30 ส.ค. เวลา 16:23 • ท่องเที่ยว
กิออน

เกอิชา: ศิลปะแห่งความงามและวัฒนธรรมญี่ปุ่น

บทนำ
เกอิชา (Geisha) เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลกในฐานะศิลปินหญิงที่มีทักษะสูงในด้านการแสดง การร่ายรำ การเล่นดนตรี และการสนทนา เกอิชาไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้หญิงที่ให้ความบันเทิง แต่เป็นตัวแทนของวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่มีความละเอียดอ่อนและศิลปะที่ลึกซึ้ง เนื้อหานี้จะกล่าวถึงประวัติความเป็นมา กระบวนการในการเป็นเกอิชา บทบาทและหน้าที่ของเกอิชาในสังคม รวมถึงชีวิตส่วนตัวของเกอิชา
ประวัติความเป็นมาของเกอิชา
อาชีพเกอิชาเริ่มมีขึ้นในสมัย เอโดะ (Edo period) ของญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในช่วงประมาณปี 1603 ถึง 1868 ช่วงนี้เป็นยุคที่ญี่ปุ่นอยู่ภายใต้การปกครองของโชกุนโทคุงาวะ (Tokugawa Shogunate) ซึ่งเป็นยุคที่มีการพัฒนาและรักษาสันติภาพในประเทศ ทำให้ศิลปะและวัฒนธรรมเจริญรุ่งเรือง
เมืองเกียวโต เอโดะ (ปัจจุบันคือโตเกียว) และโอซาก้าเป็นศูนย์กลางของศิลปะและวัฒนธรรม บริเวณที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับศิลปะการแสดงและบันเทิง เช่น โยชิวาระ (Yoshiwara) ในเอโดะ และชิมาบาระ (Shimabara) ในเกียวโต กลายเป็นสถานที่ที่เกอิชาเริ่มเกิดขึ้นและเติบโต
ในช่วงเริ่มต้น อาชีพเกอิชาเริ่มต้นมาจาก ผู้ชาย ที่ทำหน้าที่บันเทิงและแสดงศิลปะให้กับผู้มาเยี่ยมชมสถานที่บันเทิงหรือโรงน้ำชา (Ochaya) ต่อมา ผู้หญิง เริ่มเข้ามามีบทบาทในอาชีพนี้มากขึ้น จนกระทั่งผู้หญิงกลายเป็นผู้ที่นิยมและถือว่าเป็น "เกอิชา" อย่างที่เราเข้าใจในปัจจุบัน
เส้นทางการเป็นเกอิชา
เส้นทางการเป็นเกอิชาเป็นกระบวนการที่ยาวนานและเข้มงวด ต้องการการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและความทุ่มเทสูง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นหลายขั้นตอน ดังนี้:
การเริ่มต้นเป็นชิโกะ (Shikomi):
เด็กสาวที่สนใจจะเป็นเกอิชาจะต้องเข้าไปอยู่ในบ้านฝึกเกอิชา (โอคิยะ - Okiya) และเริ่มต้นเป็นชิโกะ ซึ่งเป็นเด็กฝึกหัดที่ทำงานรับใช้และเรียนรู้วิถีชีวิตของเกอิชา รวมถึงการเรียนรู้มารยาท การดูแลตัวเอง การแต่งตัว และการทำงานบ้านในโอคิยะ
การเป็นไมโกะ (Maiko):
หลังจากผ่านการฝึกหัดเบื้องต้นเป็นชิโกะแล้ว เด็กฝึกหัดจะได้รับอนุญาตให้เป็นไมโกะ ซึ่งเป็นเกอิชาฝึกหัดในขั้นต่อไป ไมโกะจะมีการแต่งกายที่โดดเด่นด้วยชุดกิโมโนสีสันสดใสและโอบิที่ยาวกว่าของเกอิชาที่เป็นผู้ใหญ่ พวกเธอจะสวมวิกและเครื่องประดับผมที่สวยงาม และทาหน้าขาวด้วยเครื่องสำอางเฉพาะตัว ในช่วงนี้ไมโกะจะเรียนรู้ศิลปะการแสดง เช่น การร่ายรำ การเล่นดนตรี และการร้องเพลง รวมถึงการฝึกทักษะในการสนทนาและการเข้าสังคม
การเป็นเกอิชาฝึกหัด (Minarai):
หลังจากการเป็นไมโกะมาสักระยะหนึ่ง ไมโกะจะเริ่มเข้าสังคมและฝึกฝนในสถานการณ์จริง โดยมีเกอิชารุ่นพี่เป็นผู้ให้คำแนะนำ แต่ยังไม่ต้องรับผิดชอบเต็มตัวเท่ากับเกอิชาที่สมบูรณ์
การเป็นเกอิชาเต็มตัว:
เมื่อไมโกะเรียนรู้และฝึกฝนศิลปะต่าง ๆ จนชำนาญแล้ว เธอจะทำพิธีเรียกว่า "เอริกาเอะ" (Erikae) หรือพิธีเปลี่ยนจากไมโกะมาเป็นเกอิชาเต็มตัว เกอิชาที่สมบูรณ์จะแต่งกายด้วยชุดกิโมโนที่เรียบง่ายและหรูหรา พร้อมกับทรงผมที่เป็นทางการและแต่งหน้าน้อยกว่าไมโกะ เน้นความสง่างามและความเป็นผู้ใหญ่
การทำงานเป็นเกอิชา:
เกอิชาจะทำงานในฐานะศิลปินบันเทิง โดยแสดงศิลปะการร่ายรำ ดนตรี และการสนทนาในงานเลี้ยงและโอกาสต่าง ๆ เกอิชาที่ประสบความสำเร็จจะต้องมีชื่อเสียงในด้านทักษะและความสามารถ รวมถึงบุคลิกภาพที่โดดเด่นและความสามารถในการสร้างความพึงพอใจแก่แขกที่มาร่วมงาน
บทบาทและหน้าที่ของเกอิชาในสังคม
เกอิชามีบทบาทสำคัญในสังคมญี่ปุ่นในฐานะศิลปินบันเทิงที่เชี่ยวชาญในการแสดงศิลปะและการสนทนาอย่างมีศิลปะ เกอิชาจะถูกเชิญไปงานเลี้ยง งานประชุม หรือโอกาสพิเศษต่าง ๆ เพื่อให้ความบันเทิงแก่แขกที่มาเยี่ยมชม ศิลปะของเกอิชาประกอบด้วยการร่ายรำ การเล่นเครื่องดนตรี เช่น ชามิเซ็ง (Shamisen) และโคโตะ (Koto) การร้องเพลง และการสนทนาที่น่าสนใจและมีเสน่ห์
นอกจากนี้ เกอิชายังต้องมีทักษะในการเข้าสังคมและความสามารถในการจัดการกับสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างชาญฉลาด เกอิชาที่มีความเชี่ยวชาญจะสามารถสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรและอบอุ่น ทำให้ผู้ที่มาร่วมงานรู้สึกผ่อนคลายและเพลิดเพลิน
การใช้หนี้และความทุ่มเทในอาชีพเกอิชา
เกอิชาต้องเผชิญกับการสะสมหนี้สินในช่วงที่เป็นเด็กฝึกหัดหรือไมโกะ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการฝึกฝนและดูแลจากโอคิยะ เช่น ค่าเล่าเรียนศิลปะ ค่าแต่งกาย และค่าเครื่องประดับ ซึ่งเมื่อเกอิชาเริ่มทำงานและมีรายได้แล้ว พวกเธอจะต้องใช้หนี้ที่สะสมไว้นี้ผ่านการแบ่งรายได้ระหว่างเกอิชาและโอคิยะ ระยะเวลาการใช้หนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนหนี้สินและความสำเร็จในการทำงานของเกอิชาแต่ละคน
การแต่งงานและชีวิตส่วนตัวของเกอิชา
เกอิชามีข้อห้ามในการแต่งงานหากยังอยู่ในโอคิยะ เนื่องจากการแต่งงานอาจทำให้เกอิชาไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ เกอิชาบางคนอาจมีผู้สนับสนุนที่เรียกว่า "ดันนะ" (Danna) ซึ่งเป็นผู้ชายที่ให้การสนับสนุนทางการเงิน แต่ความสัมพันธ์นี้ไม่ถือเป็นการแต่งงาน และดันนะไม่ได้เป็นสามีในความหมายทั่วไป
หากเกอิชาตัดสินใจแต่งงาน พวกเธอมักจะต้องออกจากอาชีพและโอคิยะ และไม่สามารถทำงานเป็นเกอิชาได้อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม หากเกอิชาหย่าร้างหรือเป็นหม้าย การกลับมาเป็นเกอิชายังเป็นไปได้แต่ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและความพร้อมของแต่ละบุคคล
สรุป
เกอิชาเป็นศิลปินบันเทิงที่เป็นตัวแทนของวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ลึกซึ้งและละเอียดอ่อน บทบาทของเกอิชาไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิง แต่ยังสะท้อนถึงความทุ่มเทในศิลปะและการดำรงชีวิตที่มุ่งมั่น เกอิชามีความสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมญี่ปุ่น และยังคงเป็นที่เคารพนับถือจนถึงปัจจุบัน
โฆษณา