7 ก.ย. เวลา 01:08 • ประวัติศาสตร์

EP 27 Melodic Memories: เขมรไทรโยคเกี่ยวอะไรกับชาวเขมร? เปิดเบื้องหลังที่หลายคนไม่รู้!

ชาวเขมรในกัมพูชามีอิทธิพลสำคัญทางวัฒนธรรมต่อไทยมานาน โดยเฉพาะในด้านดนตรี หนึ่งในบทเพลงที่สะท้อนการเชื่อมโยงนี้คือ เพลงเขมรไทรโยค ซึ่งได้รับการประพันธ์โดย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ พระองค์เป็นที่รู้จักในฐานะศิลปินและนักดนตรีผู้มีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์และพัฒนาดนตรีไทย พระองค์ได้ผสมผสานดนตรีเขมรเข้ากับดนตรีไทยอย่างลงตัวในบทเพลงนี้
เรื่องราวที่มาของบทเพลง
เพลงนี้มีที่มาจากช่วงเวลาสำคัญทางประวัติศาสตร์เมื่อ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาส น้ำตกไทรโยค ในจังหวัดกาญจนบุรีเมื่อปี พ.ศ. 2431 การเดินทางครั้งนี้ทรงบันทึกไว้ในวรรณกรรมและบทกลอน เนื้อหาที่สะท้อนถึงธรรมชาติอันงดงามและบรรยากาศสงบของไทรโยค ต่อมาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงได้รับแรงบันดาลใจจากการประพาสครั้งนั้น ประกอบกับทำนองดนตรีของเขมร สร้างสรรค์เป็นเพลง เขมรไทรโยค โดยใช้ชื่อเพลงเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงความงดงามของน้ำตกและพื้นที่โดยรอบ
ความหมายของของบทเพลง
บรรยายความตามไท้ เสด็จยาตร ยังไทรโยคประพาสพนาสัณฑ์
น้องเอยเจ้าไม่เคยเห็น ไม้ไร่หลายพันธุ์ คละขึ้นปะปน
ที่ชายชลเขาชะโงกเป็นโกรกธาร น้ำพุพุ่งซ่าน ไหลมาฉาดฉาน
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
แปลความหมายแต่ละท่อน
“บรรยายความตามไท้ เสด็จยาตร ยังไทรโยคประพาสพนาสัณฑ์”
ท่อนนี้กล่าวถึงการเสด็จพระราชดำเนินของพระมหากษัตริย์ (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) มายัง น้ำตกไทรโยค เพื่อประพาสพื้นที่ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ คำว่า "ตามไท้" หมายถึงการตามเสด็จพระราชดำเนิน และ "พนาสัณฑ์" หมายถึงป่าไม้ ท่อนนี้จึงบรรยายถึงการเดินทางเข้าสู่ป่าลึกที่มีความงดงามและบริสุทธิ์
“น้องเอยเจ้าไม่เคยเห็น ไม้ไร่หลายพันธุ์ คละขึ้นปะปน”
ท่อนนี้บรรยายถึงการชมธรรมชาติอันหลากหลายที่ น้อง (หรือผู้ฟัง) อาจไม่เคยเห็นมาก่อน มีพันธุ์ไม้มากมายที่ขึ้นแทรกอยู่ด้วยกัน เป็นภาพของป่าไม้ที่เขียวชอุ่มและอุดมสมบูรณ์ สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่และความเป็นธรรมชาติที่ยังไม่ถูกแปรเปลี่ยนโดยมนุษย์
“ที่ชายชลเขาชะโงกเป็นโกรกธาร น้ำพุพุ่งซ่าน ไหลมาฉาดฉาน”
ท่อนสุดท้ายบรรยายถึงลักษณะของ ชายชล หรือริมน้ำ ที่มีภูเขาชะโงกลงมาเป็นธารน้ำตกที่พวยพุ่งออกมาอย่างสง่างาม สายน้ำที่ไหลอย่างแรงและกระจายเสียงดังก้อง เป็นภาพที่ทั้งสดชื่นและสงบสุข คำว่า "ฉาดฉาน" สื่อถึงเสียงน้ำที่ไหลลงมาด้วยความแรงแต่มีจังหวะ ซึ่งสะท้อนถึงพลังธรรมชาติ
บทสรุป
แม้ไม่มีการระบุผู้แต่งในฐานะผู้ประพันธ์ที่แน่ชัดในทุกแง่มุม แต่ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงเป็นที่ยอมรับว่าเป็นผู้ที่สรรสร้างบทเพลงนี้ขึ้น ในปัจจุบันเพลงนี้ถูกยกย่องว่าเป็นตัวแทนของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมดนตรีไทยและกัมพูชา การใช้ทำนองจากดนตรีเขมรสะท้อนถึงการยอมรับและการซึมซับวัฒนธรรมเพื่อนบ้านอย่างลึกซึ้ง บทเพลงยังคงถูกบรรเลงและใช้ในการแสดงพิธีต่างๆ จนถึงทุกวันนี้ เป็นเครื่องยืนยันถึงความงดงามและความทรงคุณค่าทางดนตรีของบทเพลงนี้
บทความอ้างอิง
  • กรมศิลปากร. ดนตรีไทยและอิทธิพลจากเพื่อนบ้าน. สำนักพิมพ์แห่งประเทศไทย, 2545.
  • วารสารดนตรีศึกษา, มหาวิทยาลัยศิลปากร. บทบาทของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ในดนตรีไทย. 2558.
  • สุจิตต์ วงษ์เทศ. เพลงไทย: ความเป็นมาทางวัฒนธรรม. สำนักพิมพ์ดอกหญ้า, 2538.
  • สถาบันดนตรีไทยศึกษา. ประวัติดนตรีไทยเดิมและบทบาทของเพลงเขมรในดนตรีไทย. 2557.
โฆษณา