7 ก.ย. เวลา 13:02 • นิยาย เรื่องสั้น

รักย้อนอดีตภาค3 Space

.
ตอน 15 แม่มดไอสลีน
.
ราชา "ใจเย็นๆภานิชา เรายังไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับแม่มดตนนี้ เจ้าหนูเล่าที่มาที่ไปหน่อยซิ"
.
"อินเดียก็มีวีรบุรุษเหมือนกรีกชื่อ ฮาติม เขาเป็นชายธรรมดาสามัญ ไม่ได้เป็นลูกมหาเทพเหมือนกรีก เขาได้รับพลังปาฏิหาริย์จากพระเจ้าจนทำให้เขาเป็นยอดมหามนุษย์
.
ได้รับภารกิจให้ปราบท่านลอร์ดปีศาจร้าย แต่ภารกิจครั้งนี้จะสำเร็จต้องเดินทางหา
คำตอบ 7 ข้อ ซึ่งเป็นคำถามปริศนาที่ยากเกินกว่าใครบนโลกใบนี้จะตอบได้
.
ภารกิจการไขปริศนาอันลี้ลับนี้ ทำให้ฮาติมต้องผจญภัยมากมายไม่แพ้โอติสซิอุส+เพอร์ซิอุส+เจสันในขนแกะทองคำ รวมทั้งแฮรี่ พ็อตเตอร์ แถมจูแมนจี้ภาคแรกที่โรบิน วิลเลี่ยมแสดง
และ แม่มดไอสลีนเจ้าของปราสาทแห่งความฝันก็เป็น1ในการผจญภัยด้วย แม้นางจะมีอายุนับพันปี ไม่น่าเชื่อว่ายังคงความสาว ความสวย เป็นสาว2พันปี
ต่างจากกาลกูลราวฟ้ากับเหว ตอนที่พี่สาวต่อสู้กับกาลกูลนั้น เวทมนต์ของนางเฒ่าเสื่อมไปจนสิ้นเพราะดวงแก้วแห่งอมตะนคร ไม่ต้องฆ่าแกก็แก่ตายเองอยู่แล้ว ต่างจากแม่มดไอสลีนที่ทั้งเจ้าเล่ห์แสนกล แล้วยังเป็นนักสะกดจิตตัวแม่
.
ภานิชา "ตอนนี้นางแม่มดอยู่ที่ไหน"
.
"เจ้าหนู "นางอยู่ในความฝันของทุกคน"
.
"อยู่ในความฝันของทุกคน แล้วฉันจะปราบนางได้อย่างไร" ภานิชางง
.
"ก็ด้วยสมาธิจิตของพี่สาว" เจ้าหนูตอบ
.
การปราบแม่มดไอสลีนไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะภานิชาไม่เคยเห็นหน้าของแม่มดตนนี้ ต่อให้เธอรวบรวมสมาธิได้ก็ไม่รู้ว่าต้องสู้กับใคร รวมทั้งไม่ต้องการให้เสียเวลาที่มีจำกัด
.
ราชา "ภานิชา ผมจำได้ว่าตอนรู้จักคุณใหม่ๆ คุณเคยใช้Lucid Dream ในการสืบเรื่องราวของดวงตา"
.
"จริงด้วยค่ะ ผู้กอง ฉันลืมไปแล้ว"
.
ดังนั้นองค์ราชาและเจ้าหนูจึงทำการกั้นอาณาเขตให้ภานิชานอน โดยไม่ให้มีสิ่งใดรบกวนเป็นอันขาด เด็กหญิงรับใช้แต่ละคนหายไปหมดแล้ว แม้แต่ปราสาททองคำก็กลายเป็นถ้ำเก่าโทรมเหม็นขี้ค้างคาวทันทีที่มนต์บังตาเสื่อม
.
ภานิชาหลับสนิทมีเสียงกรนเบาๆในขณะที่เธอกำลังฝัน เป็นความฝันที่ดูเป็นความจริงเหลือเกืน
หญิงสาวร่างสูงสวมชุดกระโปรงยาวกรอมพื้น ผมสีทองยาวสลวย ดวงตาสีฟ้าสดใส จมูกโด่ง ผิวขาว กำลังยิ้มให้...แต่ภานิชารู้สึกได้ว่าเสแสร้ง
.
"ยินดีต้อนรับภานิชา เธอคงมาตามแสนสุริยาซีนะ" หญิงนั้นเอ่ยทัก
.
"นางรู้ได้อย่างไร" ภานิชาถาม
.
"แน่นอนว่าข้ารู้ มิเสียแรงที่ข้าสร้างสมความดีงามมาตลอดทั้งชีวิตนับพันปี ในที่
สุดพระเจ้ามอบตาทิพย์ให้ จึงสามารถเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้
ตอนนี้ผู้ชายของเจ้ากำลังนอนพักที่มุมโน้น หลังจากที่ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการหนีธิดายักษ์" หญิงนั้นตอบ
.
"สร้างสมความดีงามมาตลอดทั้งชีวิต แล้วทำไมถึงมาอยู่กลางป่า ทำไมไม่ไปอยู่ในเมือง มาทนลำบากทำไมที่นี่"
.
หญิงนั้นหน้าเศร้า "ทุกคนต่างก็ต้องมีเรื่องที่ไม่อาจบอกได้" แล้วหญิงผู้นั้นก็เดินนำภานิชาลัดเลาะไปยังซอกถ้ำที่อยู่ไม่ไกลนัก
ระหว่างนั้นภานิชาจึงสังเกตว่าแม้นางจะดูสาวแต่ก็มีสิ่งที่ฟ้องถึงวัยชรานั่ นคือมือที่เหี่ยวย่นมากกว่าที่ควรเป็นของหญิงสาว ข้อสำคัญคือดวงตาของนางเป็นแววตาคนแก่
.
ทันทีที่เลี้ยวเข้าสู่ซอกถ้ำหญิงคนนั้นก็หายไป คงเหลือแต่แสนสุริยานอนหลับอยู่บนแท่นหิน ภานิชามองคนรักอย่างแปลกใจ
เมื่อวานที่เธอพบเขาเดินโซเซมาแต่ไกล เขาดูเหมือนแสนสุริยาจริงๆ แต่วันนี้มีบางสิ่งที่แปลกไป บางสิ่งที่เหมือนเส้นผมบังภูเขา
.
แม้ภานิชาจะอยู่ในความฝันแต่เธอยังมีสมาธิจิตที่คงมั่น แทนที่เธอจะโผเข้าหาเขาอย่างที่ควรเป็น เธอกลับยืนนิ่งเพ่งมองเขาอย่างจดจ่อ
แล้วเธอก็พบคำตอบ มือทั้ง2ข้างของแสนสุริยาเหี่ยวย่นเหมือนหญิงคนนั้น ทว่า
ความไวในการใช้ดาบเลเซอร์ของภานิชายังไม่ไวเท่าร่างที่นอนอยู่บนแท่นหินนั้น
ร่างที่พลิกหลบอย่างว่องไวแล้วกลายร่างเป็นหญิงสาวคนนั้น แม่มดไอสลีน "เจ้าไม่ควรระบายลมหายใจของเจ้าตอนที่จะแทงข้า"
ไอสลีนกล่าวเยาะเย้ยก่อนที่ร่างของนางจะหายไป ภานิชาจึงวิ่งไปที่ซอกลึกถัดไป คราวนี้เธอพบแสนสุริยาถึง 4 คน ทุกคนต่างยืนยันว่าเขาคือตัวจริง
 
.
ดาบเลเซอร์ในมือของภานิชาคราวนี้ไม่พลาดเป้าอีก เพราะเธอใช้เพลงดาบระดับTopสุดของโปรแกรมจัดการแสนสุริยาทั้ง4จนครบ พลันก็เหลือแสนสุริยาเพียงคนเดียว
.
"ภานิชา เจ้าฆ่าข้า นางเมียใจโหด" แสนสุริยาร้องมือกุมอกที่เลือดทะลักมาตามง่ามนิ้วมือ ร่างนั้นซวนเซไปปะทะผนังถ้ำ
.
ภานิชาเก็บดาบแล้วพูดว่า "คืนร่างเถอะนางแม่มด เธอหลอกฉันไม่ได้อีก"
.
"เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเป็นข้า" แสนสุริยากลายร่างกลับเป็นแม่มดถามอย่างประหลาดใจ นางไอถี่ๆแล้วทรุดร่างลงด้วยความเจ็บปวด เห็นได้ชัดว่าวาระสุดท้ายคงอยู่ไม่ไกล
.
ภานิชา "เธอหลอกต้มฉันเสียเปื่อยในตอนแรกเพราะฉันไม่เท่าทัน ส่วนตอนที่เธอแปลงเป็นแสนสุริยานอนบนแท่นหินนั้น เธออาจแปลงหน้าตาและรูปร่างแต่มือของเธอแปลงไม่ได้จึงเหี่ยวย่นจนเป็นที่สังเกต
.
ส่วนครั้งที่3 ที่เธอแบ่งภาคเป็นแสนสุริยา4คนนั้น เป็นความฉลาดที่ฉันก็คาดไม่ถึง เธอไม่ทำร้ายคนด้วยการฆ่าเพราะใช้การดูดกินความฝัน
แต่การจะเลือกว่าแสนสุริยาคนไหนเป็นตัวจริงนั้น ฉันต้องมองหน้าทีละคน ซึ่งเปิดโอกาสให้เธอสะกดจิตให้ฉันหลับไปในที่สุดและเป็นการหลับไม่ตื่นอีกเลย
แม้แสนสุริยาคนที่1-2-3จะพลาด แสนสุริยาคนที่4ก็ไม่พลาดอย่างแน่นอน แต่เพราะฉันใช้สมาธิจิตรวมทั้งเหตุผลจึงคิดได้ว่า แสนสุริยาตัวจริงยังอยู่ที่นครอวตาร์
เพราะสุน้นทวัฒน์ทำการหยุดเวลาไว้10วัน ดังนั้นทั้ง4คนจึงไม่ใช่แสนสุริยาแม้แต่คนเดียว"
.
แม่มดไอสลีนไอถี่มากกว่าเดิมโลหิตยังคงทะลัก แต่นางก็ฝืนยิ้มและพูดด้วยเสียงกระท่อนกระแท่น
"ข้าไม่เสียใจเลยภานิชาที่ตายด้วยฝีมือเจ้า ขอให้ข้าได้ตอบแทนที่เจ้าปลดปล่อยข้าจากคำสาปแสนยาวนานด้วยคำแนะนำนี้นั่นคือ..........."
.
ภานิชาไม่ได้บอกสิ่งที่ไอสลีนแนะนำให้องค์ราชารับรู้เพราะเห็นว่าไม่สำคัญ เธอไม่อาจรู้ได้ว่าคำแนะนำของไอสลีน จะเป็นประโยชน์ต่อเธอในอนาคตอีกไม่นานจากนี้(อยู่ในภาค6)
 
.
เธอเพียงข้องใจว่าทำไมมนต์สะกดจึงใช้กับ10ทิศไม่ได้ คำตอบก็คือ"เวทย์มนต์จะใช้ได้กับสิ่งมีชีวิตเท่านั้น แต่ใช้กับข้าไม่ได้เพราะข้าไม่มีความฝัน"
.
จากนั้นพวกเขาก็ออกเดินทางต่อไป โดย 10 ทิศกลายร่างเป็นยานความเร็วสูงเพื่อชดเชยเวลาที่เสียไปหลายวันในปราสาทแห่งความฝัน กระนั้นก็ยังใช้เวลาเดินทาง
ถึง1วัน1คืนเต็มๆ
.
จบตอน 15 โปรดติดตามตอนต่อไปจนจบภาค 3 เร็วๆนี้ เริ่มพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2567
.
ภาพปกจาก เตือนภัยพิบัติโลก ต้นไม้น้ำแข็งในอุทยานแห่งชาติแจสเปอร์ ประเทศแคนาดา ถ่ายภาพโดยเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก
.
อุทยานแห่งชาติแจสเปอร์เป็นส่วนขยายที่ใหญ่ที่สุดของอุทยานแห่งชาติในเทือกเขาร็อกกี้ของแคนาดา ตั้งอยู่ในจังหวัดอัลเบอร์ตา ครอบคลุมพื้นที่ 11,000 ตารางกิโลเมตร
.
มีธารน้ำแข็งอันยิ่งใหญ่ของทุ่งน้ำแข็งโคลัมเบีย แหล่งน้ำร้อน ทะเลสาบ และ น้ำตก สัตว์ที่โดดเด่นที่สุดได้แก่ กวางมูซ แพะภูเขา แกะเขาใหญ่ หมีดำ หมีสีเทา และกวางแคริบู
โฆษณา