8 ก.ย. เวลา 15:21 • หุ้น & เศรษฐกิจ

“มองไกล” แล้วคว้าโอกาสจากตลาดหุ้นมาซะ

.
คนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นชอบเล่นเกมเร็ว ระยะไม่เกิน 6 เดือน ถ้าเราสามารถควบคุมอารมณ์ ให้ไม่แห่ตามฝูงชน และมองระยะยาวได้ โอกาสสำเร็จในการลงทุนของคุณจะสูงขึ้นมากครับ
.
ผมขอยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นสักหน่อยนะครับ
.
ตัวแรก ADVANC บริษัทกำไรลดลงมาตลอดทางตั้งแต่ปี 2016 เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรง ราคาหุ้นจมไปแถว 150 บาท แล้วก็ติดอยู่ในช่วงต่ำกว่า 200 บาทอยู่นาน จะว่าไปแล้ว ต้นปีที่ผ่านมา ราคายังอยู่แถว 190 บาทอยู่เลย
.
ตอนราคาหุ้นตกไปช่วงปี 2016 แล้วราคาไม่ขึ้นอันนี้ไม่เท่าไหร่ครับ คนไม่สนใจซื้อก็ไม่แปลก เพราะไม่มีใครรู้ว่าการแข่งขันจะไปจบลงที่ตรงไหนและเมื่อไหร่… แต่ตั้งแต่มีการควบรวมของ TRUE & DTAC และ AIS & 3BB เมื่อต้นปีที่แล้วมันคือช่วงที่เราสามารถรู้ได้แล้วครับว่า “การแข่งขันมันจบลงแล้ว และกำไรบริษัทจะกลับเป็นขาขึ้น”
.
ยิ่งไปกว่านั้น Gross Profit Margin ก็ยืนยันเรื่องนี้ไว้แล้วอย่างชัดเจน ตั้งแต่ Q2 ปีที่แล้ว Margin เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรก หลังจากลงมาตลอดทางตั้งแต่ปี 2016 ไม่ใช่แค่นั้นครับ หลังจากนั้น Margin ปรับตัวสูงขึ้นทุกไตรมาส ไม่เว้นแม้แต่ไตรมาสเดียว จนมาถึงปัจจุบัน
.
จะว่าไป เรื่องนี้ไม่ซับซ้อนเลย ทุกคนสามารถเข้าใจได้ไม่ยาก
… แล้วทำไมคนส่วนใหญ่กลับไม่มีหุ้น ADVANC อยู่ในมือในเวลานี้ ?
.
เป็นเพราะคนส่วนใหญ่ไม่ชอบมองยาวครับ และก็ต้องยอมรับว่า ถ้าเรามองจากระยะไม่เกิน 3 เดือน เราก็ไม่รู้จริงๆ นั่นแหละครับ ว่าเมื่อไหร่ราคาหุ้น ADVANC ถึงจะขึ้น ถือหุ้นไปก็เสียเวลาเปล่าๆ
.
แต่สำหรับนักลงทุนที่มองไกล เค้าถือหุ้น ADVANC ที่ราคาต่ำ 200 บาท รอไว้นานแล้วครับ พวกเค้าไม่รู้หรอกครับว่าราคาหุ้นจะขึ้นเมื่อไหร่ รู้แต่ว่าการแข่งขันจบลงแล้ว ยังไงกำไรก็จะต้องขึ้น และถ้ากำไรขึ้นแล้วเดี๋ยวราคาหุ้นและปันผลมันก็จะขึ้นตามมาเอง ในระหว่างที่นั่งรอก็กินปันผล 4-5% ไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะไม่เยอะ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเสียหายอะไร
.
นี่แหละครับ มุมมองที่แตกต่างกันสุดขั้ว ของนักลงทุนที่มองไกล กับนักลงทุนทั่วไป
.
ตัวอย่างเรื่องการ ”มองไกล” ยังมีอีกเยอะครับ เขียนทั้งวันก็ไม่หมด ทั้งราคาหุ้นโรงพยาบาลและท่องเที่ยวที่ตกลงไปช่วงโควิดจนเหมือนมนุษย์จะเลิกเข้าโรงพยาบาลและท่องเที่ยวหลังโควิด… ซึ่งในความเป็นจริง ผมว่าคนส่วนใหญ่รู้ว่ามนุษย์อย่างพวกเราไม่เลิกเข้าโรงพยาบาล และไม่เลิกท่องเที่ยวหรอกครับ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่กลับไม่กล้าลงทุนในช่วงนั้น เพียงเพราะว่า ถ้ามองระยะสั้นแล้ว ไม่รู้ว่าราคาหุ้นจะลงไปถึงตรงไหน
.
.
.
พอพูดแบบนี้ อาจจะมีบางคนบอกว่า
“ใช่สิ ผ่านมาแล้ว จะพูดอะไรก็ได้ ?”
.
ผมอยากจะบอกว่า ลองมองอย่างไม่มีอคติ แล้วถามตัวเองว่า เรื่องที่ผมพูดถึงมันเป็นเรื่องที่ยากเกินกว่าที่เราจะเข้าใจได้ในเวลาที่มันเกิดขึ้นรึเปล่า ? ไม่เลยครับ มันไม่ได้ยากเลย ทุกคนสามารถเข้าใจมันได้
.
ที่สำคัญกว่าเรื่องในอดีตก็คือ เรื่องนี้ยังเกิดอยู่ตลอด ไม่เว้นแม้แต่ในปัจจุบัน ยังมีโอกาสแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นในหุ้นหลายตัว
.
.
.
การลงทุนหุ้นในตลาดหุ้นให้กำไรอาจจะไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ (แต่แน่นอนว่ามันไม่ง่าย) ประเด็นสำคัญก็คือ เราต้องกล้าที่จะแตกต่าง ยืนอยู่เหนืออารมณ์ตลาด มองให้ไกลกว่าคนส่วนใหญ่ และมีความเข้าใจในธุรกิจที่เราลงทุน เราจะมองเห็นโอกาส และเป็นผู้ชนะตลาดหุ้นได้ในที่สุดครับ
.
#Salarymanติดปีก
▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃
หากคุณเป็นนักลงทุน ที่ทำควบคู่งานประจำ
หรือชอบเนื้อหาของ Salaryman ติดปีก
ฝากกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเรา
และจะได้ไม่พลาดเนื้อหาใหม่ๆ ของเรา ด้วยนะครับ
▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃
โฆษณา