Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
PPTV Wealth
•
ติดตาม
4 ก.ย. 2024 เวลา 05:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เจาะ "หุ้นไทยเบฟ" เป็นเจ้าของได้ผ่านตลาดหุ้นไทยผ่าน DR
เจาะ "หุ้นไทยเบฟ" เป็นเจ้าของได้ผ่านตลาดหุ้นไทย DR โบรกฯ มอง กำไรปกติจะสามารถกลับมาเติบโตได้ในครึ่งหลังของปี 2567
ฐิติเมธ โภคชัย ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ เป็นบริษัทเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ในปี 2549 โดยมีสัญลักษณ์การซื้อขายว่า SGX:Y92
ปี 2555 ได้ขยายธุรกิจผ่านการเข้าซื้อ บริษัท เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ (F&N) ผู้นำตลาดธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม สิงคโปร์
กลุ่มธุรกิจไทยเบฟ
จากนั้นปี 2560 เข้าซื้อหุ้นในแกรนด์ รอยัล กรุ๊ป (GRG) ผู้ประกอบการตลาดวิสกี้ของเมียนมา และไซ่ง่อน เบียร์-แอลกอฮอล์-เบฟเวอเรจ คอร์ปอเรชั่น (ซาเบโก้) ผู้ผลิตเบียร์ของเวียดนาม
เจาะหุ้นไทยเบฟ
พบว่า ปัจจุบันราคาหุ้นไทยเบฟ ซื้อขายในราคาที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับการประเมินมูลค่า โดย Bloomberg Consensus ให้ราคาหุ้นไทยเบฟที่เหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 0.63 ดอลลาร์สิงคโปร์ โดยราคาที่ปรับลดลงสะท้อนปัจจัยลบจากผลประกอบการที่อ่อนแอไปมากแล้ว ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในระยะถัดไปคาดว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้น เห็นได้จากการบริโภคในเวียดนามที่เริ่มฟื้นตัว และคู่แข่งรายใหม่ในประเทศไทยไม่สามารถรักษาโมเมนตัมทางธุรกิจได้หลังจากการเปิดสินค้ากลุ่มเบียร์ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567
และอีกประเด็นหนึ่งที่ควรคำนึงถึง คือ ราคาหุ้นมีเสถียรภาพค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม สะท้อนจากค่าเบต้า (Beta) ที่อยู่ในระดับต่ำกว่า 1 หมายถึง มีความผันผวนน้อยกว่าตลาดหุ้นโดยรวม ซึ่งตามปกติแล้วจะมีความเสี่ยงน้อย และมีโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ต่ำกว่าจากกำไรส่วนต่างของราคาหุ้น จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการหุ้นที่มีเสถียรภาพและมีโอกาสเติบโตในระยะยาว
หากนักลงทุนไทยสนใจ ซื้อหุ้นไทยเบฟ
สามารถลงทุนหุ้นตัวนี้ผ่าน DR (Depositary Receipts) หรือตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยผู้ออก DR คือ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จะเป็นคนไปซื้อหุ้นไทยเบฟ แล้วนำมาเสนอขายให้กับนักลงทุนไทยในรูปสกุลเงินบาทอีกต่อหนึ่ง โดย DR มีชื่อย่อในการซื้อขายคือ “THAIBEV19” อ้างอิงหุ้นของไทยเบฟ ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์
โดยข้อดีของการซื้อ DR คือ ผ่านแอป Streaming ที่ใช้ซื้อหุ้นไทย เพียงแจ้งความประสงค์เพื่อซื้อขาย DR กับโบรกเกอร์ที่ให้บริการ โดยเลือกส่งคำสั่งเป็นจำนวนบาท และยังได้เงินปันผล เสมือนซื้อหุ้นต่างประเทศนั้นโดยตรง
โบรกฯ มองกำไรปกติจะสามารถกลับมาเติบโตได้ในครึ่งหลังของปี 2567
นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่ากำไรปกติจะสามารถกลับมาเติบโตได้ในครึ่งหลังของปี 2567 จากการเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สูงขึ้น และอากาศที่ร้อนกว่าปกติ รวมถึงการได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ
ด้านนักวิเคราะห์ทริสเรทติ้ง ประเมินว่าในปีงบประมาณ 2567 รายได้ของไทยเบฟจะคงอัตราการเติบโตที่ประมาณ 3% ต่อปีในช่วงปีงบประมาณ 2568 – 2569 โดยรายได้ของทุกธุรกิจจะมีการขยายตัว ยกเว้นรายได้จากธุรกิจเบียร์ในประเทศไทย ที่จะได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น และคาดว่า EBITDA Margin จะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับประมาณ 17 - 18% ในช่วงปีงบประมาณ 2566 - 2569 จากการที่บริษัทมีแผนในการจัดการต้นทุนที่รัดกุมและต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง
สําหรับตลาดต่างประเทศก็มีซาเบโก้ ผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 35 - 40% ในขณะที่ GRG ก็เป็นผู้ผลิตและจัดจําหน่ายวิสกี้รายใหญ่ที่สุดในเมียนมา ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 70% ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทจะยังคงรักษาสถานะที่แข็งแกร่งทางการตลาดเอาไว้ได้จากการมีตราสินค้าที่แข็งแกร่งและเครือข่ายการจัดจําหน่ายที่กว้างขวางมีเครือข่ายการจัดจําหน่ายที่กว้างขวาง
ไทยเบฟ มีเครือข่ายการกระจายสินค้าครอบคลุมร้านค้าปลีกในประเทศไทยมากกว่า 500,000 ร้าน ศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ 4 แห่ง รถขนส่งสินค้าจํานวนมากกว่า 7,000 คัน นอกจากนี้ ยังมีช่องทางจําหน่ายผ่านตัวแทนที่มีประสิทธิภาพอีกมากกว่า 250 ราย มีพนักงานขายมากกว่า 1,700 คน
อย่างไรก็ตาม เครือข่ายกระจายสินค้าผ่านร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมของบริษัท สามารถสร้างยอดขายสําหรับการบริโภคในครัวเรือนที่ฟื้นตัว ลดการพึ่งพาช่องทางศูนย์การค้าสมัยใหม่ลงได้ และขยายสู่ตลาดในภูมิภาคอาเซียนโดยผ่านบริษัทในเครือที่สําคัญ ๆ เช่น F&N มาเลเซียและสิงคโปร์ ส่วนการซื้อกิจการของซาเบโก้ และ GRG จะทำให้เพิ่มเครือข่ายในการกระจายสินค้าไปยังเวียดนามและเมียนมาอีกด้วย
กลุ่มธุรกิจไทยเบฟ
รู้จักธุรกิจ ไทยเบฟ ของเจ้าสัว เจริญ สิริวัฒนภักดี
ดำเนินธุรกิจผลิต นำเข้า จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม แบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจสุรา เบียร์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้แบรนด์ของโออิชิ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทส่วนใหญ่จะเน้นการจำหน่ายภายในประเทศไทยเป็นหลัก (สัดส่วน 72%) และบางส่วนส่งออกไปเวียดนาม (สัดส่วน 22%) และประเทศอื่น ๆ (สัดส่วน 6%)
ไทยเบฟ เป็นผู้ประกอบธุรกิจเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุด ครองส่วนแบ่งทางการตลาดในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาเป็นเวลานาน โดยบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดตามยอดขายสุรามากกว่า 90% และเบียร์เกือบ 40% อีกทั้ง ยังเป็นผู้นําในตลาดชาพร้อมดื่มและน้ำเมา และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายสําคัญในกลุ่มเครื่องดื่มน้ำอัดลมและเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ ด้วย
ผลประกอบการงวดครึ่งแรกปี 2567 (ตุลาคม 2566 – มีนาคม 2567) มียอดขาย 147,742 ล้านบาท ลดลง 0.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีกำไรสุทธิ 16,917 ล้านบาท ลดลง 4.9% เนื่องจากยอดขายสุราและเบียร์ปรับลดลง ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 30.4% เพิ่มขึ้นจาก 29.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากรับรู้การปรับตัวลงของราคาต้นทุนวัตถุดิบ
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
https://www.pptvhd36.com/wealth/stock-investment/231819
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์
https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
Facebook PPTV Wealth :
https://www.facebook.com/PPTVWealth/
YouTube Wealth :
www.youtube.com/@PPTVWealth
หุ้น
หุ้นไทย
ตลาดหุ้น
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย