29 ส.ค. 2024 เวลา 02:52 • ความคิดเห็น
พวกเราในยุคนี้มักจะยึดติดกับศัพท์แสงจนซึมเศร้า นอกจากนี้พวกเรายังใช้อารมณ์กันหนักขึ้นกว่าแต่ก่อน ผลพวงเหล่านี้ ล้วนมาจาก "โลกออนไลน์" ที่สามารถนำพาให้ผู้คนไม่ว่าหน้าไหน "ปั่นหัวพวกเราได้อย่างสนุกปากและโดยง่าย"
เราควรทำความเข้าใจก่อนว่า From where does the term 'bullying' come? ที่จริงคำนี้เกิดขึ้นตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 16 ได้รับการสันนิษฐานว่ามาจากภาษาดัทช์ boele ที่แปลว่า lover ดังนั้นอันที่จริงแล้วมันให้ความหมายถึงความสนิทสนมรักใคร่กัน ผู้คนในสมัยนั้นจึงชอบคำนี้มาก ภาษามันก็พัฒนามาตามความคิความรู้สึกผู้คน แล้วนักสื่อสารทางการเมืองก็นำคำนี้มาสร้างความรู้สึกในอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อปลุกเร้าผู้คน
เราไม่สามารถจัดการความคิด หรือปาก หรือใดๆ ของคนอื่นได้ เราทำได้เพียง 2 ทางคือ ยกระดับจิตใจตัวเอง ให้ผ่านสิ่งไร้สาระเหล่านี้ไปให้ได้ ลองถามตัวเองว่า ทำไมเราจึงหมกมุ่นกับมัน? อะไรที่ทำให้มันปั่นหัวเราได้มากกมายขนาดนี้?
"คนที่มีความสุขจริงๆ จะไม่มุ่งทำร้ายคนอื่น ไม่ว่าจะโดยวาจาหรือการกระทำ ที่เขามักทำร้ายคนอื่น ก็เพราะลึกๆแล้ว เขาไม่มีความสุขในชีวิตเลย จึงหาทางออกด้วยการระบายมันออกไป ดังนั้นแท้จริงแล้ว คนเหล่านี้จึงน่าสงสารกว่าคุณ" และทางสุดท้ายก็คือการใช้กฎหมู่ หรือกฎหมาย สำหรับกฎหมู่ก็คือการหาพวกที่คิดเหมือนเราไปรุมประณามคนที่บูลลี่เรา แต่ทำแล้วเราก็จะได้เพียงความสะใจ และพวกเขาก็จะไม่หยุดอยู่แค่นั้น สำหรับกฎหมายก็คือการแจ้งความร้องทุกข์
ความผิดฐานดูหมิ่น” “ผู้ใดดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
ตามประมวลกฎหมายอาญา
โฆษณา