30 ส.ค. เวลา 16:59 • ดนตรี เพลง

[รีวิวอัลบั้ม] F-1 Trillion - Post Malone >>> ลูกทุ่งอเมริกัน 101

-ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้พูดถึงวงการคันทรี่มากนัก เว้นแต่เบอร์ใหญ่เค้าลงมาเล่นกับเลนนี้จริงๆ ซึ่งครั้งล่าสุดก็คือ COWBOY CARTER ของ Beyoncé ที่ดันมีความบังเอิญบางอย่างตรงที่แขกรับเชิญอย่าง Post Malone มาร่วมแจมในเพลง LEVII’S JEANS ไม่รู้ว่าเลือกรับงานคันทรี่โดยเฉพาะหรือไม่ แต่นับว่าการได้แจมกับศิลปินเบอร์ใหญ่ในบรรยากาศคันทรี่เป็นการปูทางที่ดีสู่อัลบั้มเต็มที่นาย Austin จงใจ represent ในยุคสมัยใหม่นี้ได้อย่างแนบเนียน
-ดูเหมือนว่า แนวเพลงคู่ร้านเหล้าและโรงเบียร์ตะวันแดงจะสอดรับกับคาแรคเตอร์ไอ้หนุ่ม Austin ซะเหลือเกิน และเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าไปเล่นเลนนี้ก่อนที่จะมีศิลปินป๊อปท่านอื่นตามมาอีกเพียบจนมันเป็นเทรนด์ที่ทำตามกันจนเกร่อ เพราะคันทรี่ป๊อป ณ ตอนนี้กลับมาบูม viral ทั่วโลก ไม่ได้วนอยู่แค่อเมริกาเท่านั้น
-เวลาผมรีวิวผลงานของนาย Austin ทีไร ผมมักจะระบุความเป็นแรปเปอร์สายไฮบริดอยู่เสมอ แวะไป Trap R&B Pop บ้าง เน้นทำตามความรู้สึกล้วนๆ แลดูเป็นฮิปฮอปพันทางด้วยซ้ำ แต่แกมีความเฉพาะตัวบางอย่างที่แรปเปอร์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมี แกมีพรสวรรค์ด้านกีตาร์โปร่งแบบเดียวกับ Ed Sheeran เป็นมาตลอด แต่ไปทางสากกว่า กรีดกรายกว่า เมากว่า แซดบอยกว่า (hahaha)
-จุดร่วมแห่งความอคลูสติคกีตาร์โปร่งก็คงจะไม่มีอะไรเหมาะไปกว่า Folk หรือ Country อีกแล้ว อันที่จริงแล้ว เจตจำนงที่แกอยากเบนเข็มมาเป็น Country มีมาตั้งแต่สเตตัสในทวิตเตอร์เมื่อปี 2015 ที่มีใจความว่า “ในวัย 30 ผมจะได้กลายเป็นศิลปินเพลงโฟล์ค/คันทรี่” แต่ในปัจจุบันแกอายุ 29 ปี ก่อนเป้าหมาย 1 ปี เป็นการบรรลุเป้าหมายได้ไวเกินคาด
-จุดเริ่มต้นร่างใหม่ในคันทรี่ของนาย Austin ก็เริ่มจากการซึมซับอิทธิพลตั้งแต่เด็กๆจากการที่พ่อเปิดให้ฟังตามปกติ แล้วคงเกิดความ nostalgia ดันนึกถึง เลยลุกขึ้นมา cover เพลงคันทรี่ไปเรื่อย แต่ cover ของ Brad Paisley เป็นโมเมนต์ที่น่าจดจำที่สุดเพราะได้รับชื่นชมจากรุ่นใหญ่ ซึ่งต่อมาก็ได้มาร่วมงานในอัลบั้มนี้ทั้งฐานะ feature และ co-writer เพลงอื่นในอัลบั้มด้วย
-ความชอบไปเรื่อยจนมาจบที่แนวทางคันทรี่ในครั้งนี้ก็เป็นเรื่องน่ายินดีที่เจ้าตัวแลดูมีความสุขกับการค้นพบแนวทางนี้ คนฟังอย่างเราสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานบวกอย่างเต็มเปี่ยม แลดูเจื้อยแจ๊วตลอดการฟังโดยที่ไม่รู้สึกตะหงิดในความฝืนที่จะเป็นแต่อย่างใด
