9 ก.ย. 2024 เวลา 00:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ลงทุนใน “หุ้นปัจจัยพื้นฐานดี ในช่วงที่ราคาถูก” “หุ้นไทย” กับโอกาสการลงทุนในระยะยาว

ในสถานการณ์ที่ตลาดหุ้นไทยผันผวนในช่วงนี้ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ที่ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด ทำให้มีการซื้อหุ้นขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น รวมถึงจีน ที่พบว่าราคาสินค้าบริโภคในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 0.5% จากปีก่อน นำโดยราคาเนื้อหมูที่พุ่งสูงขึ้น
ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศไทยก็ยังต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ในวิกฤตมักมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ อย่าง “หุ้นปัจจัยพื้นฐานดี” ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ซึ่งเป็นโอกาสดีสำหรับการลงทุนระยะยาว
(อ้างอิง KAOHOON INTERNATIONAL, INNOVESTX สืบค้นข้อมูล ณ วันที่ 12/08/2567)
วันนี้ KTAM จะพาทุกคนไปรู้จักการลงทุนใน “หุ้นปัจจัยพื้นฐานดี” ว่าทำไมถึงเป็นโอกาสของการลงทุนระยะยาว ⏳
หุ้นปัจจัยพื้นฐานดี เป็นหุ้นของบริษัทที่มีความแข็งแกร่งในด้านต่าง ๆ เช่น กำไรที่เติบโตอย่างสม่ำเสมอ สินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง และมีความสามารถในการแข่งขันสูง มีโอกาสที่จะเติบโตไปพร้อมกับบริษัทได้ในระยะยาว
#ข้อดีของการลงทุนหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี
1. ต้นทุนในการลงทุนที่ถูกลง : การเลือกซื้อ “หุ้นปัจจัยพื้นฐานดี” นั้นเป็นการซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ตามแนวคิด "ส่วนเผื่อความปลอดภัย Margin of Safety)" คิดค้นโดยเบนจามิน เกรแฮม บิดาแห่งการลงทุนหุ้นมูลค่า เมื่อสภาพตลาดกลับสู่ภาวะปกติราคาก็อาจจะกลับไปสู่มูลค่าที่ควรจะเป็นในระยะยาว
2. ลงทุนได้แม้ในช่วงตลาดผันผวน : ตลาดที่ผันผวนมักนำไปสู่ภาวะการขายด้วยอารมณ์กลัวขาดทุนของนักลงทุนบางกลุ่ม ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทที่มีพื้นฐานดีอาจตกลงไปด้วยตามสภาพตลาด แต่สำหรับนักลงทุนที่เน้นคุณค่า นี่เป็นโอกาสที่ดีในการซื้อหุ้นที่มีคุณภาพในราคาที่ถูก
3. การปรับสมดุลพอร์ตการลงทุนในช่วงขาลง : ในอดีต หุ้นคุณค่าซึ่งมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในช่วงขาลงของตลาด หุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีมักจะลงไม่มาก การลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้จึงมีความเสี่ยงที่ไม่สูงมาก จึงควรมีการลงทุนหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีในพอร์ตเพื่อปรับความสมดุลให้พอร์ต
4. ทำผลงานได้ดีในช่วงตลาดฟื้นตัว : หลังจากตลาดปรับตัวลง หุ้นปัจจัยพื้นฐานดีมักจะเป็นหุ้นแรก ๆ ในการฟื้นตัว ขณะที่ตลาดเริ่มกลับตัวขึ้น หุ้นที่ถูกประเมินราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุนที่มีความอดทนและศึกษาข้อมูลปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเป็นอย่างดี
*หมายเหตุ : หากธนาคารกลางสามารถวางแผนให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้โดยไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง เป็นสาเหตุที่หุ้นคุณค่าที่มีแนวโน้มเติบโตก็จะแข็งแกร่งขึ้น (ที่มา: https://qrcd.org/Financialreview )
5. ลดความกังวลแก่นักลงทุน :
นักลงทุนลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีจะเห็นศักยภาพการลงทุนในระยะยาว และสามารถหลีกเลี่ยงอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ที่เกิดจากความผันผวนของตลาดในระยะสั้นได้ ช่วยลดความเครียดที่อาจเกิดขึ้นจากความผันผวนของตลาด
(อ้างอิง Oliva Partners Management LLC สืบค้นข้อมูล ณ วันที่ 12/08/2567)
ไม่ได้มีแต่ข้อดีเท่านั้น การลงทุนหุ้นคุณค่า หรือ หุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีนั้นก็มีข้อจำกัดเช่นกัน คือ
1. ต้องใช้เวลาและความอดทน :
หุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีเมื่อลงทุนในตลาดผันผวนแล้วนั้น ยังต้องอดทนรอเวลาในการดูผลประกอบการที่จะได้ผลในการลงทุนระยะยาว
2. ความเสี่ยงต่อกับดักมูลค่า :
ไม่ใช่หุ้นที่ราคาถูกทุกตัวจะมั่นใจได้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นเสมอไป หุ้นบางตัวอาจติดกับดักมูลค่า (Value trap) ซึ่งหมายถึง หุ้นราคาถูกดูเหมือนมีโอกาสเติบโต แต่ในความเป็นจริงกลับไม่เติบโต หรือ เติบโตต่ำกว่าคาดหวัง ทำให้ราคาหุ้นไม่ปรับตัวสูงขึ้นตามมูลค่าพื้นฐาน ส่งผลให้ผลตอบแทนต่ำ หรือ ไม่มีเลย
3. ต้องเชี่ยวชาญและแม่นยำพอ :
ในการระบุหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงนั้นถือเป็นเรื่องยากไม่ใช่น้อย ต้องใช้ทั้งความรู้ที่มากพอในการอ่านงบบริษัทและทำความเข้าใจปัจจัยพื้นฐาน
โดยข้อสุดท้าย KTAM มีผู้เชี่ยวชาญคัดเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีให้ในรูปแบบของกองทุนรวม ช่วยให้นักลงทุนไม่ต้องกังวลเรื่องการเลือกหุ้นเอง
(อ้างอิง fincier สืบค้นข้อมูล ณ วันที่ 12/08/2567)
#แนะนำกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นไทยปัจจัยพื้นฐานดี 🏭
1. กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นทุนปันผล (KTSF)
นโยบายการลงทุน : เน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความมั่นคงและให้ผลตอบแทนที่ดี โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ระดับความเสี่ยงของกองทุน : 6
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://qrcd.org/6N5T
2. กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้น Mid-Small Cap (KTMSEQ)
นโยบายการลงทุน : เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดกลางและหรือขนาดเล็กที่จดทะเบียนใน SET หรือ mai ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และ/หรือ มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ระดับความเสี่ยงของกองทุน : 6
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://qrcd.org/6N5a
#สรุปแล้ว
ในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน การลงทุนใน 'กองทุนหุ้นไทยที่มีพื้นฐานดี' จะช่วยปรับสมดุลพอร์ตการลงทุนและลดผลกระทบจากความผันผวน และยังเป็นการจับจังหวะการลงทุนในราคาที่ดีอีกด้วย หากสนใจลงทุนผ่านกองทุนรวมหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดี “KTSE” และ “KTMSEQ” จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
ลงทุนเลยผ่านแอป KTAM Smart Trade
ลงทุนง่าย สะดวก ปลอดภัย ดาวน์โหลด : https://onelink.to/9a76pb
สอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนที่ ธนาคารกรุงไทย
ผู้สนับสนุนการขาย หรือ บลจ.กรุงไทย
โทร. 02-686-6100 กด 9
คำเตือน : ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน #KTAM #หุ้นไทย
โฆษณา