกเปลี่ยนเชลยศึก 230 คน
เซเลนสกียังได้ลงนามในกฎหมายที่ห้ามคริสตจักรออร์โธดอกซ์ยูเครน (UOC) ที่มีความเกี่ยวข้องกับรัสเซีย โดยกล่าวว่า
กฎหมายที่เกี่ยวข้องมีจุดมุ่งหมายเพื่อปลดปล่อยผู้ศรัทธาจากเงื้อมมือของมารร้ายในมอสโก
แน่นอนว่า เมื่อเอาศาสนาเข้ามาเป็นแกน การเคลื่อนไหวนี้จึงก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง
จากผู้นำของคริสตจักรออร์โธดอกซ์รัสเซีย
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ตามวิดีโอที่เผยแพร่โดยเซเลนสกีเอง
สามารถมองเห็นเขายืนอยู่ในพื้นที่ป่าซึ่งมีรายงานว่าอยู่ใกล้กับสถานที่ของการรุกรานของยูเครน
เซเลนสกี กล่าวว่า "สิ่งที่ศัตรูนำมาสู่ดินแดนของเรา (หมายถึงสงคราม) ได้กลับมายังบ้านเกิดของพวกเขาแล้ว"
และรัสเซียก็รู้ว่าการตอบโต้คืออะไร
เซเลนสกียังกล่าวด้วยว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซียเป็น "คนป่วยในจัตุรัสแดง และมักจะข่มขู่ทุกคนด้วยปุ่มสีแดง"
ซึ่ง AFP ก็ได้ตีความเป็นภาษาชาวบ้านว่า มันหมายถึงคำขู่ของปูตินที่จะก่อสงครามนิวเคลียร์นั่นเอง.
1
Zelensky กล่าวว่าเคียฟเริ่มการตอบโต้ข้ามพรมแดนต่อรัฐเคิร์สต์ทางตะวันตกของรัสเซีย (Kursk) เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม
เป้าหมายประการหนึ่งคือการแสดงให้รัสเซียเห็นว่า "สิ่งใดสำคัญสำหรับเขา (ปูติน) มากกว่ากัน
ระหว่างการครอบครองดินแดนยูเครนหรือการปกป้องชาวรัสเซีย?”
โดยสอดคล้องกับทางการยูเครนที่ระบุก่อนหน้านี้ว่า
จุดประสงค์ประการหนึ่งของการรุกราน Kusk คือการแลกเปลี่ยนเชลยศึกชาวรัสเซียกับชาวยูเครนที่ถูกคุมขังในรัสเซีย
โฆษณา