1 ก.ย. เวลา 06:16 • ความคิดเห็น

มีมะนาวอย่าทำแค่น้ำมะนาว

ผมชอบ quote ฝรั่งอันนึงมากๆ ที่บอกว่า…
if life give you lemon, make lemonade
มีความหมายประมาณว่าอย่าไปอิจฉาริษยาอะไรในสิ่งที่เราไม่มี แต่เอาสิ่งที่เรามีนี่แหละทำให้ดีที่สุด
ตอนที่ได้ถูกให้ทำโครงการ food delivery โรบินฮูด ผมก็ใช้ประโยคนี้บอกน้องๆ ว่าแทนที่จะคิดว่าทำไมเราไม่มีสตางค์ ไม่มีฐานลูกค้า ไม่มีอะไรหลายอย่างเหมือนคู่แข่ง ลองพยายามดูว่าเรามีอะไรแล้วใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด น้องๆ ก็เลยมองหาสิ่งรอบตัวที่อาจจะไม่เคยคิด เริ่มไปขอความช่วยเหลือสาขาธนาคาร ขอให้พี่ๆ ฝ่ายเทรนนิ่งและฝ่ายต่างๆ ช่วย ไปพาร์ตเนอร์กับร้านเล็ก จนมีจุดแข็งมีอาวุธที่จะไปสู้กับเขาพอเอาตัวรอดได้ในตอนนั้น
2
เมื่อวันก่อน เชฟเบลล์แห่ง masterchef มาจัด workshop แข่งทำอาหารกันที่หลักสูตร อโลฮ่าโดยให้แต่ละทีมมีวัตถุดิบ เครื่องปรุงและอุปกรณ์การปรุงที่จำกัด ในเวลาที่กำหนดนั้น ต้องพยายามสร้างสรรค์อาหารที่อร่อยและดูดีให้ได้ ก็คงคล้ายๆ กับรายการแข่งทำอาหารทั่วไปที่มีอะไรตรงหน้าก็ต้องทำเท่าที่มีและทำให้ดีที่สุด มัวแต่อิจฉาโต๊ะข้างๆ หรือมัวแต่คิดน้อยใจในโชคชะตาหรือความผิดพลาดก็คงไม่ได้ช่วยอะไร
2
ก่อนจะเริ่มแข่ง เชฟเบลล์โชว์ quote หนึ่งทีผมคุ้นๆ แต่ไม่เหมือนทีเดียวนัก โดยมีใจความว่า
When life gives you lemons, don’t just settle for lemonade. Make a damn delicious lemon meringue pie!
เชฟเบลล์
1
ถ้าชีวิตโดนแกล้งให้มีแค่มะนาว ก็อย่าทำแค่น้ำมะนาวประชดชีวิต ไปให้สุด ทำเลมอนเมแรงค์พายที่อร่อยสุดๆ แม่มเลย..
ผมแปลไว้แบบนั้น..
ฟังประโยคนี้แล้วทำให้นึกถึงเรื่องของคนคนหนึ่งที่คุณซิกเว่ เบรกเก้ อดีตเจ้านายผมเล่าให้ฟัง ในสถานการณ์ตอนที่ดีแทคเป็นมวยรองแบบสุดๆ ซิกเว่อยากให้พวกเราฮึกเหิม อย่าไปมองคู่แข่ง โฟกัสในสิ่งที่มีแล้วทำให้ดีที่สุด เขาเลยเล่าถึงผู้ชายคนหนึ่งชื่อ คารอลี่ ทาแคค
คารอลี่ ทาแคค เป็นทหารยศนายสิบและเป็นนักแม่นปืนระดับประเทศของฮังการี เป็นตัวเต็งอันดับต้นๆ ของประเทศที่จะได้ไปโอลิมปิคในปี 1940 แต่ด้วยความโชคร้าย ปี 1938 สองปีก่อนโอลิมปิค ทาแคคเกิดอุบัติเหตุทำลูกระเบิด ระเบิดใส่มือขวาข้างที่เขาใช้ยิงปืนจนมือพิการ ความฝันที่จะโอลิมปิคก็พังทลายไปกับมือ ต้องนอนอยู่โรงพยาบาลเป็นเดือนด้วยหัวใจที่แตกสลายเพราะความฝันพังลง เขาหายหน้าไปจากวงการแม่นปืน เพื่อนๆ คิดกันว่าเขาคงทำใจไม่ได้ คงผิดหวังและเสียใจอย่างหนัก
2
ในปี 1939 ในงานแข่งยิงปืนชิงแชมป์ประเทศของฮังการี ทาแคคเดินเข้ามาในงานหลังจากหายไปหนึ่งปี เพื่อนๆ ต่างกรูเข้าไปรุมล้อม บ้างแสดงความเห็นใจ บ้างมาชื่นชมในความเข้มแข็งที่ทาแคคฝืนใจมาเชียร์เพื่อนๆ ลงแข่งทั้งๆ ที่ตัวเองมือพิการ แต่ทุกคนก็ประหลาดใจเพราะทาแคคบอกว่า เขาไม่ได้มาแค่ดูเพื่อนๆแข่ง แต่เขามาลงแข่งด้วย
1
ในหนึ่งปีที่หายไป ทาแคคแอบซุ่มฝึกยิงปืนด้วยมือซ้าย มือที่ไม่ถนัดแต่เป็นข้างเดียวที่เหลืออยู่ ซ้อม ซ้อม ซ้อม แล้วก็ซ้อม หลังจากออกจากโรงพยาบาล ทาแคคก็เลิกคร่ำครวญ เลิกเสียใจ ยอมรับถึงปัญหาที่แก้ไม่ได้ แล้วซุ่มซ้อมอย่างเต็มที่ ทาแคคชนะการแข่งขันในวันนั้น แต่เนื่องจากมีสงครามโลก โอลิมปิคปี 1940 และ 44 เลยไม่ได้จัด แต่ทาแคคก็อดทนรอ จนได้ไปชนะพร้อมทำสถิติโลกในโอลิมปิคปี 1948 และได้เหรียญทองอีกครั้งในปี 1952
1
ทาแคคได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน Olympic hero เขาเป็นหนึ่งในคนพิการไม่กี่คนที่ได้เหรียญทองโอลิมปิค เรื่องราวของเขาเป็นตำนานของโอลิมปิคจนถึงปัจจุบัน
มือขวาพิการเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ แต่มือซ้ายยังใช้การได้ ทาแคคก็เลิกคิดถึงมือขวาและมุ่งมั่นกับมือซ้ายเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่แค่เหลือมือซ้ายก็ยิงมือซ้าย แต่ประชดชีวิตที่ให้ความพิการมาด้วยการฝึกยิงมันจนได้เหรียญทองโอลิมปิคซะเลย…
1
ลองหันรีหันขวางดูแล้วถ้าเจอแค่มะนาว ในขณะที่คนอื่นมีกล้วย ส้ม สัปปะรด กีวี่ ทรัฟเฟิล ก็อย่าได้น้อยใจเป็นอันดับแรก มีมะนาวก็ทำน้ำมะนาวได้แน่ๆ
แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เปลี่ยนความกันดารเป็นสินทรัพย์ ไปให้สุดจนกลายเป็นมาสเตอร์เชฟแห่งมะนาวด้วยพายเมอแรงค์ก็เป็นไปได้นะครับ…
โฆษณา