2 ก.ย. เวลา 04:09 • หนังสือ

7 สเต็ปพิชิตหนังสือ : จากคนขี้ลืมสู่ปราชญ์แห่งความรู้ กับเทคนิคสุดล้ำจาก Ali Abdaal

หากคุณเป็นสนใจเรื่องการพัฒนาตนเอง การเรียนรู้ตลอดชีวิต และการเป็นนักคิดที่ดีขึ้น คุณจะรู้ว่าการอ่านเป็นส่วนสำคัญของเรื่องเหล่านี้ แต่หลายคนอาจจะประสบพบเจอกับปัญหา เมื่อคุณอาจจะอ่านหนังสือมามากมาย แต่ก็ลืมสิ่งที่อ่านไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ และอาจจะยังไม่ได้นำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตอย่างที่ต้องการ
3
เป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจจาก Ali Abdaal อดีตแพทย์ที่ผันตัวมาเป็นยูทูบเบอร์ นักธุรกิจ ผู้จัดรายการพอดแคสต์ และนักเขียน โดยมีผลงานเขียนหนังสือชื่อดังอย่าง Feel-Good Productivity : How to Do More of What Matters to you
1
Ali ก็ตระหนักว่านี่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขาเช่นเดียวกัน จึงพยายามหาวิธีแก้ไขอย่างจริงจัง โดย Ali ได้แบ่งปันสิ่งที่เขาคิดว่าเป็น 7 ขั้นตอนของการพยายามจดจำสิ่งที่เราอ่านให้ได้มากขึ้น และนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตของเราได้
1
7 ขั้นตอนสู่การจดจำสิ่งที่เราอ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขั้นที่ 1: มือใหม่หัดอ่าน (The Muggle)
เราทุกคนล้วนเริ่มต้นการอ่านที่ขั้นนี้ เป็นเพียงการอ่านแบบผ่านๆ โดยไม่ได้ขีดเส้นใต้ ไม่ได้จดบันทึก ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเนื้อหานอกเหนือจากการรับรู้เท่านั้น เมื่อเราเป็นมือใหม่และพยายามเรียนรู้หัวข้อใหม่ๆ เช่น การเป็นผู้ประกอบการ เราจะอ่านมากมายและหวังว่าจะซึมซับข้อมูลได้เอง แต่เราไม่ได้ใช้พลังสมองอย่างจริงจังเพื่อมีส่วนร่วมกับเนื้อหา
2
วิธีนี้อาจใช้ได้ผลกับนิยาย แต่สำหรับหนังสือกลุ่ม nonfiction ที่เราต้องการเรียนรู้และได้ข้อคิด มันไม่เพียงพอ เพราะเราจะลืมทุกอย่างที่อ่านไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ใช่แค่ปัญหาของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่เรียกว่า “เส้นโค้งการลืม (forgetting curve)” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเมื่อเวลาผ่านไป ความทรงจำของเราเกี่ยวกับทุกสิ่งจะเสื่อมลง เว้นแต่เราจะหาวิธีมีส่วนร่วมหรือทำให้ความทรงจำนั้นมั่นคงขึ้น
1
ขั้นที่ 2: นักอ่านมือสมัครเล่น (The Squib)
ในขั้นนี้ เราเริ่มไฮไลท์หรือขีดเส้นใต้สิ่งที่เราสนใจเป็นพิเศษ เราสามารถทำได้ง่ายๆ ถ้าอ่านบน Kindle หรือใช้หนังสือแบบเล่ม ตัวของ Ali เองก็ทำแบบนี้มาตั้งแต่ได้ Kindle เครื่องแรกเมื่อปี 2008-2009 จนถึงปี 2018
3
การไฮไลท์อาจดูเหมือนเป็นวิธีที่ดี แต่ปัญหาคือ เราไม่ได้จดจำสิ่งที่ไฮไลท์จริงๆ มีหลักฐานทางวิชาการมากมายที่แสดงว่าการไฮไลท์หรือขีดเส้นใต้ไม่ได้ช่วยปรับปรุงความจำของเราเลย และเรายังเจอปัญหาที่ว่าไฮไลท์ทั้งหมดถูกซ่อนอยู่ในหนังสือหรือ Kindle และเราไม่มีเหตุผลที่จะกลับไปดูมันอีก
