เอฟ-๑๖ ในกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์
กองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ (Royal Netherlands Air Force : RNLAF) จะปลดประจำการเครื่องบินขับไล่ เอฟ-๑๖ เอเอ็ม/บีเอ็ม (เอ็มแอลยู) ไฟติ้ง ฟอลคอน (F-16AM/BM (MLU) Fighting Falcon) ที่เหลืออยู่ทั้งหมดอย่างเป็นทางการในวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๗ ซึ่งจะถือว่าเป็นการยุติการปฏิบัติการเครื่องบินขับไล่ เอฟ-๑๖ ของเนเธอร์แลนด์ที่ดำเนินมานานกว่า ๔๕ ปี อย่างเป็นทางการ
F-16A Block 20 MLU หมายเลข J-197 กับแพนหางดิ่งลวดลายพิเศษ
ในโอกาสนี้ เอฟ-๑๖เอเอ็ม ที่นั่งเดียว หมายเลข J-197 จากฝูงบินที่ ๓๑๒ ฐานทัพอากาศโวลเคิล ฝูงบิน เอฟ-๑๖ ฝูงสุดท้ายของกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ได้รับการทำลวดลายพิเศษที่แพนหางดิ่งเพื่อใช้ในพิธีปลดประจำการ โดยจะหมายเลขของฝูงบินต่างๆ ของกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ที่เคยประจำการด้วย เอฟ-๑๖ ตั้งแต่เครื่องบินรุ่นนี้เข้าประจำการในปี พ.ศ. ๒๕๒๒
F-16A Block 1 ชุดแรกของกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ในปี พ.ศ. ๒๕๒๕
กองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ได้จัดหา เครื่องบินขับไล่แบบ เอฟ-๑๖เอ/บี รวมทั้งสิ้น ๒๑๓ เครื่อง เป็นหนึ่งในสี่ชาติแรกของสมาชิกนาโต้ที่จัดหา เอฟ-๑๖ ร่วมกับเบลเยี่ยม เดนมาร์ก และนอร์เวย์ ในครั้งแรกเนเธอร์แลนด์จัดหา เอฟ-๑๖เอ รุ่นที่นั่งเดียว ๑๐๒ เครื่อง และเอฟ-๑๖บี รุ่นสองที่นั่ง ๒๒ เครื่อง ซึ่ง เอฟ-๑๖ ของเนเธอร์แลนด์จะประกอบขั้นสุดท้ายที่โรงงานของบริษัท ฟอกเกอร์ วีเอฟดับบลิว ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ด้วยชิ้นส่วนต่างๆ จากสหรัฐฯ และบางส่วนที่ผลิตโดยเนเธอร์แลนด์
สายการผลิตในเนเธอร์แลนด์เริ่มดำเนินการในเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๒๑ และเอฟ-๑๖ จากสายการผลิตในเนเธอร์แลนด์ขึ้นบินครั้งแรกในวันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๒ การส่งมอบ เอฟ-๑๖เอ/บี ให้กับกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน
ต่อมาในเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ เนเธอร์แลนด์ประกาศแผนการจัด เอฟ-๑๖ เพิ่มเติมอีก ๑๑๑ เครื่อง แบ่งเป็น เอฟ-๑๖เอ ๙๗ เครื่อง และ เอฟ-๑๖บี ๑๔ เครื่อง แผนการจัดหานี้ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาเนเธอร์แลนด์ในเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ เอฟ-๑๖ ลำสุดท้ายออกจากสายการผลิตของโรงงานฟอกเกอร์ในเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๕ และเป็น เอฟ-๑๖ ลำสุดท้ายในจำนวน ๒๑๓ เครื่อง (เป็นรุ่น เอ ๑๗๗ เครื่อง และรุ่น บี ๓๖ เครื่อง) ที่ส่งมอบให้กองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์
