อธิบาย วิธีคำนวณต้นทุนการ ถาม-ตอบ ChatGPT เราต้องถามกี่คำถาม ถึงจะคุ้มที่จ่าย เดือนละ 700 บาท
ChatGPT คือแช็ตบอต AI ที่ตอบคำถามเราได้แทบทุกเรื่อง โดยเราสามารถเริ่มต้นใช้ ChatGPT ได้แบบฟรี ๆ
แต่มีข้อจำกัดคือ ข้อมูลจะไม่อัปเดตเป็นปัจจุบัน และถามได้มากสุดแค่ไม่กี่คำถามต่อวันเท่านั้น
ถ้าอยากใช้เยอะกว่านั้น เราก็ต้องจ่ายเงินเดือนละประมาณ 700 บาท ถึงจะได้ใช้งาน ChatGPT-4o เวอร์ชันล่าสุด ที่สามารถตอบคำถามเราได้ลึกกว่า และข้อมูลก็จะเป็นปัจจุบันมากกว่า
รู้หรือไม่ เว็บไซต์ของ OpenAIมีบอกวิธีการคำนวณค่าใช้จ่ายในการ ถาม-ตอบ ChatGPT-4o เอาไว้ด้วย
ซึ่งถ้าเราคำนวณออกมาแบบตรง ๆ เราต้องถาม ChatGPT-4o ประมาณเดือนละ “3,111 คำถาม” ถึงจะคุ้มกับเงิน 700 กว่าบาทที่เสียในแต่ละเดือน
แล้วคิดคำนวณอย่างไร ? เรามาดูกัน..
- ต้องอธิบายว่า Generative AI หลาย ๆ ตัวอย่าง ChatGPT, Gemini และ Claude จะมีพื้นฐานมาจากสิ่งที่เรียกว่า Large Language Model (LLM) หรือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างให้เหมือนกับสมองของมนุษย์
ทำให้ AI สามารถเข้าใจสิ่งที่เราพูด และตอบกลับมาคล้ายกับที่มนุษย์ตอบเราจริง ๆ ได้
โดยทุกครั้งที่เราถามหรือสั่งให้ AI ทำนู่นทำนี่ ระบบจะทำการประมวลผลจากโมเดลดังกล่าว ด้วยวิธีการที่ซับซ้อนมาก ๆ
และจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นมาหลัก ๆ 2 ส่วน คือ
1. ค่าใช้จ่ายในการประมวลผล “คำถามที่เราใส่เข้าไป”
2. ค่าใช้จ่ายในการประมวลผล “คำตอบที่ AI คิดออกมาให้เรา”
โดยผู้ให้บริการ AI ส่วนมาก จะคิดราคาสำหรับการประมวลผลตามความซับซ้อนของคำศัพท์ ผ่านหน่วยวัด เรียกว่า Tokens
ซึ่งสำหรับ OpenAI เจ้าของ ChatGPT-4o บอกว่า 1 Tokens จะประกอบไปด้วยคำศัพท์ประมาณ “0.75 คำ”
หรือประมาณ “3-5 ตัวอักษร”
ยิ่งศัพท์ยาก จำนวน Tokens ที่ใช้ประมวลผลคำศัพท์ก็จะเยอะขึ้น
- กรณีคำศัพท์ง่าย เช่น คำว่า “Bird” แปลว่า นก จะคิดเป็น “คำศัพท์ 1 คำ” ประกอบไปด้วย 4 ตัวอักษร คือ “B-i-r-d”
ถ้าเอาคำว่า Bird ไปให้ AI ประมวลผล คำว่า “Bird” ก็อาจถูกตีความว่าเป็น 1 Tokens เลยก็ได้ เพราะเป็นคำศัพท์ที่ไม่ซับซ้อน และไม่ยาวเกินไป
- กรณีคำศัพท์ยาก เช่น คำว่า “Fantastically” แปลว่า น่าตื่นเต้น แม้จะเป็น 1 คำศัพท์
แต่ก็มีตัวอักษรเยอะถึง 13 ตัว คือ “F-a-n-t-a-s-t-i-c-a-l-l-y”
ด้วยความยาวขนาดนี้ ถ้าเอาไปให้ AI ประมวลผล อาจจะถูกแบ่งเป็น “Fan” “tas” “tic” “ally”
หรือคิดเป็น 4 Tokens ในคำศัพท์คำเดียวเลยก็ได้
และสำหรับภาษาอื่น ๆ ที่ซับซ้อนกว่าภาษาอังกฤษ ก็จะมีการใช้ Tokens ในการประมวลผลมากกว่า
อย่างภาษาไทยเองที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนเชิงภาษา ก็จะมีการใช้ Tokens
เฉลี่ยเยอะกว่าภาษาอังกฤษพอสมควร
ทีนี้ ChatGPT-4o คิดราคาของ Tokens อย่างไร ?
