4 ก.ย. เวลา 10:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ

SCB รับห่วงหนี้ครัวเรือน แนะรัฐบาลวางแผน 3 ขั้น

ไทยพาณิชย์ ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 67 โต 2.5% ครึ่งปีหลังมีทั้งโอกาสและปัจจัยเสี่ยง รับห่วงหนี้ครัวเรือน แนะรัฐบาลวางแผน 3 ขั้น
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตได้ที่ 2.5% โดยในช่วงครึ่งปีหลังมองว่ายังมีทั้งโอกาส เช่น ภาคการท่องเที่ยวที่จะเติบโตขึ้นในช่วงไฮซีซั่น ซึ่งเป็นเสาหลักสำคัญของเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกันก็ยังเผชิญความเสี่ยงหรือความท้าทาย เช่น ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทย
กฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB
นายกฤษณ์ ระบุว่า หลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-19 ทุกธนาคารมีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อใหม่ มีการบริหารจัดการในการตั้งสำรอง บริหารหนี้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ปล่อยให้เกิดความเสี่ยงมากจนเกินไป ธนาคารไทยพาณิชย์ก็เช่นกัน
ถามว่ากังวลไหม ผมเชื่อว่าทุกธนาคารกังวลหมด แต่ถามว่ามีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิด Systemic risk หรือเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องกังวลหรือเปล่า ผมคิดว่าสถาบันการเงินของประเทศไทยผ่านวิกฤตมามากมายและทุกคนดูแลจัดการตัวเองได้อย่างเข้มแข็ง.....นายกฤษณ์ กล่าว
นายกฤษณ์ กล่าวด้วยว่า ในขณะที่เศรษฐกิจมีความท้าทายทุกธนาคารก็ไม่ควรรับความเสี่ยงจนเกินไป ดังนั้นการบริหารจัดการพอร์ตสินเชื่อในการรับลูกค้าใหม่ก็มีความสำคัญ เพราะหากสถาบันการเงินมีความสั่นคลอน ก็มีโอกาสที่ระบบเศรษฐกิจจะมีความสั่นคลอนเช่นกัน จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องมาพูดคุยร่วมกันว่าจะมีมาตรการร่วมกันอย่างไรได้บ้าง หากมีนโยบายจากรัฐบาล ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือสมาคมธนาคารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์เองก็ยินดีที่จะดำเนินการสนองนโยบาย
สำหรับรัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศ คงต้องมีแนวทางในการดำเนินงานที่ชัดเจน โดยวางแผน 3 ขั้น คือ
1. กระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น อย่างไรให้เกิดความสมดุล ใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะเศรษฐกิจอยู่ในจุดที่มีความเสี่ยงค่อนข้างมาก
2. สร้างศักยภาพในระยะยาว ซึ่งไม่ควรกระจายมาก ไม่มีจำนวนเยอะเกินไป แผนที่มีความคมชัดไม่ควรมีจุดโฟกัสมากกว่า 3-5 อย่าง
3. ต่อยอดอย่างไรเพื่อให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ชูแนวคิด “อยู่ อย่าง ยั่งยืน” (Live Sustainably)
ชูแนวคิด “อยู่ อย่าง ยั่งยืน” (Live Sustainably)
SCB วางเป้าหมายสู่ความยั่งยืนใน 3 ระยะ
1. สนับสนุนลูกค้าเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนด้วยสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนจำนวน 150,000 ล้านบาท ภายใน 2025
2. ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานของธนาคาร (Scope 1-2) ให้เป็น Net Zero ภายในปี 2030
3. เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ตั้งเป้า Net Zero 2050 จากการให้สินเชื่อและเงินลงทุนตามมาตรฐาน Science Based Target Initiatives (SBTi) หนุนภาคธุรกิจก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ พร้อมปักหมุดเป็น AI-First Bank เพื่อขับเคลื่อนธนาคารสู่เป้าหมาย Digital Bank With Human Touch
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/monetary/231848
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา