31 ส.ค. เวลา 03:24 • การศึกษา

ตามใจตัวเองมากขึ้นเพราะความเจ็บปวด: เมื่อบาดแผลผลักดันเรา

ความเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นทางกายหรือทางใจ ล้วนเป็นประสบการณ์ที่มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ความเจ็บปวดเหล่านี้มักเป็นตัวกระตุ้นให้เรามีพฤติกรรม "ตามใจตัวเอง" มากขึ้น เป็นเสมือนกลไกป้องกันตนเองที่ซ่อนเร้นอยู่ในจิตใต้สำนึกของเรา
ความเจ็บปวดเปลี่ยนแปลงเราอย่างไร?
ภาวะชดเชยทางอารมณ์ (Emotional Compensation): เมื่อเราเผชิญกับความเจ็บปวด สมองของเราจะพยายามหาทางลดทอนความรู้สึกด้านลบเหล่านั้น การตามใจตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าที่อยากได้มานาน การรับประทานอาหารโปรด หรือการทำกิจกรรมที่สร้างความสุข เป็นวิธีหนึ่งที่เราใช้เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดและสร้างความรู้สึกดีๆ ให้กับตัวเอง เป็นเสมือน "รางวัล" ที่มอบให้กับตัวเองเพื่อชดเชยความทุกข์ที่ได้รับ
การแสวงหาการควบคุม (Seeking Control): ในช่วงเวลาที่เราเจ็บปวดหรือรู้สึกว่าชีวิตอยู่นอกเหนือการควบคุม การตามใจตัวเองเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เรารู้สึกว่าเรายังมีอำนาจในการตัดสินใจและกำหนดทิศทางชีวิตของตัวเองได้ เป็นการสร้าง "พื้นที่ปลอดภัย" ที่เราสามารถควบคุมได้ท่ามกลางความวุ่นวาย
กลไกการหลีกหนี (Escapism): บางครั้งความเจ็บปวดอาจรุนแรงเกินกว่าที่เราจะรับมือได้ การตามใจตัวเองอาจเป็นวิธีที่เราใช้เพื่อหลีกหนีความเป็นจริงหรือความรู้สึกเจ็บปวดที่กำลังเผชิญอยู่ เป็นการสร้าง "โลกแห่งความฝัน" ที่เราสามารถหลบภัยจากความทุกข์ได้ชั่วคราว
หลักฐานทางวิทยาศาสตร์
งานวิจัยทางจิตวิทยาสนับสนุนแนวคิดนี้ ตัวอย่างเช่น:
  • 1.
    ​งานวิจัยหนึ่งพบว่า ผู้ที่ได้รับการปฏิเสธทางสังคมมีแนวโน้มที่จะบริโภคอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น [อ้างอิง: Baumeister, R. F., et al. (2007). Social exclusion impairs self-regulation.]
  • 2.
    ​อีกงานวิจัยหนึ่งพบว่า ผู้ที่กำลังเผชิญกับความเครียดมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงินมากขึ้น [อ้างอิง: Krishnan, H. S., & Sokol-Hessner, P. (2007). Money can't buy happiness, but it may help you forget your troubles.]
ความเจ็บปวดในชีวิตประจำวัน
เราสามารถพบเห็นตัวอย่างของพฤติกรรมการตามใจตัวเองเพื่อรับมือกับความเจ็บปวดได้ในชีวิตประจำวัน:
  • 1.
    ​หลังจากอกหัก คนเรามักจะหาทางปลอบใจตัวเองด้วยการซื้อของ กินอาหารที่ชอบ หรือออกเดินทางท่องเที่ยว
  • 2.
    ​เมื่อเจอกับความเครียดจากการทำงาน คนเรามักจะหาทางผ่อนคลายด้วยการดูหนัง ฟังเพลง หรือทำกิจกรรมที่ชอบ
  • 3.
    ​เมื่อรู้สึกผิดหวังหรือสูญเสีย คนเรามักจะหาทางเติมเต็มความรู้สึกว่างเปล่าด้วยการตามใจตัวเองในด้านต่างๆ
เส้นแบ่งระหว่างการดูแลตัวเองและการตามใจตัวเอง
แม้ว่าการตามใจตัวเองจะเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยให้เรารับมือกับความเจ็บปวดได้ แต่ก็ควรทำอย่างมีสติและพอประมาณ การตามใจตัวเองมากเกินไปหรือใช้เป็นวิธีรับมือกับความเจ็บปวดเพียงอย่างเดียว อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและใจในระยะยาวได้ เช่น ภาวะน้ำหนักเกิน โรคซึมเศร้า หรือปัญหาทางการเงิน
สรุป
ความเจ็บปวดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน การตามใจตัวเองเป็นหนึ่งในวิธีที่เราใช้เพื่อรับมือกับความเจ็บปวด แต่สิ่งสำคัญคือการทำอย่างมีสติและรู้เท่าทัน เพื่อให้เราสามารถเติบโตและก้าวผ่านความเจ็บปวดไปได้อย่างแข็งแกร่ง หากคุณกำลังเผชิญกับความเจ็บปวดหรือปัญหาทางสุขภาพจิต ควรขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต
คำแนะนำ:
  • 1.
    ​ฝึกการตระหนักรู้ (Mindfulness): การฝึกสติและการตระหนักรู้ในปัจจุบันขณะจะช่วยให้คุณเข้าใจความรู้สึกและความต้องการของตัวเองได้ดีขึ้น ทำให้คุณสามารถเลือกวิธีรับมือกับความเจ็บปวดได้อย่างเหมาะสม
  • 2.
    ​มองหาทางออกเชิงบวก: แทนที่จะหันไปพึ่งพฤติกรรมการตามใจตัวเอง ลองมองหาวิธีอื่นๆ ที่ช่วยให้คุณรับมือกับความเจ็บปวดได้ เช่น การออกกำลังกาย การทำสมาธิ การพูดคุยกับเพื่อนสนิท หรือการขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
สร้างความสัมพันธ์ที่ดี: การมีเครือข่ายสนับสนุนที่แข็งแกร่งจะช่วยให้คุณรับมือกับความเจ็บปวดได้ดีขึ้น คนรอบข้างสามารถให้กำลังใจ คำแนะนำ และความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่คุณได้
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
หนังสือ "The Upside of Stress" โดย Kelly McGonigal: หนังสือเล่มนี้สำรวจว่าความเครียดสามารถเป็นแรงผลักดันในเชิงบวกได้อย่างไร และนำเสนอวิธีการรับมือกับความเครียดอย่างสร้างสรรค์

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา