EP : 1,278 100 วันก่อนที่เธอจะจากไป
ผมยอมรับว่าชื่อเรื่องเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผมเลือกหาซื้อหนังสือการ์ตูนเรื่องนั้นมาอ่านอยู่ไม่น้อย หลายๆครั้ง ด้วยความไม่รู้จักคนเขียนมาก่อน ผมก็ใช้ชื่อเรื่องนี่แหละช่วยในการตัดสินในการเสียเงิน
อย่างเรื่องนี้ก็เช่นกันครับ จำไม่ได้ว่าเคยอ่านงานของ อ. ท่านนี้มาก่อนหรือเปล่า แต่ก็หามาอ่านเพราะชื่อเรื่องมันชวนให้คิดได้ว่าจะมีเนื้อหาที่ผมน่าจะชอบได้อย่างไม่ยากเย็นกับเรื่องราวแนวดราม่าที่ได้กลิ่นชัดตั้งแต่แรกอ่านชื่อใน “100 วันก่อนที่เธอจะจากไป
.... จากเลข 100 ที่ค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆในแต่ละวัน... จนเมื่อถึงเลข 0.... นั่นหมายถึงคนผู้นั้นก็จะต้องเสียชีวิตลงไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่คือตัวเลขที่ผมเห็นปรากฎอยู่บนร่างกายของคนที่กำลังจะสิ้นอายุไข ผมไม่รู้ว่าทำไมผมจึงสามารถเห็นมันได้ แต่ที่แน่ๆ เมื่อเห็นเลข 100 นี้ บนร่างใครก็ตาม ไม่เคยมีใครที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้หลังเลขถูกนับจนถึงเลข “0” เลยซักคน
เพราะแบบนั้น “ทาโร่” จึงตกใจมาก เมื่อได้เห็นเลข 100 นี้ปรากฏอยู่บนร่างของ “อุมิ” เพื่อนสาวที่เติบโตมาด้วยกันและเป็นหญิงสาวที่เขาเพิ่งสารภาพรัก(อีกครั้ง) จนเธอตอบตกลงเป็นแฟนกับเขา นั่นหมายถึงว่าชีวิตของอุมิ กำลังจะหมดลงไปในอีก 100 วันต่อจากนี้ และนี่คือเรื่องราวของการพยายามค้นหาทางรอดของอุมิ ใน “100 วันก่อนที่เธอจะจากไป”
ด้วยชื่อเรื่องที่ชัดซะขนาดนี้ มีใครบ้างที่จะไม่คิดว่าข้างในนั้นจะต้องเต็มไปด้วยเรื่องราวแนวดราม่าหนักๆ เรียกน้ำตาตลอดทั้งเรื่องแน่ ซึ่งก็ใช่ครับ เรื่องราวมันตรงกับชื่อเรื่องและการคาดเดา รวมถึงคาดหวังตามนั้นเลย เพิ่มเติมคือเรื่องราวมันถูกนำเสนอออกมาในโทนสว่างและมีความหลากหลายของเรื่องราวมากกว่าที่ผมคาดไว้พอสมควรเลย
อย่างแรกที่อยากพูด ก็คือ ด้วยการวางโครงเรื่องและแนวเรื่องที่อยากนำเสนอของ อ. มันมีความชัดเจนว่ามีการตีโจทย์เรื่องนี้ให้ออกมาในโทน “สดใส” และมีความเป็นวัยรุ่นอย่างชัดเจน เราจึงได้เห็นเรื่องราวดราม่าที่เต็มไปด้วยพลังชีวิตอันล้นเปี่ยมแบบวัยรุ่น ซึ่งเป็นช่วงวัยที่อะไรก็สามารถทำได้
โดยสะท้อนผ่านคาเรทเตอร์ของตัวละครเอก 2 คนอย่าง ชิโร่ และ อุมิ ซึ่งแม้จะเป็นคาเรทเตอร์ที่ไม่ใช่อะไรที่ใหม่ แต่ก็สามารถใช้สื่อสารถึงชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยพลังในการขับเคลื่อน ชีวิตที่ยังมีความหวังแม้จะเจอสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างไรก็ตาม นัยนึง ตัวละครแบบนี้ มันสามารถส่งต่อพลังไปยังผู้อ่านได้เป็นอย่างดี
นี่เป็นจุดที่ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้สามารถทำออกมาได้ดี เพราะท้ายสุด มังงะเรื่องนี้แม้ชื่อจะเศร้าสร้อยอย่างไรก็ตาม เนื้อหามันสามารถส่งพลังแห่งความหวังและการเดินไปข้างหน้าให้กับคนอ่านทุกคนได้เป็นอย่างดีครับ
นั่นหมายถึงในมุมมองผม นี่เป็นมังงะแนวให้กำลังใจที่ดีมากๆเรื่องนึง รวมถึงเป็นมังงะแนวความรักของวัยรุ่นที่มีความสดใสและให้ความรู้สึกว่าสมกับเป็นความรักของวัยรุ่นวัยใสจริงๆ เต็มไปด้วยลักษณะท่าทางสะท้อนหนุ่ม young boy สายตรงที่ไม่มีประสบการณ์เรื่องความรักและเทิดทูนความรักที่มีต่อใครบางคนอย่างลึกสุดใจ
แต่ก็ใช่ว่าความดราม่าที่นำเสนอจะดูสดใสตามตัวละครที่ใช้ไปด้วยนะครับ เพราะดราม่าก็ยังคงเป็นดราม่า สิ่งที่ใส่มาใช้เป็นเหตุผลหลักในการเดินเรื่อง ก็ยังคงทำหน้าที่ของมันแบบที่ควรจะเป็น ความตรึงเครียด ที่มีอยู่เป็นจังหวะตลอดทั้งเรื่องยังคงสื่อสารออกมาได้น่าสนใจ เพียงแต่ว่าหากมองในมุมผม เรื่องนี้ ต้องการสื่อสารความหวังท่ามกลางเรื่องทุกข์และทรมานว่าท้ายสุดแล้วมันมีทางออกเสมอไม่ใช่มีแต่ความสิ้นหวังเสมอไป
ด้วยรายละเอียดของเรื่องราว ตัวเรื่องมีองค์ประกอบที่ค่อนข้างดีพอสมควรในเรื่องราวแนวนี้ การเล่าไม่พยายามดึงดิ่งหรือดาร์กมากไปเพราะเน้นความหวัง โครงเรื่องมีการหยอดและใส่อุปสรรค์อื่นๆเพิ่มเติมเข้ามาตามเรื่องราวแนวความรัก และด้วยความที่มันเป็นเรื่องราวแฟนตาซี(ด้วยพลังพิเศษของพระเอกเรา) ในเรื่องเราก็เลยได้เห็นจุดเปลี่ยนที่ผู้เล่าพยายามใส่เข้ามาโดยอิงกับความแฟนตาซีนี้เพื่อไม่ให้เรื่องนิ่งจนเกินไป
อาจจะเพราะกรอบของเรื่องได้วางไว้คร่าวๆว่าจะเดินเรื่องอย่างไร เรื่องนี้จึงเดินเรื่องค่อนข้างตรง มีการเบี่ยงซ้ายขวาไม่มาก เนื้อหาอาจจะไม่ถึงกับกระชับสั้นอะไรมาก แต่เน้นเล่าเรื่องให้ได้ใจความในแง่สิ่งที่ตัวเอกต้องเจอ ทั้งในแง่ปัญหาและการใส่ความรักและกำลังใจประกอบไปในแต่ละตอน เนื้อหาจึงค่อนข้างเดินเรื่องเร็วในความรู้สึกของผม มีการใส่เรื่องราวแนวจิตวิทยาเข้าไปร่วม ตามสเตปเรื่องราวแต่ก็ไม่ได้ลงลึกมากขนาดพาเราไปไกลจากเนื้อหาที่กำลังเล่า
แม้เมื่อรวมกับเนื้อหาตรงจุดเปลี่ยนในช่วงท้ายเรื่องเข้าไป เนื้อหาทั้งหมดก็ยังอยู่ในกรอบของสิ่งที่อยากเล่าและนำเสนอให้ออกมาได้กระชับไม่ยืดยาวเกินไปได้อย่างดี
ผมมองเรื่องนี้ในแง่ว่าเป็นมังงะแนวความรักและให้กำลังใจเป็นสำคัญนะครับ ซึ่งตรงส่วนนี้ในมุมมองผม เลยออกจะแตกต่างและไม่เป็นอย่างที่ผมคาดหวังก็ว่าได้ เพราะส่วนตัวนึกว่าจะดาร์กมากกว่านี้ อันนี้เป็นความคาดหวังส่วนตัวครับ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีปัญหาอะไรกับแนวทางที่เรื่องนี้ต้องการนำเสนอออกมา ก็อย่างที่บอกครับว่ามองในแง่ดี มันเป็นมังงะแนวดราม่าที่ให้พลังบวกและกำลังใจกับคนที่ได้อ่านมันครับ
“100 วันก่อนที่เธอจะจากไป” เป็นมังงะ 6 เล่มจบ จาก สนพ LuckPim(LuckLady) เรื่องและภาพโดย อ. Migihara ซึ่งหากใครสนใจก็ยังหาอ่านได้ง่าย ไม่ได้ยากเย็นอะไรครับสำหรับเรื่องนี้
แม้จะไม่ตรงกับความคาดหวังส่วนตัวของผม แต่ก็ต้องยอมรับว่า ในแง่เนื้อหา เรื่องที่มีพลังบวกอยู่เยอะแบบนี้ ผมอยากให้มีอยู่ในตลาดมังงะเยอะๆนะ แม้จะชอบความดิ่ง แต่แนวดิ่งมันไม่ได้หาอ่านยากอะไรนักในปัจจุบัน ในสภาพสังคมที่วุ่นวายและเต็มไปด้วยความรู้สึกอึดอัดจากอะไรซักอย่างหรือหลายๆอย่างตามแต่
แต่ละคนจะเจอ ผมว่าการอ่านเรื่องนี้ ก็ช่วยให้กำลังใจได้ดีไม่น้อยนะ เนื้อหาอาจไม่ได้แตกต่างหรือเดาทางยากอะไรนัก เหมาะกับคนหาอะไรแนวฟิลกู๊ดอ่านเพื่อฮิลจิตใจ เรื่องนี้น่าจะตรงความต้องการแบบนั้นไม่มากก็น้อยครับ
ภาพ 7/10
เรื่อง 7/10
ความประทับใจ 7.4/10
#Manga #รีวิวการ์ตูน #จบ #6เล่มจบ #LuckPim #LuckLady #การ์ตูนแนวแฟนตาซี #การ์ตูนรัก #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวดราม่า #7คะแนน #100วันก่อนที่เธอจะจากไป #หนังสือการ์ตูน #Rate15 #เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
