11 ก.ย. เวลา 11:10 • ธุรกิจ

Hyper Automation เทรนด์ช่วย SME กำจัดงานซ้ำๆ น่าเบื่อให้หมดจากองค์กร

Automation หรือ "ระบบอัตโนมัติ" ไม่ใช่สิ่งใหม่ มีการใช้งานของภาคอุตสาหกรรมทั่วโลก ในไทยเองก็มีการใช้งานนานแล้ว ในอนาคต Automation จะพัฒนาไปสู่ Hyper automation และก่อนจะสายเกินไป เพื่อให้ธุรกิจตามทันเทคโนโลยี ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ปรับเปลี่ยน ควรที่จะเดินหน้าปรับตัว นำระบบอัตโนมัติมาใช้
อะไร คือ เหตุผลที่การใช้ Automation ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • Repetitive, Rules-Based Tasks
เหตุผลหลักที่ทำให้ออโตเมชันถูกเลือก คือลักษณะของงานที่เป็นรูปแบบที่ทำซ้ำซาก ออโตเมชันสามารถกำหนดการทำงานและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างแม่นยำ ชัดเจน
  • Dangerous Jobs
การทำงานที่เสี่ยงต่ออันตรายก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ระบบออโตเมชันกลายเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่า งานที่อาจเสี่ยงเกิดอันตรายกับร่างกาย สามารถดำเนินไปด้วยความปลอดภัย โดยไม่ต้องทำให้คนทำงานต้องเสี่ยงและเจอกับปัญหา
  • High Volume, Low Complexity
งานที่มีปริมาณเยอะ แต่ว่าไม่ได้มีความซับซ้อน การเอาออโตเมชันเข้าช่วยก็สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทำให้งานออกมาดีขึ้น ประหยัดเวลาได้มากขึ้น
  • Time Consuming
การทำงานที่ต้องใช้เวลามากๆ ก็นิยมให้ระบบออโตเมชันเข้ามาช่วย เช่น การตรวจสอบข้อมูลที่ต้องใช้เวลานาน ก็สามารถลดเวลาการทำงานลง ได้ด้วยความรวดเร็วของระบบอัตโนมัติในการทำงาน
  • Mundane Work
งานที่น่าเบื่อ เช่น การทำงานที่เกี่ยวกับข้อมูลที่มีจำนวนมาก ก็ใช้ออโตเมชันได้ โดยไม่ต้องให้คนทำงานเสียเวลาและพลังงานในการดำเนินการ
การใช้ระบบออโตเมชันไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระในงานที่มีความซ้ำซากและเจาะจง แต่ยังเสริมสร้างประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการทำงานที่เสี่ยงต่ออันตราย ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีความหลากหลายและมีประโยชน์ในหลายด้านของธุรกิจ
ไฮเปอร์ออโตเมชัน (Hyper-Automation) เป็นแนวคิดที่ได้รับความสนใจมากในโลกธุรกิจปัจจุบัน ไม่เพียงแค่การใช้โรบอท (RPA) เพื่อทำซ้ำงานที่ซ้ำซาก แต่ไฮเปอร์ออโตเมชันยังเน้นการผสมรวมและจัดการกับหลายเทคโนโลยีพร้อมกัน เช่น ปัญหาทางปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อให้กระบวนการทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
  • Process Mining
หนึ่งในลักษณะที่สำคัญของการไฮเปอร์ออโตเมชัน คือการใช้กระบวนการทำงานวิเคราะห์ข้อมูล (Process Mining) เพื่อระบุและสร้างโอกาสในการทำงานที่เหมาะสมสำหรับการออโตเมชัน การทำงานนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถตรวจสอบและพัฒนากระบวนการทำงานของตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ
  • Integration of various systems and data sources
การผสมรวมระบบและแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เป็นอีกลักษณะที่สำคัญทำให้การไฮเปอร์ออโตเมชันมีความสามารถในการปรับปรุง พัฒนา ผ่านการทดสอบและการใช้งาน เช่น การประยุกต์ใช้ข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการทำงาน
  • No-code/Low-Code Tools
เครื่องมือ No-code/Low-Code มีบทบาทสำคัญมากขึ้น ที่ไม่จำเป็นต้องมีทักษะในการเขียนโค้ด ทำให้ผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านโปรแกรม ก็สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
การปรับมาใช้งานออโตเมชันในธุรกิจของคุณไม่เพียงแค่เป็นการพัฒนาขั้นตอนการทำงานแบบเก่า ๆ ให้เป็นระบบอัตโนมัติ แต่มันยังเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีที่หลากหลาย เพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกธุรกิจปัจจุบัน และมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น
โฆษณา