ขั้นที่ 3: นักอ่านจริงจัง (Hufflepuff)
ในขั้นนี้ เราจะมีระบบทบทวนไฮไลท์อย่างเป็นระบบ Ali ได้ค้นพบบริการที่ยอดเยี่ยมชื่อ Readwise ซึ่งเชื่อมต่อกับบัญชี Kindle โดยอัตโนมัติและดึงไฮไลท์ทั้งหมดจากหนังสือที่คุณอ่าน ทุกวันมันจะส่งอีเมลให้คุณพร้อมไฮไลท์สุ่ม 5 รายการ
1
Ali เริ่มใช้ Readwise และได้รับอีเมลทุกวัน ในช่วงแรกที่เขาอ่านอีเมลนี้อย่างจริงจังและพบว่าสิ่งที่เขาไฮไลท์ไว้เมื่อ 5 ปีที่แล้วกลับมีความเกี่ยวข้องกับเขาในวันนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก
2
แต่หลังจากนั้น Ali เริ่มอ่านอีเมล 5 รายการประจำวันจาก Readwise น้อยลง เขายังคงได้รับและเปิดอ่านเป็นครั้งคราว
ขั้นที่ 4: นักอ่านผู้ชาญฉลาด (Ravenclaw)
ในขั้นนี้ เราใช้ระบบที่ดึงไฮไลท์ของเราเข้าสู่แอปจดบันทึกโดยอัตโนมัติ Ali ใช้ Notion ซึ่งมีฐานข้อมูล Readwise ที่มีหนังสือทั้งหมดและแสดงไฮไลท์ทั้งหมดที่เขาทำในแต่ละเล่ม
2
นอกจากนี้ยังมีบทความและทวีตที่เขาบันทึกไว้ใน Readwise ซึ่งเข้ามาใน Notion โดยอัตโนมัติ และมีพอดแคสต์ที่เขาจดบันทึกผ่านแอป Air to IO
1
ขั้นนี้ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เพราะเราเพียงแค่นำไฮไลท์เข้ามาและหวังว่าตัวเราในอนาคตจะกลับมาดูไฮไลท์เหล่านี้ในบางจุด ตัวของ Ali ทำแบบนี้มาหลายเดือน แต่พบว่าในที่สุดก็มีเรื่องอื่นๆ เข้ามาและเขาก็ไม่ได้หาเวลาเพื่อทบทวนไฮไลท์ของสิ่งที่เขาอ่านใน Notion อย่างจริงจัง
2
ขั้นที่ 5: นักอ่านผู้เชี่ยวชาญ (Dumbledore’s Army)
ในขั้นนี้ เรามีส่วนร่วมกับหนังสือโดยการจดบันทึกสั้นๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เราอ่าน Ali ทำสิ่งนี้ใน Notion โดยมีฐานข้อมูลบันทึกหนังสือที่มีหนังสือทั้งหมดที่เขาอ่าน ทั้ง fiction และ nonfiction สำหรับแต่ละหมวดหมู่ เขาได้สร้างเทมเพลตที่ใช้สำหรับการรีวิวหนังสืออย่างรวดเร็ว
2
เทมเพลตนี้สร้างหมวดหมู่ต่างๆ เช่น:
  • สรุปหนังสือใน 3 ประโยค
  • ความประทับใจ
  • ฉันค้นพบหนังสือเล่มนี้ได้อย่างไร
  • ใครควรอ่านหนังสือเล่มนี้
  • หนังสือเล่มนี้เปลี่ยนฉันอย่างไร
  • คำคมยอดนิยม 3 อันดับจากหนังสือ
วิธีนี้ค่อนข้างรวดเร็วและเป็นจุดที่สมดุลระหว่างความพยายามที่ต้องใช้กับคุณค่าที่ได้รับ การสรุปหนังสือใน 3 ประโยคเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการมีส่วนร่วมกับเนื้อหาจริงๆ ซึ่งมันเป็นวิธีที่ช่วยให้มั่นใจว่าเราเข้าใจแนวคิดในหนังสือเล่มนั้นจริงๆ
2
ขั้นที่ 6: นักอ่านระดับปรมาจารย์ (Order of the Phoenix)
1
ขั้นนี้น่าสนใจมากขึ้น เพราะนอกจากจะทำทุกอย่างเหมือนขั้นที่ 5 แล้ว เรายังมีส่วนของการสรุปและบันทึกเกี่ยวกับหนังสือเองด้วย
สิ่งที่ Ali พยายามทำกับหนังสือที่มีความหมายกับเขาเป็นพิเศษตลอดหลายปีที่ผ่านมา หนังสือที่เขาให้ 5 ดาวหรือหนังสือที่เขาคิดว่าเปลี่ยนชีวิตได้ คือการกลับไปอ่านอีกครั้งและเขียนบันทึกมัน