OpenAI ได้บอกเกณฑ์ค่าบริการต่อ Tokens สำหรับ ChatGPT-4o เอาไว้ตามนี้
- สำหรับ คำถาม จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 0.18 บาท ต่อ 1,000 Tokens (ประมาณ 750 คำ)
ดังนั้นทุก ๆ 1 คำ ที่เราพิมพ์ถาม ChatGPT-4o จะมีค่าใช้จ่ายในการประมวลผลเท่ากับ 0.0002 บาท
- สำหรับ คำตอบ จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 0.53 บาท ต่อ 1,000 Tokens (ประมาณ 750 คำ)
ดังนั้นทุก ๆ “1 คำ” ที่ ChatGPT-4o ตอบ จะมีค่าใช้จ่ายในการประมวลผลเท่ากับ 0.0007 บาท
พอรู้แบบนี้แล้ว ถ้าเราลองอนุมานว่า คำถามและคำตอบ ของเรามีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1 หน้ากระดาษ A4 ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว ประกอบไปด้วยคำศัพท์ 375 คำ
ถ้าสมมติกลม ๆ ว่า ทุก ๆ คำถามของเรามีคำศัพท์ประมาณ 75 คำ และทุก ๆ คำตอบจะมีคำศัพท์ประมาณ 300 คำ
เพราะส่วนใหญ่แล้ว AI จะตอบยาวกว่าที่เราถามเสมอ
- ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคำถามของเรา จะมีค่าเท่ากับ 75 * 0.0002 = 0.015 บาทต่อครั้ง
- ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคำตอบของเรา จะมีค่าเท่ากับ 300 * 0.0007 = 0.21 บาทต่อครั้ง
ก็จะเท่ากับว่า คำถามและคำตอบ ของเรากับ AI ใน 1 หน้ากระดาษ A4 จะมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดราว ๆ
0.015 + 0.21 = 0.225 บาท หรือประมาณ 20 สตางค์
และพอเอาตัวเลขที่ว่ามาคิดกับค่าใช้จ่ายรายเดือน 700 บาท
ก็จะได้ว่าเราต้องถาม ChatGPT-4o ราว 3,111 คำถามต่อเดือน ถึงจะคุ้มค่าสมัครนั่นเอง..
อย่างไรก็ดี การคำนวณนี้เป็นแค่การเอาค่าใช้จ่ายของการประมวลผล AI แต่ละครั้ง
มาคิดให้ดูเท่านั้น ทำให้จำนวน 3,111 คำถามต่อเดือน อาจจะดูเยอะไปหน่อย สำหรับบางคน
แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าการใช้ AI นั้นสามารถช่วยลดภาระงานของเราได้หลายอย่างมาก ๆ
ดังนั้นถ้าตีว่าการใช้ AI จะช่วยให้เราทำงานได้เยอะขึ้นในเวลาเท่าเดิม หรือแม้แต่ช่วยเราในเรื่องยาก ๆ
อย่างการเขียนโคด, สร้างรูปภาพ ที่ต้องใช้คนที่มีความเชี่ยวชาญสูง
ดังนั้นการจ่ายเงิน 700 บาทต่อเดือน จะคุ้มหรือไม่คุ้มนั้น ก็ต้องแล้วแต่ว่าแต่ละคน จะมองอย่างไร..
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
