6 ก.ย. เวลา 00:02 • หนังสือ

BOOK REVIEW : TOXIC POSITIVITY คิดบวกเป็นพิษ

ชื่อหนังสือ : TOXIC POSITIVITY คิดบวกเป็นพิษ
ผู้เขียน : Whitney Goodman
ผู้แปล : วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ
สำนักพิมพ์ : howto
เรตติ้ง : ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️/5
รู้สึกยังไงกันบ้างคะ เวลาที่เรากำลังเศร้าแล้วได้ยินคำว่า “คิดบวกสิ” ?
และเคยมีสักครั้งไหมคะที่รู้สึกว่าต้องฝืนใจคิดบวก ? เพราะมีความหวังว่าการคิดบวกจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดีขึ้น
“คิดบวกเป็นพิษ” เป็นหนังสือที่สะท้อนให้เห็นอีกด้านของการคิดบวก ที่ถ้าไม่ถูกจังหวะเวลา หรือมากเกินพอดีก็จะกลายเป็นพิษร้ายกับเราได้ หนังสือไม่ได้บอกให้เราคิดลบ แต่บางทีการบอกให้คนอื่นหรือแม้แต่ตัวเองต้องคิดบวกในเวลาที่มันยังไม่ใช่มันก็เป็นพิษได้ เช่น คู่รักที่เพิ่งเลิกราหรือหย่าขาดกันทั้งที่คบกันมานานนับสิบปี แต่ต้องรีบคิดบวกว่าดีแล้วที่เลิกกัน และต้องรู้สึกขอบคุณชีวิตที่ให้ความโสดอีกครั้งอะไรทำนองนั้น
ฉันเคยมีประสบการณ์คล้าย ๆ กันนี้ หลังจากเลิกกับอดีตคนรักที่คบกันมายาวนานกว่าสิบปีได้ไม่นาน ฉันมักจะได้รับคำแนะนำให้พูดกับตัวเองในกระจกทุกวันว่า “เรามีคุณค่า” ฉันก็ทำตามคำแนะนำนะ เพียงแต่ในใจฉันตอนนั้นไม่ได้คิดแบบนั้นเลย สีหน้าและแววตาของฉันไร้พลังและไม่มีความหวังอะไรเลย แต่ฉันก็ยังพูดกับตัวเองในกระจกแบบนั้นเพราะคิดว่าการพูดดี ๆ กับตัวเองจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
จริงอยู่ที่คนเราควรคิดในแง่ดี แต่การยืนพูดหน้ากระจกแล้วบอกว่าตัวเองมีคุณค่าทั้งที่ในใจไม่ได้คิดแบบนั้น ฉันคิดว่ามันก็เป็นแค่การพูดเหมือนนกแก้วนกขุนทอง แต่ไม่ได้มีความเชื่อมโยงอะไรกับใจของเราเลย ถึงแม้จะพูดทุกวันแต่ก็ใช่ว่าจะนำมาซึ่งความสุข
ฉันชอบบทสรุปที่คุณวิทนีย์บอกเอาไว้ว่า “การคิดบวกไม่ใช่พิษร้าย เพียงแต่มันกลายเป็นพิษได้” สรุปโดยรวมตามที่ฉันเข้าใจหนังสือเล่มนี้บอกให้เรายอมรับสิ่งที่ดีและไม่ดีที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา คนเราไม่ต้องมีความสุขตลอดเวลาก็ได้ บางทีเราก็คิดลบ บางทีเราก็บ่น ไม่ต้องผลักไสการคิดลบเพราะกลัวว่าจะดูไม่ดี แค่รู้ว่ามันก็เป็นส่วนหนึ่งของเรา และเมื่อผ่านช่วงเวลาหนึ่งเราได้เรียนรู้มันแล้วก็ผ่านมันไปได้ ผู้เขียนชวนให้เรามองหาส่วนที่ “เทา ๆ” ไม่ได้มองแค่ดำกับขาว เท่านั้น
1
ฉันเห็นด้วยกับคุณวิทนีย์ที่บอกว่า “มันไม่ได้ง่าย ๆ แค่ว่า พูดปลุกใจตัวเองวนไป = มีความสุข” การพูดปลุกใจตัวเองเราอาจจะพูดเพราะแค่หวังว่าความรู้สึกจะดีขึ้น ทั้ง ๆ ที่ใจเรายังร้องไห้อยู่ ฉันจึงคิดว่าการพูดปลุกใจตัวเองโดยที่เราไม่ได้รู้สึกเชื่อแบบนั้นไม่ได้ทำให้เรามีความสุขอย่างแท้จริง
เป็นหนังสือที่เป็นชีวิตจริงดีนะ ฉันหมายถึงเราก็ไม่ต้องคิดบวกไปกับทุกเรื่องตลอดเวลาก็ได้ ฉันชอบที่ผู้เขียนยกตัวอย่างการคิดบวกที่มีประโยชน์อันหนึ่งคือ “ให้รู้ไว้ว่าสำหรับบางคนแล้วเขาต้องเรียบเรียงและเคลื่อนผ่านความเจ็บปวดไปให้ได้ก่อนจึงจะรู้สึกถึงความสุขได้” ฉันว่าจริงที่สุดเลย! เราอาจต้องใช้เวลานานนับปี จนกว่าเราจะตกตะกอนอะไรได้เอง แล้วการคิดบวกจริง ๆ และการรู้สึกขอบคุณจริง ๆ มันจะเกิดขึ้นเองในตอนนั้นแหละ
สำหรับใครที่กำลังบอกตัวเองให้ #คิดบวก ทั้ง ๆ ที่ความรู้สึกข้างในยังเศร้าหมอง เหมือนหลอกตัวเองไปวัน ๆ หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคุณมากค่ะ อย่างน้อยก็เหมือนมีคนรับฟัง อนุญาตให้เรารู้สึกเท่าที่เรารู้สึก จากนั้นก็ให้คำแนะนำที่มีความเป็นไปได้ที่เราจะลองทำในชีวิตจริง และมีความหวังว่าสักวันหนึ่งการรักตัวเอง เห็นคุณค่าในตัวเอง มันจะเป็นจริง
FAV QUOTES :
“เมื่อเราเปิดพื้นที่ให้กับความเมตตากรุณาและความเป็นไปได้ เราก็จะสร้างความยืดหยุ่นทางจิตใจขึ้นมา สิ่งนี้จะอนุญาตให้เรามีความเมตตากรุณา ในยามที่คำพูดดี ๆ ฟังดูไม่จริงเลย และสามารถสร้างพื้นที่ให้ความเป็นไปได้ ว่าสักวันหนึ่งมันจะเป็นจริง”
1
#angrindiary #howto #ToxicPositivity
#รีวิวหนังสือ #bookreview
#หนังสือดีบอกต่อ
โฆษณา