30 ส.ค. เวลา 07:20 • ความคิดเห็น
เรื่องราวของพระพุทธศาสนา มันเป็นเรื่องราวของจิต การเดินทางของจิต ที่มาเกิดๆตายๆ ในกายมนุษย์ ใช้กายมนุษย์อย่างไร ..ในเมืองมนุษย์ เป็นสถานที่ ที่ไปเลือกได้ เลือกไปที่ทุกข์ ไปเป็นเปรตอสุรกาย หรืจะไปนรก หรือจะที่สุข มีกายเป็นบุญ กายเทพยดาอินทร์พรหม ก็ไปจากเมืองมนุษย์ ..ผู้ที่มีกายเป็นมนุษย์ จะเลือกเอา
การที่เกิดมาในดินแดนพระพุทธศาสนา มันก็มีเรื่องราวของมนุษย์ ให้เราดูเป็นตัวอย่าง ว่าเค้ากำลังเลือกไปสู่เส้นทางใด เค้าจะเป็นบัณฑิต เป็นหมอ เป็นนักการ .มากมายก่ายกอง ที่อยากจะเป็น แต่มนุษย์ทุกรูปทุกนาม ก็ต้องมีภาระ ต้องใช้อารมณ์..โลภโกรธหลง มีพอใจไม่พอใจ หรือว่า นักปรัชญา ไม่มีอารมณ์เหล่านั่นหรือ
..เป็นนักอะไรก็แล้ว ก็เอาน้ำเลือดน้ำหนอง ของสัตว์ที่มีกรรม มาประทังชีวิต ไปกินเนื้อเค้า บางก็บ่นเสียอีก ติดเตียงเนื้อกรรมของเค้า บ้างก็ชอบอกชอบใจ .เนื้อเป็ดเนื้อหมูที่เค้าไปจิกกินตัวหนอน กัดกินต้นหญ้า ..มาหล่อเลี้ยงกายกรรมของเค้า หรือ ว่าผู้ที่ปราชญ์เป็นบันฑิต มองไม่เห็น เป็นบันฑิต เป็นปราชญ์ แล้วท่านเหล่านั้น ไม่เจ็บไม่ป่วยตายกระนั้นหรือ
เส้นทางของผู้ที่เกิดมา สนใจรอยคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เค้าก็มีนิสัยสะสม มาแต่อดีต มิใช่ว่า จะมาสนใจสร้างบุญกุศลบารมีกันแค่ชาตินี้
เรืองราวของการเดินตามปฏิบัติธรรมตามรอยคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เค้าสะสมกันมา หลายชาติ ..เอา..อย่างยุคนี้ ไสยศาสตร์มันรุ่งเรือง เราก็ได้เกิดมาเรียนรู้จักว่า ทำไมพระท่านไม่ให้ไปยุ่งไปเกี่ยว ไปพัวพัน เรื่องราวเหล่านี้ มันจะทำให้ตกนรก
เราก็ได้เรียนรู้จักขึ้นมา เพราะเรารู้จัก สัมผัสเรื่องราวเหล่านี้ ว่าแท้จริงมันเป็นทุกข์ มันแสบร้อน สิ่งที่ทำให้แสบร้อน มาจากเรืองราวเหล่านี้ เราก็ถอยออกมา นั่นก็ทำให้ เรารู้จักเรื่องราวไสยศาสตร์ ว่าแท้จริงมันเป็นอย่างไร มันทำใหจิตตดนรก เพราะเหตุอะไร ..เรามองเข้าใจได้ รู้จักได้ประจักษ์ เราก็ละ ..เพราะมันเป็นเรื่องที่จะทำให้จิตมีทุกข์จมอยู่กับทุกข์ เราก็ละมัน
คราวนี้เราไปดู ที่เค้ารู้ปรัชญา เค้าก็อ่านคำภีร์ตำรับตำราปรัชญาต่างๆ จะไปเข้าใจ บรรยาย ไปตามอารมณ์ ..ของนักปรัชญา แล้วก็นิยมชมชอบกัน ส่วนรอยคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรื่องการสร้างบุญกุศลบารมี จิตทุกดวง ทีมีกายพ่อแม่ดี ครบอาการสามสิบสอง มีสติปัญญา เรียนรู้จักได้ ทุกคน
..เพราะมีกายเป็นมนุษย์เหมือนกัน สามารถใช้กายนี้ มาเป็นสถานที่ฝึกหัด ที่สร้างบุญกุศล นำกายนีมากราบพระ สวดมนต์ ภาวนาเดืนจงกรม นั่งสมาธิ จิตที่ไม่ได้ไปเรียนรู้คำภีร์ตำราปรัชญาอะไรมายิ่งดี เพราะสัญญาจดพวกนั้น ก็ไม่มี .เกิดขึ้นมาปรุงแต่ง คัดค้านจิต..ไม่ให้สร้างบุญกุศล
การประพฤติปฏิบัติธรรม นั้น จิตต้องมีขันติอดทน เมื่อไม่อดทน มันก็ทน ที่จะเอากาย มายืน มานั่ง มานอน ประพฤติปฏิบัติธรรม .จิตมันก็เลย เรียนรู้ไปตามรอยคำสอน ตามรอยท่านไม่ได้ ..พระท่านบอกว่า แล้วพบกันที่จิต จิตที่ว่างๆ ไม่มีอะไรเลย เราจึงเพียรพยายามปฏิบัติธรรมของเราไป ..ให้จิตพบพระ ..
เรื่องราวของการประพฤติปฏิบัติธรรม เดินตามรอยคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ..มันเกี่ยวเนี่ยง นิสัยในอดีตที่เคยทำมาด้วย หากนิสัยในอดีตไม่ได้ สะสมมาก เกิดมาเจอะเจอ ร่องรอยคำสอน ..เค้าก็ผ่านเลยไป ไม่สนใจ เพราะสัญญาเก่า ..ไม่มี หรือ มีมามากน้อยก็ไม่เท่ากันเสียอีก
..มันจึงมีเรื่องราว ที่ผู้ที่ตั้งตน เป็นศาสดาเสียเอง มีมามาก เหมือนรูปเกจิอาจารย์ท่องบ่นคาถาอาคม ไปตั้งไว้ หน้าพระพุทธ .ปิดบังคำสอนพระพุทธเจ้า เอานี่ไปสิ ..ไปบูชา ..ร่ำรวยยศฐานบรรดาศักดิ์ ..ไปให้เค้ายึดอยู่อย่างนั้น เรื่องคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่มี ..มีแต่ส่งวัตถุให้เค้ายึดถือ
โฆษณา