เอฟ-๑๖ เอ ของกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ ที่ฐานทัพอากาศโวลเคิล ในเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๒๙
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๖ เนเธอร์แลนด์ตัดสินใจลดจำนวนเครื่องบินขับไล่ เอฟ-๑๖ ของตนลงร้อยละ ๒๕ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๗ เป็นต้นไป โดย เอฟ-๑๖ ที่ยังใช้งานอยู่จะถูกปรับปรุงตามมาตรฐาน เอ็มแอลยู (Mid-Life Upgrade : MLU) แต่จากตัดงบประมาณป้องกันประเทศอย่างต่อเนื่อง จำนวน เอฟ-๑๖ ของเนเธอร์แลนด์ที่ต้องทำการปรับปรุงจึงลดลงจาก ๑๗๐ เครื่อง เหลือ ๑๓๘ เครื่อง เครื่องบินส่วนที่เกินจากความต้องการจะถูกขายต่อให้กับมิตรประเทศ
เมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘ จอร์แดนได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงเพื่อขอซื้อ เอฟ-๑๖ ที่เกินความต้องการของเนเธอร์แลนด์จำนวน ๓ เครื่อง ต่อมามีการเจรจาขอเพิ่มอีก ๓ เครื่อง รวมเป็น ๖ เครื่อง ซึ่งเป็น เอฟ-๑๖บี ทั้งหมด เครื่องบินเหล่านี้จะได้รับการอัพเกรดตามมาตรฐาน เอ็มแอลยู (Mid-Life Upgrade : MLU) ก่อนส่งมอบให้จอร์แดน ในปี พ.ศ. ๒๕๕๒
เอฟ-๑๖เอบี ของฝูงบินที่ ๓๒๒ กองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ ขณะจอดอยู่ที่ฐานทัพอากาศอเมนโอลา ประเทสอิตาลี ระหว่างปฏิบัติการ Allied Force ในการทิ้งระเบิดในยูโกสลาเวีย ซึ่งเป็นการปฏิบัติการร่วมของชาติสมาชิกนาโต้ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๒
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ ชิลีได้ลงนามในการจัดหา เอฟ-๑๖ มือสองจำนวน ๑๗ เครื่อง จากนเธอร์แลนด์ แบ่งเป็นรุ่น เอ ๑๐ เครื่อง และรุ่น บี ๗ เครื่อง เครื่องบินเหล่านี้จะได้รับการอัพเกรดตามมาตรฐาน เอ็มแอลยู ก่อนส่งมอบให้ชิลี ระหว่างเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙ ถึงเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๐ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ขิลีได้จัดหา เอฟ-๑๖ ฝูงที่สองจากเนเธอร์แลนด์จำนวน ๑๘ เครื่อง โดยทั้งหมดเป็นรุ่น เอ และได้รับการอัพเกรดตามมาตรฐาน เอ็มแอลยู ก่อนส่งมอบให้กับชิลีในระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๕๓ – ๒๕๕๔
ปัจจุบัน ฝูงบินที่ ๓๑๒ มี เอฟ-๑๖เอเอ็ม ประจำการอยู่ ๒๐ เครื่อง ขณะเดียวกันยังมี เอฟ-๑๖เอเอ็ม ๗ เครื่อง และเอฟ-๑๖บีเอ็ม อีก ๗ เครื่อง ของกองทัพเนเธอร์แลนด์ประจำการอยู่ที่ศูนย์ฝึก เอฟ-๑๖ ของยุโรป หรือ EFTC ในประเทศโรมาเนีย นอกจากนี้ยังมี เอฟ-๑๖เอเอ็ม ของเนเธอร์แลนด์อีก ๔ เครื่อง อยู่ระหว่างการปรับปรุงในโรงงานที่ประเทศเบลเยี่ยมเพื่อส่งมอบให้กับกองทัพอากาศยูเครนในเร็วๆ นี้ มีการคาดหวังกันอย่างมากว่า เอฟ-๑๖เอเอ็ม ของฝูงบินที่ ๓๑๒ หลังจากปลดประจำการแล้วจะถูกส่งมอบให้กับยูเครนก่อนกลางปี พ.ศ. ๒๕๖๘ นี้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