และนั่นก็เป็นงานที่ดีกว่าสองอัลบั้มก่อนหน้านั้นอย่างน่าพึงพอใจ โดยเฉพาะการเน้นความชัดเจนในการจับแก่นใดแก่นนึง ซึ่งเป็นสิ่งที่สองอัลบั้มที่ผ่านมายังไม่มี ทั้ง Twelve Carat Toothache ที่เริ่มจะเหยาะแหยะ Austin เมื่อปีที่แล้วก็คลีนจืดชืดเสียจนแทบจะจับต้องอะไรไม่ได้เลย
-ถึงแม้ F-1 Trillion ยัง new in the game แต่ก็เริ่มต้นด้วยการเป็นนักเรียนดีโรงเรียนคันทรี่พอสมควร ตอนแรกที่คิดจะทำอัลบั้มคันทรี่ออกมา เจ้าตัวก็ไม่แน่ใจและเกิดความไปไม่เป็นจึงไม่รีบปล่อยออกมาตามแพลนดั้งเดิม ซึ่งก็เป็นที่น่าเสียดายที่อัลบั้ม Austin มาด้วยความรู้สึก “ฆ่าเวลา” แทนที่จะเว้นว่างเพียงแค่ปีเดียวเพื่อจะได้เจออัลบั้มคันทรี่ชุดแรกในชีวิตไปเลย
-ยังดีที่เซนส์ความไปต่อไม่เป็น เริ่มต้นไม่ถูก ทำให้นาย Austin ตัดสินใจเดินทางไปเมือง Nashville เมืองหลวงเพลงคันทรี่ เพื่อไปซึมซับบรรยากาศ ไปขอความช่วยเหลือจากศิลปินโรงเรียนคันทรี่โดยตรงให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้นในการศึกษาไปพร้อมๆกับฝึกวิชาเอื้อนลูกคอคันทรี่ ทำเพลงร่วมกับสหายหน้าใหม่ในวงการคันทรี่ยันสว่าง
-การเปิดตัวในสายคันทรี่ครั้งนี้จึงต้องพึ่งตัวช่วยที่มากพิเศษ เห็นได้จากแขกรับเชิญประดับ feature แทบทุกเพลง หว่านล้อมได้ทั้งรุ่นเดอะและดาวรุ่งรุ่นปัจจุบันมาได้ค่อนวงการ รวมถึงเครดิตแต่งเพลงในแต่ละเพลงก็มีศิลปิน feature มาร่วมด้วยช่วยแต่งทั้งพาร์ทแจมของตัวเองและเพลงที่คนอื่นแจมด้วย
-บุคลากรเยอะจนรถกระบะ Ford T-150 ไม่น่าจะขนพอ และอาจจะโดนจับฐานขนคนเกินขนาด แกเลยเติมศูนย์เว่อร์ๆ 12 ตัวเป็นลีมูซีนคันยาวสัดๆเป็นการ flex ถึงเงินหนารวยเพื่อนไปเลย ในเพลง Finer Things มีการ mention สื่อความหมายถึงไตเติ้ลนี้ด้วย
-จะว่าไปอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่จับต้องได้ในทุกๆผลงานของ Posty ที่ผ่านมาเลยคือ การเลือกหยิบจับไอเท็มโปรดปรานใกล้ตัวมาพรรณนาและเอาเป็นชื่ออัลบั้ม แกคือศิลปินจำพวกไม่ได้เอาคอนเซ็ปท์มาครอบงานอัลบั้มเป็นเรื่องเป็นราวมากนัก ยกเว้น Hollywood Bleeding ที่ถ่าง scope ให้กว้างเพื่อบอกเล่าชีวิตชื่อเสียงอันแสนวุ่นวาย
