5 ก.ย. เวลา 13:10 • ประวัติศาสตร์

EP 26 Melodic Memories: เปิดเบื้องหลังบทเพลงลาวดวงเดือนที่คุณอาจไม่รู้!

เมื่อพูดถึงประเทศเพื่อนบ้านของไทยอย่าง สปป. ลาว หลายคนอาจคุ้นเคยกับวัฒนธรรมที่ใกล้ชิดกันมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นภาษา ความเชื่อ หรือดนตรี หนึ่งในบทเพลงที่สะท้อนถึงความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมระหว่างไทยและลาวได้อย่างชัดเจนคือ เพลงลาวดวงเดือน ซึ่งเป็นเพลงไทยเดิมที่ได้รับอิทธิพลจากทำนองดนตรีพื้นบ้านของลาว
เพลงนี้ประพันธ์ขึ้นโดย พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม (หม่อมหลวงต่วน) ซึ่งมาจาก ราชสกุลมหิดล พระองค์ทรงเป็นบุคคลสำคัญที่ได้ผสมผสานทำนองพื้นบ้านลาวเข้ากับดนตรีไทยได้อย่างลงตัว และสร้างสรรค์บทเพลงที่ยังคงเป็นอมตะจนถึงปัจจุบัน
ที่มาของบทเพลงลาวดวงเดือน
บทเพลงนี้เดิมมีชื่อว่า "ลาวดำเนินเกวียน" ซึ่งเป็นเพลงไทยเดิมที่มีทำนองพื้นบ้านดั้งเดิมของลาว ทำนองเพลงสะท้อนถึงวิถีชีวิตของคนในชนบทไทยและลาว การใช้คำว่า “ลาว” ในชื่อเพลงไทยเดิมเป็นการบ่งบอกถึงอิทธิพลของทำนองดนตรีลาวหรือการผสมผสานกับดนตรีพื้นบ้านของไทย
นอกจากนี้ยังเปรียบเทียบหญิงสาวกับ "ดวงเดือน" ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่งดงามและอ่อนโยน ในขณะเดียวกันก็แสดงถึงการอาลัยรักเมื่อต้องจากลากัน
ขอลาแล้วเจ้าแก้วโกสุม
พี่นี้รักเจ้าหนอขวัญตาเรียม
จะหาไหนมาเทียมโอ้เจ้าดวงเดือนเอย
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม
ความหมายของบทเพลงแต่ละท่อน
"ขอลาแล้วเจ้าแก้วโกสุม"
ท่อนนี้สะท้อนถึงการกล่าวลาหญิงสาวที่ชายหนุ่มรัก โดยเปรียบหญิงสาวกับ "แก้วโกสุม" ซึ่งเป็นดอกไม้ที่สวยงาม เป็นการบอกลาที่แสดงถึงความอาลัยในการจากลา ชีวิตในยุคก่อนมักจะมีการจากลาของชายหนุ่มไปทำงานหรือทำหน้าที่อื่นๆ ที่ห่างจากบ้าน และการจากลาก็เป็นเรื่องสำคัญในความสัมพันธ์
"พี่นี้รักเจ้าหนอขวัญตาเรียม"
ชายหนุ่มแสดงความรักและความผูกพันต่อหญิงสาว โดยเรียกหญิงสาวว่า "ขวัญตาเรียม" คำว่า "เรียม" หมายถึงคนรัก หรือที่รัก แสดงถึงความใกล้ชิดและผูกพันทางจิตใจ การใช้คำเช่นนี้ในเพลงสะท้อนให้เห็นค่านิยมในสมัยนั้นที่เน้นการแสดงความรักผ่านคำที่นุ่มนวลและละเอียดอ่อน
"จะหาไหนมาเทียมโอ้เจ้าดวงเดือนเอย"
ชายหนุ่มเปรียบเทียบหญิงสาวกับ "ดวงเดือน" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความงามที่สูงส่ง การบอกว่า "จะหาไหนมาเทียม" แสดงถึงความเชื่อว่าไม่มีใครเทียบเท่ากับความงามและความรักที่เขามีต่อเธอ ค่านิยมในสมัยนั้นให้ความสำคัญกับความงามของหญิงสาวทั้งภายนอกและภายใน โดยเปรียบเทียบกับสิ่งที่สวยงามที่สุดในธรรมชาติ
มุมมองที่สะท้อนความงามเชิงศิลปะ
หากเรามองจากมุมมองในปัจจุบัน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม ถือเป็นผู้ที่มีความสามารถในการนำดนตรีพื้นบ้านมาปรับใช้ในเพลงไทยเดิมอย่างลงตัว ท่านได้นำทำนองพื้นบ้านลาวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของดนตรีไทย ซึ่งสะท้อนถึงความเปิดกว้างและการผสมผสานทางวัฒนธรรมที่ยังคงเห็นได้ชัดเจนในยุคนั้น เพลงลาวดวงเดือนยังคงถูกบรรเลงและขับร้องในหลายโอกาสจนถึงปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงความอมตะของบทเพลงที่มีความหมายและความงามเชิงศิลปะอย่างลึกซึ้ง
บทสรุป
เพลงลาวดวงเดือน ไม่เพียงแต่เป็นเพลงที่งดงามในเชิงดนตรี แต่ยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างไทยและลาวในยุคก่อน การใช้ทำนองที่ได้รับอิทธิพลจากดนตรีพื้นบ้านลาว แสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ เพลงนี้ไม่เพียงสื่อถึงความรักและการอาลัยในการจากลา แต่ยังสะท้อนถึงค่านิยมของคนในสมัยนั้นที่เน้นความซื่อสัตย์และความผูกพันทางจิตใจ การใช้คำเปรียบเทียบที่อ่อนโยนและละเอียดอ่อน แสดงให้เห็นถึงความงดงามของความรักในยุคโบราณ และยังคงมีความหมายและเป็นที่รักในปัจจุบัน
บทความอ้างอิง
  • กรมศิลปากร. ดนตรีไทยและวัฒนธรรมพื้นบ้าน. สำนักพิมพ์แห่งประเทศไทย, 2545.
  • สุจิตต์ วงษ์เทศ. เพลงไทย: ความเป็นมาทางวัฒนธรรม. สำนักพิมพ์ดอกหญ้า, 2538.
  • สถาบันดนตรีศึกษาไทย, บทบาทของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดมกับเพลงลาวดวงเดือน. วารสารดนตรีศึกษา, 2561.
  • มหาวิทยาลัยศิลปากร. การผสมผสานวัฒนธรรมในเพลงไทยเดิม. วารสารดนตรีศึกษา, 2559.
โฆษณา