2 ก.ย. เวลา 12:36 • นิยาย เรื่องสั้น

รักย้อนอดีตภาค3 Space

.
ตอน 10 ซิลล่า(Scylla) และ คาริบดีส(Charybdis)
.
หลังจากที่เจ้าหนูเล่าเรื่องจบแล้ว องค์ราชาทอดเนตรไปรอบๆที่มีแต่ความมืด คืนนั้นไม่มีดวงจันทร์ ดวงดาวกระจ่างเห็นทางช้างเผือกสุกสว่างเป็นทาง
ภานิชามองท้องฟ้าทอดถอนใจ องค์ราชาเห็นเช่นนั้นจึงทรงต้องการเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการถามเจ้าหนู
"ด่านต่อไปเราจะต้องพบกับอุปสรรคเช่นเดียวกับโอดิสซิอุสไหม"
.
"พบไหมหรือ เพราะที่นี่เป็นโลกคู่ขนาน สิ่งที่พระองค์และพี่สาวพบจึงไม่เรียงลำดับเหมือนเรื่องของโอดิสซิอุส และ แม้จะไม่เจอทุกเรื่อง แต่กลับยากเป็น2ถึง3และอาจ4เท่า
.
คือพบเจอทั้งเรื่องของเพอร์ซิอุส เทพบุตรกรีกอีกองค์หนึ่งและได้พบไปแล้วคือเมดูซ่า ยังเหลือ...ซึ่งต้องใช้หัวของเมดูซ่าปราบ ไว้พบด้วยองค์เองก็แล้วกัน
ส่วนมิโนทอร์เป็นเรื่องของวีรบุรุษอีกองค์ พ่ะย่ะค่ะ"
.
ราชา "ช่างน่าปวดheadเสียจริง ถ้าเช่นนั้นสิ่งที่เราจะพบพรุ่งนี้คืออะไร"
.
"เราจะเข้าสู่ช่องแคบซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของอสูรร้ายถึง 2 ตัว คือ....ซิลล่า และ คาริบดีส"
.
ราชา "ด่านสำคัญๆนอกจาก เมดูซ่า แล้วก็คงเป็นอสุรกาย 2 ตนนี้"
.
"หามืได้องค์ราชา เรายิ่งเข้าใกล้อาณาจักรอวตาร์อันตรายก็ยิ่งเพิ่มพูน และ ที่พระองค์หนีไม่พ้นเลยคือไซเรนพ่ะย่ะค่ะ"
.
ราชา "ช่างเป็นคำตอบที่ให้กำลังใจดีเหลือเกิน เอาเถอะราตรีนี้ยังยาวนานนัก เล่าเรื่องของอสุรกายทั้ง2ตนแรกให้ฟังหน่อย จะได้เตรียมตัวรับศึก"
.
เจ้าหนูทำตาปริบๆเหมือนหน่วยความจำกำลังsearch(ค้นหา)ข้อมูล ประมาณไม่กี่วินาทีแล้วเริ่มเล่า "ข้าขอเล่าเรื่องของซิลล่าก่อนพ่ะย่ะค่ะ เดิมทีซิลล่าเป็นพรายน้ำ
ที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม
.
วันหนึ่ง กลอคัส ซึ่งเป็นเทพแห่งท้องทะเลอีกองค์ ได้มาพบเห็นซิลลาก็หลงรักและปรารถนาอยากได้ครอบครองนาง แต่ซิลลากลัวในรูปร่างอันประหลาดของกลอคัสจึงวิ่งหนี
.
กลอคัสจึงเล่าเรื่องนี้ให้แก่แม่มดชื่อเซอร์ซีซึ่งเป็นคนเดียวกับที่โอดิซิอุสไปเสียเวลาอยู่ด้วยพักใหญ่ กลอคัสหวังให้นางช่วยส่งเสริมให้สมหวังในรัก
.
แต่เซอร์ซีดันไปหลงรักกลอคัสเสียเอง(สงสัยนางคงชอบของแปลก) จึงเทยาพิษลงในน้ำจุดที่ซิลลาลงเล่นน้ำบ่อย ๆ
ทำให้ร่างกายท่อนล่างของซิลล่ากลับกลายเป็นสุนัขดุร้าย 6 หัวแทนและถูกตรึงอยู่ในถ้ำบนที่สูงไม่สามารถขยับไปไหนได้ กลายเป็นอสูรกายคอยดักเล่นงานลูกเรือที่ผ่านไปมาและจับกินเป็นอาหาร"
.
ราชา "แล้วเรื่องของคาริบดีส...ล่ะ"
.
เจ้าหนู "คาริบดีส เป็นลูกสาวของโพไซดอน เธอทำหน้าที่คอยช่วยเหลือพ่อในการทำสงครามกับเทพซุส โดยทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ซุสโกรธมากจึงสาปให้เธอกลายเป็นปีศาจที่มีกระเพาะใหญ่โตน่าเกลียด กลืนกินน้ำทะเลลงท้องวันละ 3 ครั้ง จนเป็นที่มาของน้ำวน (whirlpool)
.
ราชา "แล้ววันพรุ่งนี้ เราควรไปทางด้านไหนหรือ เจ้าหนู"
.
"ข้าขอแนะนำให้เข้าใกล้ซิลล่า เพราะช่องแคบแห่งนั้นคาริบดีสน่ากลัวกว่าซิลล่า แม้แต่โอดิสซีอุสยังผ่านไม่ได้"
.
ราชา "ความน่ากลัวของคาริบดีสเราพอเข้าใจ แต่ซิลล่านี่ซิเจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าจะผ่านนางได้"
.
"ก็เมื่อเรารู้ตำนานของโอดิสซีอุสอยู่แล้ว เราก็แค่ใช้อาวุธและวิทยาการสมัยใหม่คือปืนลำแสงและดาบเลเซอร์ซึ่งมีเซ็นเซอร์ล็อคเป้า จัดการกับหัวทั้ง 6 ของมันก็จบ แถมเรือก็ไม่ต้องเข้าใกล้คาริบดีส เพราะข้าในร่างของเรือก็ไม่แน่ใจว่าจะทนน้ำวนไหวไหม"
.
องค์ราชาและภานิชาถึงกับปรบมือให้กับความชาญฉลาดของเจ้าหนู 10 ทิศ โดยเฉพาะภานิชาถึงกับดึงเจ้าหนูมากอดและจูบแก้มด้วยความเอ็นดู
.
เด็กถึงอย่างไรก็เป็นเด็กวันยังค่ำ เจ้าหนู 10 ทิศยิ้มอย่างเขินอายด้วยความพอใจ กระแอมกระไอก่อนพูดเหมือนสุนันทวัฒน์ยังไงยังงั้น "ส่วนคืนนี้เราควรพักเพื่อผจญภัยในวันพรุ่งนี้เถิดพ่ะย่ะค่ะ"
.
วันรุ่งขึ้นเจ้าหนู10ทิศกลายร่างเป็นเรือใหญ่แข็งแรง เหมือนเรืออาร์โกของเจสันซึ่งวีรบุรุษอีกคนเช่นกัน(เรือนี้อยู่ในเรื่องอภินิหารขนแกะทองคำ)เพื่อหลอกล่อให้ซิลล่าคิดว่ามีเหยื่อมาให้นางมากมายเหมือนที่ผ่านมา
.
หน้าผาสูงชันข้างหน้าซึ่งมีถ้ำอยู่ข้างบนดำมืดจนมองอะไรไม่เห็น องค์ราชาและภานิชาสบตากันอย่างพรั่นพรึง ต่างกระชับอาวุธในมือมั่น ทันทีที่เรือผ่านหน้าผา
สูง 10ทิศในร่างของเรือก็ตะโกนขึ้น "มันมาแล้ว"
 
.
สุนัขทั้ง 6 หัวของซิลลาดูราวอสรพิษใหญ่ที่มีหัวเป็นสุนัข ต่างแยกย้ายไปทั่วลำเรือหัวหนึ่งฉกลงมาที่ราชาเพื่อจับพระองค์และโดนปืนลำแสงจนหัวขาดกระเด็น
อีกหัวหนึ่งฉกไปทางภานิชาจึงเจอดาบลำแสงตัดหัวขาดเช่นกัน อีก4หัวจึงหดกลับไปอย่างเก่า แต่ทั้งองค์ราชาและภานิชาก็ไม่วางใจยังคงเตรียมพร้อมอยู่ที่หัวเรือและท้ายเรือ
เรือแล่นเอื่อยๆไปตามเชิงผาจนเหลืออีกเพียง10เมตรก็พ้น พลันเจ้าหนูก็ตะโกนขึ้นอีก "มันมาแล้ว"
.
หัวของซิลลาที่เหลืออีก4หัวฉกลงมาพร้อม ๆ กัน คราวนี้มันแยกมาที่หัวเรือที่องค์ราชาคุมอยู่2หัว และ อีก2หัวไปทางท้ายเรือที่ภานิชารออยู่
แน่นอนว่าบทจบของซิลล่าเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น เสียงของเจ้าหนูบอกว่า "เมื่อจัดการกับหัวทั้ง6ของซิลล่าแล้ว ซิลล่าก็จะกลายเป็นแค่โขดหินทำร้ายใครไม่ได้
อีกต่อไป"
 
.
ราชา "เราต้องปราบคาริบดีสด้วยหรือไม่"
.
"ไม่จำเป็นพ่ะย่ะค่ะ เมื่อซิลล่ากลายเป็นโขดหินแล้ว เรือทุกลำก็ไม่ต้องเข้าใกล้คา
ริบดีส สามารถผ่านหน้าผาของซิลล่าได้โดยสะดวก พ่ะย่ะค่ะ
เท่ากับเราช่วยชีวิตชาวเรือไว้ได้มากมาย อีกประการหนึ่งข้าก็ยังไม่รู้วิธีจัดการกับคาริบดีส"
.
จบตอน 10 ภาพปกจาก สรรหามาให้ดู ถ้ำใต้ดินที่เรียงรายไปด้วยเปลือกหอยนับล้านตัว ในเมืองมาร์เกต มณฑลเคนต์ ประเทศอังกฤษ
.
ถ้ำเปลือกหอยแห่งนี้ประดับประดาด้วยเปลือกหอยกว่า 4.6 ล้านชิ้น ที่เรียงกันอย่างประณีตบรรจง จนกลายเป็นโมเสกที่วิจิตรปกคลุมผนังและเพดานทุกตารางนิ้ว การออกแบบมีความแม่นยำและซับซ้อน โดยแสดงสัญลักษณ์ลวดลายและรูปร่างต่างๆ
ถือเป็นความลึกลับ จนยากที่จะเข้าใจที่สุดแห่งหนึ่ง ถูกค้นพบเมื่อปีพ.ศ. 2378 ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นผู้สร้าง สร้างเมื่อไหร่ และสร้างทำไม บางคนคาดเดาว่าถ้ำแห่งนี้สร้างโดยบุคคลแปลกประหลาดพิสดาร
โฆษณา