-อัลบั้มนี้แกก็เลือกไอเท็มรถกระบะ Ford T-150 มา represent บนปกอัลบั้ม จับใส่เครนแล้วเอียงสะท้อนกับแม่น้ำ ซึ่งรถกระบะรุ่นนี้ก็เคยโผล่แว๊บๆในอัลบั้ม Austin ถ้าสังเกตจะจอดอยู่ตรงริมสระ แต่เป็นคนละสี นั่นก็บ่งบอกถึงความคลั่งไคล้รถกระบะรุ่นนี้อย่างแรง เพราะฉะนั้น F-1 Trillion ไม่ซับซ้อนทางคอนเซ็ปท์ ไม่ต้องเสียเวลาตีความหน้าปกอัลบั้มให้เสียเวลา จงโอบกอดความบันเทิงแบบคันทรี่ ประหนึ่งเรากำลังฟัง compilation album ที่ Posty ขอฝากเนื้อฝากตัวแก่รุ่นพี่คันทรี่ทั้งหลายก็เท่านั้น (ขอสลับเรียก Posty บ้าง)
-แค่สองแทร็คแรกก็เล่นรุ่นใหญ่เลยครับ ทั้ง Tim McGraw ในเพลง Wrong Ones ที่ใส่ความเข้มคลังพร้อมกับจัดเต็ม full band อย่างเข้มข้นทิ้งท้าย Outro และ Hank Williams Jr. ในเพลง Finer Things ซึ่งในยุคที่ Posty เดบิวต์ช่วงแรกในเวอร์ชั่นผมยาวไร้รอยสักบนใบหน้าก็เคยโดนมีมแซวความเหมือนลุง Hank สมัยหนุ่มๆ จนนึกว่าเป็นพ่อลูกกันด้วยนะครับ ในที่สุดพ่อลูกในมีมครั้งนั้นก็ได้บรรจบพบเจอในเพลงนี้จนได้ ซึ่งพ่อลูก(ปลอม)ก็ flex ความเป็นร็อคสตาร์ตามวัยวุฒิกันอย่างไม่น้อยหน้า
Hank Williams Jr. ภาพบน Post Malone ช่วงเดบิวท์ ภาพล่าง
-รุ่นใหญ่ระดับไอคอนป้า Dolly Parton ร่วมประสานเสียงโชว์ความเสี่ยวในเพลง Have The Heart และยังมี Brad Paisley รุ่นใหญ่ที่ออกปากชมเองตอนที่ Posty คัฟเวอร์เพลงฮิตของเขาเอง I’m Gonna Miss Her (The Fishin’ Song) ตามที่ได้เกริ่นไว้พารากราฟก่อนหน้านั้น ไม่พลาดมาร่วมแจมในเพลงเอาใจคนโดนเทอย่าง Goes Without Saying
-คันทรี่สตาร์สุดฮอต Bro-Country ตัวพ่อ Morgan Wallen ร่วมแจม I Had Some Help ก็นำพาซึ่งอันดับ 1 Billborad Hot 100 ไปตามระเบียบกับการร่วมด้วยช่วยแชร์ปัญหาอันแสนอึดอัดของมนุษย์ผัวที่มักโดนเมียบ่นและป้ายความผิดเป็นประจำ ทั้งๆที่ความผิดที่เกิดขึ้นอาจเป็นปัญหาที่คนสองคนร่วมกันตัดสินใจก่อก็เป็นได้ รุ่นพี่ดาวค้างฟ้า Blake Shelton ก็มาร่วมวงก๊งเหล้าในเพลง Pour Me A Drink แชร์ความฟีลกู๊ดสุด carefree ง่ายๆสไตล์หนุ่มชนบท
-another พี่หมี Luke Combs ร่วมแจมมากสุด 2 เพลงแถมยังมีเครดิตร่วมแต่งเพลงอื่นๆที่ตัวเองไม่ได้แจมหลายเพลงด้วย โดย 2 เพลงที่แจมในฐานะฟีทเจอร์ก็มี Missin' You Like This ให้ฟีลคิดถึงคนเก่า ในขณะที่ชีวิตก็ดำเนินต่อไปตามปกติ ซึ่งนั่นก็ตอกย้ำว่าเป็นแค่ความเหงาพาไปก็เท่านั้น
-ทีเด็ดอยู่ที่ซิงเกิ้ลที่สาม Guy for That ซึ่งผมชอบเพลงนี้เป็นพิเศษตรงที่ฮุกแข็งแรงโดนใจ hit note ตั้งแต่แรกฟัง แต่แอบเสียดายที่ repeat hook แค่ 2 รอบเท่านั้นเลยรู้สึกผ่านไปไวเป็นพิเศษ และเป็นเพลงสอนใจได้โคตรดีเลยนะ ต่อให้มี connection มากมายที่สามารถพึ่งพาคนอื่นช่วยเหลือได้ทุกสิ่งอย่างมากแค่ไหน แต่เรื่องหัวใจคงไม่มีใครสามารถซ่อมแซมเศษใจเหลือๆได้จริงๆ ถ้าหากน้องมาหาพี่เพื่อช่วยหาใครก็ได้ที่ฮีลใจอันแตกสลายของน้องได้ ไม่มีทางหรอกจ้าคนสวย ในเอ็มวีก็ชวนนึกถึงรายการสาระแนเลยครับ
-Losers เพลงที่ได้ Jelly Roll มาร่วมแจมก็ประจวบเหมาะกับช่วงที่เขากำลังได้รับสปอตไลท์จากการไปแจมเพลง Somebody Saves Me ของ Eminem ซึ่งได้ถูกตัดเป็นซิงเกิ้ลพร้อมเอ็มวีเมื่อไม่นานนี้ ถือเป็นเพลงที่พึ่งชั้นดีของคนชายขอบที่ไม่มีที่ไป บ้านอาจจะไม่ใช่สถานที่ดีที่สุด แต่มันก็จะมีอยู่ซักแห่งหนนึงที่คนขี้แพ้ทั้งเธอและฉันได้มารวมตัวกันจนได้ เพลงสไตล์บัลลาดที่ท่อนฮุกก็แข็งแรงพอที่จะจึ้งใจตั้งแต่แรกฟังได้เลย
-California Sober ที่ได้น้าเข้ม Chris Stapleton มาร่วมแจมก็สามารถมอบความสนุกสุดสวิงริงโก้ M-E-X-I-C-O เพลงสไตล์คอมเมดี้ที่เล่าเรื่องความซวยที่ได้เจอสาวหลายรูปแบบ ทั้งคนถูกสเป็คที่มีพ่อจอมบงการและไล่เขาไปด้วยการจ่ายเงินก้อนโต จากนั้นเขาก็ใช้เงินที่ได้ไปเปย์ให้นักเต้นระบำเปลื้องผ้า หวังจีบเขา แต่ผัวตัวจริงก็โผล่มาพร้อม AK-47 จะล่อเข้าให้ เกือบหลับแต่กลับมาได้ เจอสาวใหม่ที่ดูทรงแล้วน่าจะรวย แต่ที่ไหนได้กระเป๋า suitcase ที่เธอถือกลับซุกซ่อนโคเคนเต็มกระเป๋า เขาเลยซวยไปตามระเบียบ
-ในพาร์ทโซโล่เพลงเดี่ยวมีอยู่แค่ 3 เพลงเท่านั้น ถูกใจเข้าเป้าสองเพลง อาทิเช่น Right About You เป็นอคลูสติคสุดโรแมนติกของคนที่อยากจะเปลี่ยนตัวเอง ลดความเป็น Bro-Country เพื่อเธอโดยเฉพาะ ที่ผ่านมาเคยร้องและแต่งเพลงเกี่ยวกับหญิงยาปลาปิ้ง เมื่อได้เจอเธอก็พร้อมเปลี่ยน mindset หาคำหวานๆเสนาะหูมาร้องให้เธอฟัง
-ปิดท้ายด้วยเพลง Yours ที่บ่งบอกความเป็นพ่อคนที่รักและหวงลูกสาววัย 2 ขวบเสียจนไม่อยากจะคิดถึงวันที่ลูกสาวได้แต่งงาน ขนาดผมยังไม่ได้เป็นพ่อคน Posty บิ้วด์คนฟังอย่างผมให้ซึ้งน้ำตาตกในได้เหมือนกันนะ โดยเฉพาะประโยค It's crazy thinkin' one day, she'll be someone else's world อื้อหือ I feel you very much kub Austin. ในขณะเดียวกันก็ยื่นคำขาดถึงว่าที่สามีของลูกสาวเขาในอนาคตไว้ว่า ต่อให้ส่งต่อลูกสาวให้นายแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเป็นของนายได้โดยตลอดเช่นกัน กูก็รักของกูมานานเหมือนกัน
