12 ก.ย. 2024 เวลา 06:18 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เศรษฐกิจจีนแย่ ขนาดมหาเศรษฐี ‘ลีกาชิง’ยังไม่รอด ลบภาพ ‘ฮ่องกง’ สวรรค์นักช้อป

เศรษฐกิจจีนแย่ ขนาดห้างหรู Heritage ของมหาเศรษฐี ‘ลีกาชิง’ยังไม่รอดร้านแบรนด์หรูในย่านชอปปิง ‘จิมซาจุ่ย’ ทยอยปิดตัวจนร้าง หลังผู้บริโภคชาวจีนลดการใช้จ่าย ทำให้ ‘ฮ่องกง’ อาจไม่ใช่สวรรค์ของนักช้อปอีกต่อไป
ย่าน “จิมซาจุ่ย” สวรรค์ของนักช้อปในฮ่องกงเคยคึกคักด้วยนักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่หลั่งไหลมาชื่นชมความหรูหราของศูนย์การค้า “เฮอริเทจ” (Heritage) สถานที่ท่องเที่ยวสุดคลาสสิกที่เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1881 ซึ่งมีร้านบูติกแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Tiffany, Cartier และ Chopard แต่ในปัจจุบันบรรยากาศกลับตรงกันข้าม ศูนย์การค้าแห่งนี้ดูเงียบเหงาและว่างเปล่าอย่างเห็นได้ชัด
ความว่างเปล่าของศูนย์การค้า Heritage สะท้อนให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาของฮ่องกง และส่งผลกระทบต่อรายได้ของมหาเศรษฐี “ลีกาชิง” (Li Ka-shing) มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของฮ่องกง จากร้านค้ากว่า 30 ยูนิตในศูนย์การค้าที่เป็นของซีเค แอสเซ็ท (CK Asset Holdings) บริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ของลีกาชิง ที่เหลือเปิดทำการเพียง 3 ยูนิตเท่านั้น
สถานการณ์นี้ทำให้ซีเค แอสเซ็ทได้ประกาศแผนปรับปรุงรูปแบบการค้าปลีกของห้างสรรพสินค้า 1881 Heritage โดยจะเน้นไปที่ร้านอาหารและเครื่องดื่มสบาย ๆ รวมถึงแบรนด์ที่ตรงใจกลุ่มลูกค้า Gen Z มากขึ้น
📌‘ฮ่องกง’ ไม่ใช่สวรรค์ของนักช้อปอีกต่อไป
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ฮ่องกงได้รับประโยชน์จากการเติบโตของจีนแผ่นดินใหญ่ เนื่องจากอยู่ใกล้และไม่มีภาษีสินค้าหรือบริการ ในปี 2556 ยอดขายสินค้าฟุ่มเฟือยในฮ่องกงพุ่งสูงถึง 1.6 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง คิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของตลาดค้าปลีกทั้งหมด จากนักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่กว่า 112,000 คน ที่เดินทางมาเยือนฮ่องกงทุกวัน
ทว่าสถานการณ์ปัจจุบันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ยอดขายสินค้าฟุ่มเฟือยที่เคยสูงลิ่วลดลงอย่างมาก และจำนวนนักท่องเที่ยวก็ลดน้อยลงเช่นกัน สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและบทบาทของฮ่องกงในภูมิภาค
เอ็ดวิน ลี ผู้ก่อตั้ง Bridgeway Prime Shop Fund Management เปรียบเทียบสถานการณ์ปัจจุบันของตลาดสินค้าหรูหราในฮ่องกงว่า 'เหมือนเปลี่ยนจากสวรรค์เป็นนรก' โดยระบุว่า 'สมัยที่นักท่องเที่ยวแห่กันมาฮ่องกงเพื่อชอปปิงสินค้าแบรนด์เนมอย่างไม่คิดชีวิตนั้นหมดไปแล้ว'
“ตลาดหรูหราในปัจจุบันไม่น่าจะกลับไปรุ่งเรืองเหมือนช่วงปี 2556-2557 ได้อีกแล้ว และตลาดหรูหราอาจต้องใช้เวลาถึง 4-5 ปี กว่าจะฟื้นตัวกลับไปสู่ระดับปี 2561-2562”
โฆษณา