29 ส.ค. เวลา 11:25 • การตลาด

สรุป 11 ข้อ อินไซต์เกี่ยวกับ Facebook - IG จาก Meta ประเทศไทย ไอเดียสำหรับคนทำ การตลาดออนไลน์

วันนี้ เพิ่งมีการจัดงาน Meta Marketing Summit Thailand ประจำปี 2024
โดยในปีนี้มีการเปิดเผยถึงอินไซต์เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งานแพลตฟอร์มของ Meta ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram และ Threads
พร้อมเปิดตัวเครื่องมือ Generative AI ใหม่ สำหรับใช้งานในทุกแพลตฟอร์มของ Meta
แล้วอินไซต์ในปีนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง ? MarketThink สรุปให้อ่านกันเป็นข้อ ๆ
1. ในแต่ละวัน มีผู้ใช้งานแอปพลิเคชันของ Meta อย่างน้อยหนึ่งแอป ประมาณ 3,270 ล้านคน หรือคิดเป็นจำนวนเกือบครึ่งหนึ่ง หากเทียบกับประชากรของทั้งโลกเลยทีเดียว
โดยในปีนี้มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 7% เมื่อเทียบกับผู้ใช้งานในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
2. ผู้ใช้งาน Instagram ส่วนใหญ่ ใช้เวลาไปกับการดูคลิปสั้น (Reels)
โดยคิดเป็นราว 50% ของการใช้เวลาบน Instagram ทั้งหมด
6
หรืออธิบายง่าย ๆ ว่า ใน 1 วัน หากเราใช้เวลาบน Instagram ทั้งหมด 1 ชั่วโมง เราจะใช้เวลาในการดู Reels ไปแล้วกว่า 30 นาทีนั่นเอง
3. ปัจจุบันแอปพลิเคชัน Threads เปิดใช้งานมาครบ 1 ปีแล้ว ซึ่งมีบัญชีผู้ใช้งานทะลุ 200 ล้านคนแล้ว
4. Meta ได้ลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 34,000 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนโครงการหรือการพัฒนาด้าน AI
ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา Meta ก็ได้นำ AI เข้ามาทำงานอยู่ในหลาย ๆ ผลิตภัณฑ์ของบริษัท
รวมถึงกำลังจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Meta AI และ Meta Advantage+ ที่กำลังจะนำมาให้คนไทยได้ใช้งานกัน
5. ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนธุรกิจกว่า 1 ล้านราย ใช้ฟีเชอร์ Generative AI อย่างน้อย 1 ฟีเชอร์ของ Meta เพื่อใช้ในการช่วยสร้างโฆษณา
6. Meta AI เป็น Smart Virtual Assistant โดยเปรียบเสมือนว่า เรามีผู้ช่วยส่วนตัวอยู่ในทุก ๆ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของ Meta อย่างเช่น Facebook และ Instagram
โดยความสามารถของ Meta AI ได้แก่
- Full Image Generation ช่วยสร้างรูปภาพ รวมถึงสามารถเปลี่ยนฉากหลังให้กับรูปภาพ
- Text Generation ช่วยสร้างหัวข้อและแคปชัน ช่วยให้ผู้ใช้งานประหยัดเวลาในการพิมพ์คำอธิบายตัวสินค้าในการลงโฆษณา
- Text Overlay ช่วยสร้างข้อความบนรูปภาพ เพื่อให้การโฆษณาสินค้าน่าสนใจมากขึ้น
- Image Expansion ช่วยปรับขนาดรูปภาพให้เหมาะสมอัตโนมัติ
เช่น ในการโฆษณาสินค้า ผู้ใช้งานสามารถอัปโหลดรูปภาพขนาดใดก็ได้ จากนั้นก็ให้ AI เข้ามาช่วยปรับสัดส่วนรูปภาพให้เข้ากับอัตราส่วนขนาดต่าง ๆ ของแต่ละแพลตฟอร์ม
7. Meta Advantage+ ประกอบด้วย 2 เครื่องมือ AI ได้แก่ Advantage+ Shopping Campaigns และ Advantage Apps+ Campaigns
ทั้ง 2 เครื่องมือนี้ จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการโฆษณาให้ดีขึ้น หรือเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น
เช่น ช่วยดูว่าแต่ละแคมเปญมีกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มไหน และต้องทำโฆษณาอย่างไรให้เหมาะสม
หลังจากนั้น Meta Advantage+ จะเลือกเผยแพร่แคมเปญให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เหมาะสมให้เอง
8. Meta บอกว่า เครื่องมือ Advantage+ Shopping Campaigns จะช่วยเพิ่มรายได้ จากการจ่ายค่าโฆษณา (ROAS) ประมาณ 32%
9. ส่วนเครื่องมือ Advantage Apps+ Campaigns จะช่วยลดต้นทุนค่าดำเนินการลงประมาณ 9%
10. ทุก ๆ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ใช้ไปกับ Meta Advantage+ Shopping Campaigns จะช่วยสร้างรายได้เฉลี่ย 4.52 ดอลลาร์สหรัฐฯ กลับคืนมาให้กับธุรกิจ หรือคิดเป็นสัดส่วนของ ROAS ที่เพิ่มขึ้นกว่า 22% ในช่วงปีที่ผ่านมา
11. นอกจากนี้ Meta ยังมี AI for Business Messaging หรือก็คือ AI ช่วยตอบแช็ตที่สามารถโต้ตอบได้เหมือนคนทั่วไป
โดยสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา เช่น ช่วยในการแนะนำสินค้า ช่วยปิดการขาย ตอบคำถาม รวมถึงสร้างนัดหมาย
ทั้งหมดนี้ คืออินไซต์พฤติกรรมการใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ในเครือ Meta
รวมถึงเครื่องมือ AI ใหม่ของ Meta ซึ่งจะเห็นได้ว่าเครื่องมือ AI ใหม่นี้ จะเข้ามาช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ โฆษณาได้ง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพและสร้างรายได้ได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ Meta Advantage+ เปิดใช้งานแล้วใน 22 ประเทศทั่วโลก แต่ยังไม่มีประเทศไทย
และยังรองรับแค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น
ส่วนคนไทยจะได้ใช้งาน Meta Advantage+ นั้น ก็ต้องรอติดตามกันอีกที..
โฆษณา