28 ส.ค. เวลา 12:05 • สุขภาพ

"เขียนเมื่อพร้อม" Her2+ Er negative ตอนที่1

#writingtherapy
ตะลึงมากๆ เมื่อเจอกับคนไข้คนหนึ่งตอนรอขึ้นลิฟต์ คือ เราไม่แน่ใจว่าเป็นเธอซะด้วย...เพราะหน้าตาเธอดูมีสีสรร ดูสุขภาพดี.. ทั้งๆที่เจอเธอเมื่อสามอาทิตย์ก่อนหน้านี้ หน้าตาเธอซีดเซียวและผิวก็ขาวซีด
เรามองเธออยู่นานมากๆจนเธอรู้สึก..เมื่อคนเข็นรถที่เธอนั่งมาเข้าลิฟต์ที่หยุดและกำลังจะขึ้น..เธอเอ่ยปากทักทายเราเสียงดังมาก [ เธอเป็นคนพิเศษลักษณะคล้ายกับดาวน์ซินโดรม ]
เท่านั้นแหละเราจำเธอได้ทันที..ด้วยเสียงทักทายยานๆตามสไตล์ เรายิ้มให้และบอกกับเธอว่า
เราไปด้วยกันนะ...[ในใจเรายังคิดต่อว่า โอ้ ร่างกายของเธอฟื้นฟูได้เร็ว น่าชื่นใจแทน]
ชั้น6 ในแผนกที่เราเข้า-ออกเป็นประจำวันนั้น มีคนไข้ไม่มากนัก รู้สึกเงียบและเดียวดาย.....เศร้า....
เรามีนัดกับหมอ[หนุ่ม]หน้าตาหล่อเหลาเราเจอหมอคนนี้มาแล้ว 3 ครั้ง
เรารู้สึกแปลกๆในตอนแรกที่เจอหมอไม่ซ้ำหน้าในแต่ละครั้งที่นัดพูดคุยกัน คือตามปกติเคยชินแบบที่เมืองไทยเวลาพบหมอก็จะพบหมอคนเดียวคนเดิมตลอด...
แต่สุดท้ายเราเคยชินกับระบบที่เจอหลายหมอไปซะแล้ว...
และแท้จริงแล้วพวกเขาก็ไม่ได้หลุดหรือขาดตกหล่นอะไรในเรื่องการรักษาและพูดคุยกับคนไข้
การพูดคุยกันในวันนั้นกับหมอหนุ่มเป็นเรื่องยาบำบัดที่ใช้มาประมาณ 7 เดือน และการเตรียมตัวผ่าตัดของเราในอีก 3 อาทิตย์ข้างหน้า..
เรานั่งฟังหมออธิบายแบบใจเลือนลอย นึกในใจผ่าตัด ผ่าตัด ชีวิตตูต้องผ่าตัดอีกแล้วเหรอ? [ว่ะ]
คือจริงๆการพูดคุยไม่มีข้อมูลอะไรใหม่มากนัก ทุกอย่างหลังจากนี้ขึ้นอยู่กับผลของการผ่าตัด...
เราตั้งสติหันมาจ้องหมออีกครั้งและฟังหมออธิบายจนจบ...เตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อมกับการผ่าตัด..และท่องในใจว่า..."แล้วทุกอย่างจะผ่านไป"
เมื่อประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้วเรารู้สึกเจ็บแป๊บที่หน้าอกด้านขวา...เจ็บอยู่หลายชั่วโมงตัดสินใจกินยาพาราฯช่วยบรรเทาจึงหาย
จากนั้นเราไปหาหมอจีพี ซึ่งเป็นหมอประจำตัวเพื่อตรวจในขั้นแรก หมอรีบส่งอาการที่ตรวจเราไปยังรพ.ใหญ่ชานเมืองโคเปนเฮเกน..แต่ในเวลานั้นรพ.ดังกล่าวไม่สามารถรัดคิวให้เราได้เพราะคนไข้เยอะจึงส่งตัวเราไปตรวจยังรพ.เอกชน
เมื่อตรวจเสร็จเขาส่งผลการตรวจกลับไปยังโรงพยาบาลต้นสังกัด
ภาพจำในรพ.เอกชน เช้าวันนั้น พลุกพล่านไปด้วยคนไข้ ยิ่งเวลาสายมากขึ้นคนไข้ยิ่งทะยอยมามากขึ้น..มีตั้งแต่เด็กสาวไปถึงคนสูงอายุ
ให้ความรู้สึกใจสั่นอย่างบอกไม่ถูก....ทุกคนมาด้วยสีหน้าและแววตาที่เหมือนกันหมด คือ "วิตกกังวล"
หมอที่ตรวจเราในรพ.เอกชน ถามเราว่าอยากถามอะไรมั้ย? เมื่อตรวจเสร็จ
เราตอบว่า "ไม่"...สั่นหัวไปด้วย..
"ไม่" มันคือการปฏิเสธที่ต้องการเยื้อเวลาเท่านั้นเอง...
"ไม่" มันช่วยผ่อนคลายความรู้สึกวืตกกังวลเพียงชั่วคราวเท่านั้นเอง...
โฆษณา