-ด้วยความที่เพลงโซโล่ตัวเองมีสัดส่วนน้อยนิดไม่ถึง 10 เปอร์เซนต์ด้วยซ้ำ การมีแขกรับเชิญมาประดับ feature เยอะๆ ใช่ว่าจะมีสีสันแห่งความวาไรตี้เสมอไป โดยเฉพาะกับอัลบั้มนี้ 18 แทร็คจึงมากเกินไป ทั้งๆที่ตัวเองก็ผ่านแนวทางฮิปฮอปมาแล้ว น่าจะมีการแอบๆผสมผสานลงไปบ้าง กลัวด่าว่าอิงแอบฮิปฮอปในคราบคันทรี่ก็กะไรอยู่ ทั้งๆที่แกเองก็เพิ่งถูกเลือกโดย Beyoncé ตัวแม่ที่ได้รับการยอมรับจากชุมชนคนดำเชียวนะเว้ย ไม่คิดจะตัดรสหน่อยรึไง
-ด้วยความที่ Country-Pop ก็วนอยู่แต่ลูกเล่นไวโอลิน-แบนโจ สำเนียงกีตาร์เอื้อนไม่กี่รูปแบบ ต่อให้จะมีแขกรับเชิญไม่ซ้ำหน้าก็ตาม แต่พวกเขาร้องเพลงลูกเอื้อนมาแทบทั้งชีวิต สไตล์เลยขี่ๆกันจนเป็นปัญหางูกินหางที่วนลูปมาที่ความเหมือนๆกันหมดที่ชวนเลี่ยนได้ ขนาดศิลปินคันทรี่ผู้ชายเนี่ยมาทางโขงเข้มกันทั้งนั้น ผมยังแยกความแตกต่างไม่ออกเลยครับ และทำให้ Post Malone ไม่ได้ฉายแสงโซโล่เดี่ยวใดๆเลย
-เพลงเดี่ยวในพาร์ทปกติถือว่าทำได้ดีและแข็งแรงเลยด้วยซ้ำ แกดันลืมที่จะเว้นช่องว่างเพื่อให้ตัวเองได้ซีน แทนที่จะโชว์ของในพาร์ท Standard Version กลับกลายเป็นกั๊กให้ไปอยู่ในพาร์ท Deluxe ซะงั้น ความเลี่ยนจากพาร์ท Standard แล้วต่อด้วย Deluxe จึงเป็นความยากลำบากที่จะเสพต่อเหมือนกัน ต่อให้จะฟังแยกต่างวันต่างเวลาก็ตาม
🤗 รีวิวพาร์ทเพลงแถม Long Bed สงวนสิทธิ์สำหรับคนที่ติดตามในช่องทาง Blockdit โดยเฉพาะ เนื้อหาส่วนนี้ไม่โพสต์ลงเพจ Facebook 🫶🏻🙏🏻
ปกอัลบั้มเวอร์ชั่น Deluxe "Long Bed"
-ในส่วนของ 9 เพลงแถม Long Bed ไม่มีแขกรับเชิญ โซโล่เดี่ยวล้วนๆ ในเมื่อฟังก์ชั่นของเวอร์ชั่นหลักมันคือการฝากเนื้อฝากตัวในฐานะแรปเปอร์พันทางอยากเอื้อนลูกคอ ไม่ได้จริงจังในแง่คอนเซ็ปท์อยู่แล้ว หยิบบางเพลงใน section นี้ไปรวม standard version ก็ดูไม่น่าเสียหาย เพลงที่ผมชอบก็มี Ain’t How It End เป็นความคลีเช่เจื้อยแจ้วที่น่าจะตกเหล่าแม่ยกสว.ได้ไม่ยาก เพราะมีความเก่าอยู่ไม่น้อย Who Needs You ก็โคตรเซอร์ไพร์สด้วยการโดดมาเอื้อนคันทรี่แจ๊สด้วยสายตาที่เปล่งประกาย
-Hey Mercedes เพลง upbeat พลังงานบวกที่ติดหูมากมาย เป็นการทักทายเชิงพรรณนาถึงคุณหนูไฮโซที่อยู่ดีๆขับรถคันหรู Mercedes มาในถิ่นบ้านนอกคาวบอย แล้วไอ้หนุ่มในท้องเรื่องก็อดใจไม่ไหว อยากนั่งรถให้สาวเจ้าขับพาเที่ยวไปเรื่อย ทั้งนี้ก็หยอดคำถามปลายเปิดเกี่ยวกับชีวิตต่อจากนี้ด้วยว่า “แล้วเธออยากจะใช้ชีวิตที่เหลือไปแห่งหนใดบ้างล่ะ?” Go To Hell เป็นเพลงประชดประชันที่จัดเต็ม full band อย่างครื้นเครง
-เพลงที่แชร์มุมมองส่วนตัวเกี่ยวกับการพยายามดิ้นรนเพื่อละทิ้งตัวตนเก่าๆที่ติดเหล้าหนักมาก ซึ่งตอนนี้แกก็วนลูปเดิมอยู่ในเพลง Killed A Man เนี่ยเพลงแบบนี้ควรถูกเอาไปรวมใน Standard เพื่ออัพเดท personal issue บ้าง และเพลงสุดท้ายที่ขอส่งจดหมายรักถึง Nashville เพื่อขอกลับไป Texas ตามเดิมในเพลงชื่อตรงตัว Back To Texas
-การฝากเนื้อฝากตัวสู่วงการคันทรี่ของ Posty ในรอบนี้ถือว่าสำเร็จทั้งในแง่ยอดขายและการตอกย้ำความเป็นศิลปินอยู่เหมือนกัน ไม่น่าเกลียด ไม่ขี้เหร่ เจื้อยแจ้วดูมี charisma ในยูนิฟอร์มคาวบอย ทำให้รู้ว่า Posty สามารถโลดแล่นในวงการเพลงได้อย่างไม่จำกัดแนวเพลงใดแนวเพลงนึง เป็นพี่หมีที่แรปได้และโชว์ลูกคอเอื้อนได้ด้วย 6 เดือนที่ไปเก็บตัวที่แนชวิลล์ เรียนรู้ได้ไวจริงๆ
-หากถามว่า นี่คือคันทรี่ที่ดีเทียบเท่า traditional ที่วัยรุ่นบ้านนอกอเมริกาเค้าฟังกันหรือไม่? ผมตอบไม่ได้เลยครับ ไม่มีมาตรวัดเป็นการส่วนตัวและไม่ได้ฟังคันทรี่แบบเก็บทุกศิลปิน A-List จึงไม่รู้ว่าอะไรคือความใช่ในแบบที่คนซึมซับคันทรี่มาทั้งชีวิตเค้าฟังกัน เพราะฉะนั้น นี่คือรีวิวกลั่นมาจากมุมมองคนฟังโดยทั่วไปเท่านั้น
อัลบั้มคันทรี่ล่าสุดที่ฟังก็คือ COWBOY CARTER ซึ่งรีวิวไปแล้ว ไปลองค้นดูได้ในอัลบั้มรูปภาพ “รีวิวอัลบั้ม 2024” อัลบั้มนั้นมันมากกว่าการ represent แนวทางคันทรี่ แต่ยังสอดแทรกประวัติศาสตร์ผ่านบุคลากรที่มามีส่วนร่วมและ pop culture ในอดีตอันเป็นร่องรอยแห่งวัฒนธรรม ขายของอีกครั้ง ไปตามอ่านได้ ค่อนข้างลึกพอสมควร
อีกหนึ่งอัลบั้มคันทรี่ที่ได้ฟังในปีนี้คือผลงานล่าสุดของ Shaboozey เจ้าของเพลงฮิต A Bar Song (Tipsy) ผมชอบอัลบั้มนี้มาก ม้ามืดปีนี้เลย จะหาเวลาจะเขียนถึงให้ได้ภายในปีนี้เลย (Teaser คอนเทนท์ไว้ก่อน)
-กลับมาที่ Post Malone ความสำเร็จอีกอย่างนึงที่มองข้ามไม่ได้เลยคือการใช้ประโยชน์ทางชื่อเสียงในการเปิดประตูแนวเพลงที่ฮิตในอเมริกาอยู่แล้ว เผยแพร่ไปสู่ชาวโลกมากขึ้น ผมอาจจะยึดติดตัวบุคคลก็เป็นได้ ผมเลยตามฟัง Post Malone ในเวอร์ชั่นคันทรี่สุดแสนคลีเช่ที่ยังคงมีเซนส์ป๊อปที่แข็งแรงพอจับต้องได้ และนั่นก็เป็นพี่หมีคนเดิมอยู่วันยังค่ำในการชอบทำผลงานเน้นความบันเทิงโดยที่ไม่ได้คัดกรองอะไรมากมายนัก ไม่ได้คิดเยอะ ขับเคลื่อนตามอารมณ์ไปเรื่อย
คนฟังอย่างเราก็ไม่ได้คาดหวังอยู่แล้ว
Top Tracks: Wrong Ones, Finer Things, Goes Without Saying, Guy For That, Losers, Never Love You Again, Right About You, M-E-X-I-C-O, Yours, Ain’t How It End, Hey Mercedes, Who Needs You
Give 6.5/10
Thx 4 Readin’
See Y’all
ฝากเพจ Facebook เพจเราอยู่ที่ใหม่แล้วนะครับ ปักหลักที่เพจนี้ ขอบคุณครับ
โฆษณา