พระตถาคตไม่ทรงพูดถึงบ่อยครับ เพราะถ้าพูดว่าเธอได้ฌานขั้นนั้น ขั้นนี้ จิตสังขารก็จะไปปรุงค่าและอุปโลกน์ให้ค่ายึดมั่นไว้ว่า ได้มาแล้วนะ หรือ ยังไม่ได้มาเสียทีนะ ที่นี้ความคิดแบบนี้แทนที่จะช่วยในความเพียร แต่ดันแปรสภาพกลายเป็นนิวรณ์ขัดขวางความสว่างของจิตซะงั้น แทนที่จะเกิดปัญญา ใจกลับมีถีนมิทธะอุทธัจจะกุกกุจจะแทน คือมีความแป้ว ความหดหู่ ฟุ้งซ่านไปแทน ก็พอดีไปไม่ถึงปัญญาที่จะพิจารณาสภาวะธัมม์ พระตถาคตจึงไม่ได้เน้นให้ค่าฌานครับ แต่ให้ค่าความเพียรมากกว่า ใครละนันทิได้ถ้วน คนนั้นแหละครับชนะสมมติแล้ว