31 ส.ค. เวลา 10:05 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ครบรอบ 7 ปี ThaiQR

เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทยสมัย ดร. วิรไท สันติประภพ​ ได้แถลงข่าวเปิดตัว Standard QR Code โดยเริ่มจากการพัฒนาขึ้นบน Regulatory Sandbox หรือสนามทดลองนวัตกรรมทางการเงิน (FinTech) เพื่อใช้จ่ายค่าสินค้าและบริการตามร้านค้าทั่วไป
รวมทั้งร้านค้าออนไลน์ในลักษณะเป็น Open Loop โดยอาศัยมาตรฐาน EMVCo ในเดือนพฤษภาคม 2560 และนำมาพัฒนาต่อยอดกับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ภายใต้ชื่อ PromptPay QR
ในช่วงแรกมีเพียง 2 ธนาคารเริ่มต้นใน Sandbox คือ กสิกรไทย และ ไทยพาณิชย์ ก่อนที่จะมีธนาคารอีก 6 ธนาคารเข้ามาร่วม คือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารธนชาติ และธนาคารออมสิน ส่วนกลุ่ม e-Wallet ก็สามารถเชื่อมต่อได้ภายในเดือนกันยายน และภายหลังก็ขยายไปจนเกือบทุกธนาคาร
นี่เป็นหนึ่งในโครงการมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นได้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการปฏิวัติ ถ้าไม่มีการปฏิวัติ ก็คงไม่มีรัฐมนตรีคลังอย่างคุณอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ (2558-2560) ที่เคยเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) มาก่อน และได้ ดร. อนุชิต อนุชิตานุกูล มือดีที่เคยทำระบบ BahtNet มาก่อนมาช่วยผลักดันโครงการ และมีอำนาจรัฐบาลปฏิวัติที่สามารถขอร้องแกมบังคับให้ทุกธนาคารเข้าร่วมในที่สุด (ซึ่งมีข่าวลือว่า…. เอ ไม่เล่าดีกว่า ความลับวงใน)
ในตอนแรก แผนที่ ธปท. ตกลงกับสมาคมธนาคารไทย คือให้ค่าธรรมเนียมในการโอนเป็นศูนย์ สำหรับการโอนไม่เกิน 5,000 บาท ซึ่งก็น่าตกใจแล้ว
แต่ต่อมา ธนาคารทหารไทย (ถ้าจำไม่ผิด) ก็เริ่มให้บริการแบบไม่เก็บค่าธรรมเนียมเลยก่อน แต่ก็ไม่ได้เป็นข่าวดัง
จนวันที่ 12 ธันวาคม ธนาคารไทยพาณิชย์ก็ประกาศเปรี้ยงว่าจะไม่เก็บค่าธรรมเนียมเลย ทำให้ธนาคารอื่น รวมทั้งธนาคารที่มีลูกค้าผ่านมือถือเยอะที่สุดอย่างธนาคารกสิกรไทยต้องประกาศตามบ้าง ส่งผลทำให้การโอนผ่านพร้อมเพย์ฟรีทุกระดับประทับใจตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
แต่ก็ต้องสูญเสียโอกาสในการหาค่าธรรมเนียม ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิดค่าธรรมเนียมเฉพาะการโอนเงินทั้งระบบอยู่ในระดับสูงถึงปีละ 9,000 ล้านบาทเลยทีเดียว แต่ในตอนนั้นคิดว่า เป็นต้นทุนที่ไม่มากนัก หากสามารถหาลูกค้าใหม่ได้เพิ่มเติม แต่ที่ไหนได้ ธนาคารอื่นก็ตัดราคาเหมือนกันหมด จนทำให้ประโยชน์ที่ธนาคารคิดว่าจะได้ ก็ไม่เป็นไปตามคาด แต่ในที่สุด ผลประโยชน์ส่วนใหญ่ก็เกิดกับเศรษฐกิจ และประชาชนที่สามารถทำธุรกรรมแบบไร้เงินสดได้ง่าย และถูกกว่าที่เคย
ประกอบกับการมาของโควิดในปี 2563 ทำให้ระบบ PromptPay ซึ่งพร้อมกับการให้บริการแบบลดการสัมผัส แถมยังมีแรงผลักจากโครงการคนละครึ่ง จนทำให้ PromptPay เป็นหนึ่งในโครงการผลักดันสังคมไร้เงินสดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
7 ปีผ่านไปไวยังกับโกหก แต่มีโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่มาพยายามทำทับซ้อนกับโครงการนี้ ภายใต้เงื่อนไข และหลักการที่จำกัดกว่ามาก แต่ในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถหา “คน” มาทำโครงการนี้ได้
โฆษณา