Ali สร้างสรุปย่อของหนังสือ แต่มุ่งเน้นไปที่ประเด็นที่มีความหมายกับเขาเป็นพิเศษหรือประเด็นที่เขาพบว่าน่าสนใจหรือให้ข้อคิดที่ดี ซึ่งเขาคิดว่านี่เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการมีส่วนร่วมกับหนังสือ แม้ว่าจะใช้เวลานานมาก
ตัวอย่างเช่น เขาตื่นขึ้นมาตอนตี 1 เพราะนอนไม่หลับ จึงหยิบ iPad Pro ขึ้นมา เปิดโหมด Dark และเปิด Kindle ไว้ด้านหนึ่งของหน้าจอ ส่วน Notion อยู่อีกด้านหนึ่ง
2
Ali จดบันทึกจากหนังสือ “E-Myth Revisited” ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับการสร้างธุรกิจขนาดเล็กที่ประสบความสำเร็จ เขาได้มีโอกาสอ่านครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2019 และหนังสือเล่มนี้ทำให้เขาประทับใจมาก
ขณะที่กำลังทบทวนและเรียนรู้บทเรียนบางอย่างจากมันอีกครั้ง เขาก็พยายามจดบันทึก สรุปบางส่วนในบันทึก แม้ว่าจะใช้เวลานานมาก แต่มันก็ให้ข้อคิดใหม่ๆ มากมาย เพราะมันหายากที่จะเจอหนังสือที่เปลี่ยนชีวิตจริงๆ ดังนั้นเมื่อคุณพบหนังสือแบบนั้น จงพยายามเขียนสรุปของหนังสือเล่มนั้นด้วยตัวเอง เพื่อที่จะได้รวบรวมข้อคิดต่างๆ สำหรับตัวเอง
3
มีสิ่งที่ควรคำนึงถึงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ประการแรก มีหนังสือที่ดีมากเล่มหนึ่งชื่อ “How to Take Smart Notes” โดย Sönke Ahrens ซึ่งตัวของ Ali ได้ทำสรุปของหนังสือเล่มนี้ด้วย โดยใช้ฟีเจอร์ Toggle ใน Notion เขาเขียนเนื้อหามากมาย แม้กระทั่งวาดแผนภาพและตารางของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ สรุปนี้รวมถึงไฮไลท์บางส่วนมีความยาวถึง 6,851 คำ
1
Ali ใช้เวลานานมากในการจดบันทึกจากหนังสือ และในหนังสือ “How to Take Smart Notes” ได้พูดถึงวิธีการจดบันทึกแบบ Zettelkasten
และเคล็ดลับก็คือขณะที่คุณกำลังอ่านสิ่งต่างๆ และจดบันทึก แต่แนวคิดของการบันทึก เช่น สรุปที่เราทำสำหรับตัวเองนั้น ต้องหลีกเลี่ยงการคัดลอกข้อความมาจากหนังสือ เราต้องพยายามเรียบเรียงสิ่งต่างๆ ด้วยคำพูดของเราเอง เพื่อให้แน่ใจว่าเราเข้าใจแนวคิดนั้นๆ อย่างแท้จริง
3
ประโยชน์อีกอย่างของการจดบันทึกหนังสือด้วยตัวเองคือ ถ้าคุณสนใจที่จะแบ่งปันงานของคุณออนไลน์ คุณสามารถเผยแพร่บันทึกหนังสือของคุณได้
ขั้นที่ 7: นักอ่านระดับเทพ (Dumbledore)
นี่คือขั้นสูงสุดที่เราใช้วิธีการจดบันทึกแบบ Zettelkasten อย่างเต็มรูปแบบ นี่คือสิ่งที่ตัวของ Ali เองหวังว่าจะได้ไปถึงในที่สุด เขาทำแบบนี้กับหนังสือเพียงไม่กี่เล่มเท่านั้น แต่ทุกครั้งที่เขาทำ เขาพบว่าการฝึกฝนนี้มีประโยชน์มาก
1
แนวคิดเบื้องหลังคือ หลังจากที่เราจดบันทึกเกี่ยวกับหนังสือแล้ว สิ่งที่เราจะทำคือเปลี่ยนมันให้เป็นบันทึกแบบถาวร ตามวิธีของ Zettelkasten หรือ Evergreen Notes ตามที่ Andy Matuschak ผู้เชี่ยวชาญด้านการจดบันทึกบนอินเทอร์เน็ตเรียก
1
ตัวอย่างเช่น Ali มีฐานข้อมูลของ Evergreen Notes บน Notion แนวคิดเบื้องหลัง Evergreen Notes คือเป็นบันทึกเกี่ยวกับหัวข้อที่คุณสนใจหรือที่มีความหมายกับคุณเป็นพิเศษ แต่บันทึกนั้นมีความสมบูรณ์ในตัวเองและเชื่อมโยงอย่างมากกับบันทึกอื่นๆ ที่คุณมีในระบบของคุณ
ตัวอย่างของ Ali เขามีหมวดหมู่ต่างๆ เช่น ชีวิต ความสุข ความหมาย งาน การอ่าน โชค การพัฒนาตนเอง ความสัมพันธ์ การแต่งงาน การช่วยเหลือผู้อื่น การตัดสินใจ เงิน ไลฟ์สไตล์ การเขียน ฯลฯ
2
ทั้งหมดนี้เป็นหัวข้อที่เขาสนใจ และเมื่อเขาได้อ่านสิ่งต่างๆ ในหนังสือ บทความ พอดแคสต์ ทวีต หรืออะไรก็ตาม สิ่งที่ Ali พยายามทำเมื่อเวลาผ่านไปก็คือเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ให้เป็น Evergreen Notes และมี Index สำหรับ Evergreen Notes เหล่านี้ทั้งหมด
1
ซึ่งระบบเหล่านี้ ไม่ว่าจะเรียกว่า Zettelkasten, slip box, Evergreen Notes หรือการจดบันทึกแบบนักอ่านระดับเทพก็ตาม สิ่งที่เขาได้เห็นจากการอ่านผลงานของคนอื่นๆ บนอินเทอร์เน็ตที่ทำแบบนี้ ทุกคนบอกว่ามันมีประโยชน์มาก
มันดีในแง่ที่ช่วยให้คุณรวบรวมความคิดของคุณเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ โดยเฉพาะถ้าคุณมีความสนใจหลากหลาย อาจเป็นเรื่องยากที่จะติดตามสิ่งที่คุณอ่านทั้งหมด แต่นี่เป็นระดับการย่อยข้อมูลที่สูงกว่าสิ่งที่คุณอ่าน ช่วยให้คุณหาวิธีรวบรวมข้อคิดจากสิ่งเหล่านั้น
1
ทั้งหมดที่คุณต้องทำคือเขียนสรุปของหนังสือใน 3 ประโยค เหตุผลที่ต้อง 3 ประโยคเพราะมันบังคับให้คุณเขียนให้กระชับและไม่ใช้เวลานาน และเขียนความคิดเห็นสั้นๆ เกี่ยวกับหนังสือเล่มนั้น
2
บทสรุป
ต้องบอกว่า 7 ขั้นตอนสู่การจดจำสิ่งที่เราอ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การเป็นมือใหม่หัดอ่านไปจนถึงการเป็นนักอ่านระดับเทพ แต่ละขั้นตอนล้วนมีความสำคัญและช่วยพัฒนาทักษะการอ่านของเราให้ดียิ่งขึ้น
การอ่านไม่ใช่เพียงแค่การรับรู้ข้อมูล แต่เป็นกระบวนการที่เราต้องมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการไฮไลท์ การจดบันทึก หรือการสรุปความ ทั้งหมดนี้ล้วนช่วยให้เราเข้าใจและจดจำสิ่งที่อ่านได้ดีขึ้น
1
นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือดิจิทัลอย่าง Readwise หรือ Notion ยังช่วยให้เราจัดการความรู้ได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
1
สุดท้ายนี้ การแบ่งปันความรู้ผ่านการเขียนบล็อกหรือสร้างคอนเทนต์ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราเข้าใจสิ่งที่อ่านได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และยังเป็นการสร้างคุณค่าให้กับผู้อื่นอีกด้วย
1
การพัฒนาทักษะการอ่านและการจดจำเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะความรู้และข้อคิดที่เราได้รับจากการอ่านจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต และช่วยให้เราเติบโตทั้งในด้านความคิดและการดำเนินชีวิตได้ในท้ายที่สุดนั่นเองครับผม
2
References :
How I Remember Everything I Read
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
The original article appeared here https://www.tharadhol.com/7-steps-to-conquer-books/
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา