31 ส.ค. เวลา 02:50 • ความคิดเห็น
ลำพูน
ขอ negative thinking & good my set กับการใช้ชีวิตในสังคมที่มีแต่ความหลอกลวงมีแต่ความโกหกมีแต่ความไม่จริง ?
คำถามนี้ถูกลบ
โลกนี้ ที่จริงมันไม่มีอะไร แต่เพราะเรามีกาย เราปล่อยกาย ให้เคลื่อนไหวไปตามอารมณ์ ไปเอาไปยึด ไปถือ สิ่งที่เป็นมายา หลอกลวง เข้ามา ..ไม่ชอบใจ ไม่พอใจ ไม่ถูกใจ มันจึงเป็นไฟแผดเผาที่ตัวเราเอง มันเกิดได้ มันก็ต้องดับได้ที่ตัวเราเอง เมื่อมันเกิดได้ ดับได้ เราจะใช้วิธีไหนมาดับไฟที่ตัวเราเอง
เราก็ศึกษาเรื่องราว ที่เกิดในตัวเราเอง ..เพราะสิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้น จะไปว่า สังคม จะไปว่า ไปโทษ สิ่งนั้นสิ่งนี้ก็ไม่ได้ ต่างคนก็ต่างถือกรรมกันมา ..เค้าก็ต้องลื่นไหลใช้ชีวิต ไปตามนิสัยเวรกรรมที่ยึดถือ ต่างคนก็ต่างทำมาหากินกันไป ต่างก็มีอารมณ์นึดคิดแตกต่างกันไป
..มีการใช้กายวาจาใจ มีเสียงสูงเสียงต่ำ กิริยาท่าทาง .เร่าร้อน กักขฬะ หรือเป็นน้ำเย็นน้ำร้อน เป็นขยะ เป็นคลื่นลมซากศพหมาเน่า .. ที่เราเอาตาเอาหู เราไปสัมผัส ทั้งกายทั่งจิตวิญญาณ ของเรา มันก็ต้องรับยึดเข้ามา เอาเข้ามา สิ่งเหล่านี้ มันบังทึกลงไปในธาตุทั้งสี่ เป็นโคลนตม จิตของเราก็ต้องห้อมล้อม ไปด้วยโคลนตม
เมื่อเป็นเช่นนี้ มันก็ไปโทษสิ่งรอบข้าง เราก็กลับมา หยุด..หยุดเพื่อที่ จะสำรวจตรวจสอบ สิ่งที่เกิดขึ้นที่ตัวเราเอง พระท่านบอกว่า เมื่อโลกมันร้อนร้อนด้วย อารมณ์ที่ผู้คนใช้กัน แผดเผาเป็นอณูขึ้นไปในอากาศ เราก็ต้องสูดดมของร้อนเข้าไป
มาทางนี้ๆๆ มาเดินมาเดิน ในรอยของพระ ภาวนาขึ้น ภาวนาพุทโธขึ้น ทำกายนิ่งจิตเฉย ไม่ต้องนึกคิดอะไร ..ภาวนาพุทโธ หายใจเข้า เอาอณูของธรรม ไปหล่อเลี้ยงจิต ไปชำระสะสาง สิ่งที่สกปรก โคลนตมออกไปจากกาย ..กายก็จะผ่อนใส จิตก็มีกำลัง มีสติรู้จักอารมณ์ที่เกิดในกายตน ..เห็นอารมณ์นั้นเป็นไฟ ..เราก็สลัดมันทิ้งไป เอาน้ำธรรมมาหล่อเลี้ยงกายและจิต ทางนี้ เป็นช่องทางแคบเล็กๆ ที่จะนำกายนำจิต ออกจากสิ่งที่เป็นมายาลวงกายลวงจิตตัวเอง
โฆษณา